ชัดแล้ว! กกพ.”เบรค” GPSC จับตาหุ้นGLOW ราคาดิ่ง? หลังวิ่งรับเทนเดอร์ฯ 96.5 บาทก่อนหน้านี้

ชัดแล้ว! กกพ."เบรค" GPSC จับตาหุ้น GLOW ราคาดิ่ง? หลังวิ่งรับเทนเดอร์ฯ 96.5 บาทก่อนหน้านี้


นางสาวนฤภัทร อมรโฆษิต เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) เปิดเผยว่า คณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) มีมติเป็นเอกฉันท์ ไม่อนุมัติคำขอเพื่อรวมกิจการ โดยการเข้าซื้อหุ้นส่วนใหญ่ของ บริษัท โกลบอล เพาเวอร์ ซินเนอร์ยี่ จำกัด ผมหาชน) หรือ GPSC ใน บริษัท โกลว์ พลังงาน จำกัด (มหาชน) หรือ GLOW เนื่องจากการดำเนินการดังกล่าวส่งผลต่อการลดการแข่งขันในการให้บริการพลังงาน ซึ่งขัดต่อเจตนารมณ์ของกฎหมาย พระราชบัญญัติการประกอบกิจการพลังงาน พ.ศ. 2550 รวมทั้งการพิจารณาของ กกพ. ยังเป็นการพิจารณาที่ตระหนักถึงการสร้างบรรทัดฐานในการพิจารณาในระยะยาวด้วย

“กกพ.มีมติเป็นเอกฉันท์ และไม่อนุญาตให้ จีพีเอสซีในฐานะผู้ผลิตและจำหน่ายไฟฟ้าได้รับอนุญาต ซึ่งก่อนหน้าได้ยื่นขออนุญาตต่อ กกพ. เพื่อขอเข้ารวมกิจการกับ โกลว์ ซึ่งเป็นผู้ผลิตและจำหน่ายไฟฟ้ารับอนุญาตภายใต้เงื่อนไขของกฎหมายที่เกี่ยวข้อง และหลังจาก กกพ. พิจารณาแล้วพบว่าการรวมกิจการดังกล่าวส่งผลให้พื้นที่อุตสาหกรรมในบางพื้นที่ จะมีบริษัทที่มีอานาจการบริหารกิจการไฟฟ้าลดลงเหลือเพียงรายเดียว จึงเป็นการลดการแข่งขัน ถึงแม้ว่าจะอยู่ในพื้นที่การให้บริการไฟฟ้าของการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) ก็ตาม และ กกพ.เชื่อมั่นว่า มติที่เกิดขึ้นจะเป็นการสร้างบรรทัดฐานที่ดีและถูกต้องในระยาวด้วย” นางสาวนฤภัทร กล่าว

นางสาวนฤภัทร กล่าวอีกว่า กกพ.ยังมีการพิจารณาในประเด็นของบางพื้นที่อุตสาหกรรมดังกล่าว ซึ่งผู้รับบริการอาจมีทางเลือกในการรับบริการจากผู้ประกอบการรายอื่น ได้แก่ กฟภ. และอาจจะทาให้ลดการแข่งขัน ก็พบว่าการให้บริการของ กฟภ.ก็ไม่สามารถทดแทนการให้บริการของลูกค้ากลุ่มโกลว์ ได้ เนื่องจากเหตุผลทางคุณภาพ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นผู้ประกอบการอุตสาหกรรมปิโตรเคมีที่ต้องการความมีเสถียรภาพ

รวมทั้ง กฟภ.ยังต้องจำหน่ายไฟฟ้าในราคาเดียวกันทั่วประเทศ (Uniform Tariff) ทำให้ไม่สามารถให้อัตราส่วนลดกับผู้รับบริการได้ ส่งผลให้เกิดการลดการแข่งขันดังกล่าว

ทั้งนี้ ภายใต้พระราชบัญญัติการประกอบกิจการพลังงาน พ.ศ. 2550 มาตรา 60 และระเบียบที่เกี่ยวข้องกำหนดให้ กกพ. มีอำนาจในการออกระเบียบ กำหนดหลักเกณฑ์ เพื่อมิให้มีการกระทาการใดใด อันเป็นการผูกขาด ลดการแข่งขัน หรือจำกัดการแข่งขันในการให้บริการพลังงาน และกรณีของ จีพีเอสซี ซึ่งเข้าซื้อหุ้นส่วนใหญ่ของโกลว์ จึงเป็นการรวมกิจการ เข้าเงื่อนไขของการที่ผู้รับใบอนุญาตรายหนึ่งเข้าครอบงำผู้รับอนุญาตอีกรายหนึ่งซึ่งไม่สามารถทำได้ เว้นแต่จะขออนุญาตต่อ กกพ.เพื่อให้พิจารณาเหตุผล และความจำเป็นที่เพียงพอ หรือเป็นประโยชน์ต่อสาธารณะ หรือผู้ใช้พลังงาน

นางสาวนฤภัทร กล่าวย้ำว่า กกพ. เชื่อมั่นว่าการพิจารณาและมีมติดังกล่าวได้ยึดมั่นในการส่งเสริมและสนับสนุน แนวทางการค้าเสรี อย่างเป็นธรรม สร้างบรรยากาศที่ดีต่อการลงทุนทั้งภายในประเทศ และการลงทุนจากต่างประเทศ โดยก่อนหน้านี้ กกพ.ได้รับการร้องเรียนจากกลุ่มองค์กรธุรกิจ นักธุรกิจ ทั้งในและนอกประเทศ รวมทั้งนักการเมือง และผู้ที่อาจได้รับผลกระทบจากการรวมกิจการดังกล่าว ได้ยื่นหนังสือต่อ กกพ.เพื่อให้พิจารณาในประเด็นการผูกขาดธุรกิจ และอาจส่งผลกระทบต่อผู้ได้รับบริการพลังงาน เพื่อให้ทบทวนและพิจารณาประเด็นดังกล่าวอย่างรอบคอบ

สำหรับขั้นตอนหลังจากนี้ กกพ.จะได้แจ้งคำสั่งไม่อนุญาตไปยังผู้ที่เกี่ยวข้อง พร้อมทั้งแจ้งสิทธิในการอุทธรณ์ตามระเบียบ และจัดทำกรอบหลักการในการพิจารณาเรื่องรวมกิจการตามแนวทางข้างต้น เพื่อใช้เป็นแนวปฏิบัติต่อไป

ทั้งนี้ จากการตรวจสอบข้อมูลของ ข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์ พบว่า ราคาหุ้น GLOW นับตั้งแต่วันที่มีประกาศแผนซื้อกิจการเมื่อวันที่ 15 มิ.ย.2561 ปรับตัวขึ้นมาอย่างต่อเนื่องจนขึ้นมาสู่ระดับสูงสุดที่ 95 บาท โดยเป็นการไล่ซื้อราคาของนักลงทุนที่คาดหวังได้ผลตอบแทนใกล้เคียงราคาเทนเดอร์ฯ ซึ่งอยู่ที่ระดับ 96.50 บาท

อย่างไรก็ตาม ภายหลังจากมีการรายงานข่าวดังกล่าวซึ่งมีความชัดเจนว่าการซื้อกิจการดังกล่าวไม่เป็นไปตามแผนจึงคาดว่าจะส่งผลให้ราคาหุ้น GLOW ปรับตัวลดลงมาสู่ระดับราคาเดิมก่อนจะมีการประกาศแผนซื้อกิจการก่อนหน้านี้

 

Back to top button