TEAMG วิ่งฉิว 4 วันติด บวกต่อเกือบ 5% หลังคว้างานใหม่ 2 โครงการ มูลค่ารวม 150.35 ลบ.
TEAMG วิ่งฉิว 4 วันติด บวกต่อเกือบ 5% หลังคว้างานใหม่ 2 โครงการ มูลค่ารวม 150.35 ลบ. โดย ณ เวลา 15.01 น. ราคาอยู่ที่ระดับ 2.58 บาท เพิ่มขึ้น 0.12 บาท หรือ 4.88% สูงสุดที่ระดับ 2.60 บาท ต่ำสุดที่ระดับ 2.46 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 103.28 ล้านบาท
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ราคาหุ้น บริษัท ทีม คอนซัลติ้ง เอนจิเนียริ่ง แอนด์ แมเนจเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ TEAMG ณ เวลา 15.01 น. อยู่ที่ระดับ 2.58 บาท เพิ่มขึ้น 0.12 บาท หรือ 4.88% สูงสุดที่ระดับ 2.60 บาท ต่ำสุดที่ระดับ 2.46 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 103.28 ล้านบาท
ทั้งนี้ ปรับตัวเพิ่มขึ้นทำจุดสูงสุดในรอบเกือบ 2 เดือน นับตั้งแต่ราคาหุ้นอยู่ที่ระดับ 2.66 บาท เมื่อวันที่ 13 ก.ค.61 อีกทั้งปรับตัวขึ้นต่อเนื่อง 4 วันติด นับตั้งแต่ราคาหุ้นอยู่ที่ระดับ 2.42 บาท เมื่อวันที่ 28 ก.ย.2561
โดยปัจจัยที่ส่งผลให้ราคาหุ้นปรับตัวเพิ่มขึ้น คาดว่ามาจากการที่ TEAMG ได้รับงานใหม่ 2 โครงการ มูลค่ารวม 150,345,500 บาท
TEAMG เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 21 ก.ย.61 บริษัทได้ลงนามเป็นผู้รับจ้างในสัญญาที่ปรึกษาประจำ (In house) สำนักงานคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (สกพอ.) เพื่อสนับสนุนงานด้านวิศวกรรม สถาปัตยกรรม เศรษฐกิจสังคม และสิ่งแวดล้อมของโครงการพัฒนาสนามบินอู่ตะเภา และเมืองการบินภาคตะวันออก (โครงการ) ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2561 ซึ่งอยู่ภายใต้การดูแลของกองทัพเรือ (ทร.) ให้เป็นไปตามที่คณะกรรมการนโยบายและรัฐบาลกำหนด
โดยการได้มาซึ่งโครงการดังกล่าวเป็นรายการธุรกิจปกติและเป็นไปตามเงื่อนไขทางการค้าโดยทั่วไปที่บริษัทได้อนุมัติไว้แล้ว มูลค่าโครงการ 39,500,000 บาท ระยะเวลาดำเนินงาน 180 วัน
อีกทั้ง เมื่อวันที่ 28 ก.ย.61 ได้ลงนามเป็นผู้รับจ้างในสัญญาที่ปรึกษาเพื่อออกแบบและจัดทำแผนแม่บทการพัฒนาเมืองโดยรอบสถานีรถไฟความเร็วสูง/สถานีรถไฟทางคู่/ศูนย์คมนาคมขนส่งในพื้นที่ศักยภาพของประเทศไทย จากสำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.)
ทั้งนี้ เพื่อพัฒนาความสามารถในการแข่งขันด้านเศรษฐกิจ การลงทุน สังคม และสิ่งแวดล้อม ให้เป็นไปอย่างบูรณาการสอดคล้องกัน แผนแม่บทดังกล่าวยังครอบคลุมการพัฒนาพื้นที่เขตเมืองโดยรอบเครือข่ายการคมนาคม ให้เป็นจุดเปลี่ยนถ่ายการเดินทางที่มีศักยภาพและลดปัญหาการเติบโตของเมืองอย่างไร้ทิศทาง (Urban Sprawl)
ทั้งนี้ โครงการดังกล่าวถือเป็นโครงการในระยะเริ่มต้นของแผนยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี โดยมีจุดมุ่งหมายเพื่อกระตุ้นการเติบโตที่ยั่งยืนทางเศรษฐกิจ และพัฒนาประเทศไทยสู่ความมั่งคั่ง และยั่งยืน ตามวิสัยทัศน์ของประเทศ
โดยการได้มาซึ่งโครงการดังกล่าวเป็นรายการธุรกิจปกติและเป็นไปตามเงื่อนไขทางการค้าโดยทั่วไปที่บริษัทได้อนุมัติไว้แล้ว มูลค่าโครงการ 398,400,000 บาท (ส่วนของบริษัท 110,845,500 บาท) ระยะเวลาดำเนินงาน 540 วัน