PLANB ดาวเด่น! ลุ้นรับเม็ดเงินโฆษณาทะลัก

สิ่งสำคัญยังมีข้อมูล PLANB ล่าสุดมาตอกย้ำความเชื่อมั่นที่มีต่อการขยายตัวของธุรกิจสื่อนอกอาคาร


รายงานพิเศษ

ด้วยแนวโน้มเศรษฐกิจที่ดีต่อเนื่อง ประกอบกับมีปัจจัยบวกจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจจากภาครัฐอย่างต่อเนื่อง ทั้งการเลือกตั้งที่จะเกิดขึ้นในเร็ว ๆ นี้ รวมถึงการเปิดพื้นที่เศรษฐกิจพิเศษ  การส่งออก และการท่องเที่ยว ซึ่งผลดังกล่าวจะสร้างความมั่นใจให้นักธุรกิจและภาคเอกชนหันมาลงทุนในประเทศไทยมากขึ้น พร้อมกับผู้บริโภคกลับมาจับจ่ายใช้สอยมากขึ้น

ปัจจัยข้างต้นคาดว่าจะส่งผลให้หลาย ๆ สินค้าใช้งบฯโฆษณาผ่านสื่อเพิ่มขึ้นในช่วงไตรมาสสุดท้ายและต่อเนื่องไปในอนาคต ซึ่งจะทำให้กลุ่ม “ทีวี-อินเทอร์เน็ต” ได้รับประโยชน์จากประเด็นดังกล่าว

ตามข้อมูล นายรัฐกร สืบสุข อุปนายกสมาคมมีเดียเอเยนซี่ มองว่าสำหรับปี 2562 คาดว่าการใช้งบฯโฆษณาผ่านสื่อจะโต 4% หรือมีมูลค่า 121,286 ล้านบาท ประกอบด้วย ทีวีจิทัล 69,200 ล้านบาท โต 5%, สื่อนอกบ้าน 7,150 ล้านบาท โต 5%, สื่อเคลื่อนที่ 6,200 ล้านบาท โต 5% และสื่ออินเทอร์เน็ต 18,716 ล้านบาท โต 25%

ขณะที่ เคเบิลทีวี ทีวีดาวเทียม 1,800 ล้านบาท ติดลบ 25%, วิทยุ 4,600 ล้านบาท ไม่เติบโตจากปี 2561, หนังสือพิมพ์ 4,575 ล้านบาท  ติดลบ 25%, แมกกาซีน 845 ล้านบาท ติดลบ 35%, สื่อในโรงภาพยนตร์ 7,100 ล้านบาท ไม่เติบโตจากปี 2561, สื่อ ณ จุดขาย 1,100 ล้านบาท ไม่เติบโตจากปี 2561

ด้วยข้อมูลข้างต้น  บล.เคทีบี (ประเทศไทย) จึงมีมุมมองเชิงบวก โดยมองว่ากรอบการเลือกตั้งที่ชัดเจน และเศรษฐกิจที่คาดว่าจะขยายตัวดีในปีหน้า จะหนุนให้ทีวีขยายตัวและสื่อนอกบ้านเติบโตโดดเด่นต่อเนื่องและยาวไปถึงปี 2563 เนื่องจากผู้ประกอบการสินค้าอุปโภคบริโภคที่หมุนเวียนเร็ว (FMCG) จะใช้งบโฆษณามากขึ้นเพื่อกระตุ้นยอดขาย

สำหรับสื่อนอกบ้านและมองว่าหุ้นที่ได้รับประโยชน์ คือ บริษัท แพลน บี มีเดีย จำกัด (มหาชน) หรือ PLANB ยังคงให้คำแนะนำ “ซื้อ” ให้ราคาเป้าหมาย 8 บาท ซึ่งมีส่วนแบ่งการตลาดสูงสุดในกลุ่มสื่อดิจิทัล ขณะที่ บริษัท วี จี ไอ โกลบอล มีเดีย จำกัด (มหาชน) หรือ VGI และ บริษัท มาสเตอร์ แอด จำกัด (มหาชน) หรือ MACO ยังไม่มีการรับรอบคำแนะนำและราคาเป้าหมาย (NR)

ส่วนสื่อทีวียังมองว่าหุ้นที่ได้รับประโยชน์จะเป็นกลุ่มที่มีเรตติ้ง Top5 อย่าง บริษัท บีอีซี เวิลด์ จำกัด (มหาชน) หรือ BEC คงคำแนะนำ “ถือ” ให้ราคาเป้าหมาย 8.60 บาท ต่อมา บริษัท อาร์เอส จำกัด (มหาชน) หรือ RS คงคำแนะนำ “ซื้อ” ให้ราคาเป้าหมาย 24.60 บาท ส่วน บริษัท เวิร์คพอยท์ เอ็นเทอร์เทนเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ WORK ให้คำแนะนำ “ขาย” ให้ราคาเหมาะสม 36 บาท และ บริษัท โมโน เทคโนโลยี จำกัด (มหาชน) หรือ MONO ยังไม่มีการรับรอบคำแนะนำและราคาเป้าหมาย (NR)

ดังนั้นจากกลุ่มมีเดีย คงยกให้ PLANB เป็น Top pick ของกลุ่มฯ

เนื่องจากมีการคาดกำไรสุทธิปี 2561 ของ PLANB จะทำสถิติสูงสุดใหม่ที่ 639 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 38.7% จากงวดเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไร 460.52 ล้านบาท

สิ่งสำคัญยังมีข้อมูล PLANB ล่าสุดมาตอกย้ำความเชื่อมั่นที่มีต่อการขยายตัวของธุรกิจสื่อนอกอาคาร โดยเม็ดเงินโฆษณาผ่านสื่อนอกอาคารในเดือน ก.ย. 2561 อยู่ที่ 601 ล้านบาท (เพิ่มขึ้น 3.8% จากงวดเดียวกันของปีก่อน) เติบโตสวนทางกับเม็ดเงินโฆษณารวมที่ปรับลดลง 2.4% จากงวดเดียวกันของปีก่อน โดยเป็นการปรับลดลงในกลุ่มสื่อหนังสือพิมพ์ ทีวี และนิตยสาร เป็นหลัก

ขณะที่ในช่วง 9 เดือนแรก เม็ดเงินโฆษณาผ่านสื่อนอกอาคารอยู่ที่ 5,074 ล้านบาท (เพิ่มขึ้น 7.6% จากงวดเดียวกันของปีก่อน) ก็สามารถเติบโตได้ดีกว่าสื่อโฆษณารวมที่ทรงตัวในระดับ 78,495 ล้านบาท (ลดลง 0.6% จากงวดเดียวกันของปีก่อน)

อีกทั้งเชื่อว่าแนวโน้มผลประกอบการในช่วงที่เหลือของปีของ PLANB เติบโตอย่างโดดเด่น

1) แผนการขยายพื้นที่โฆษณาจอดิจิทัลปี 2561 กว่า 35 จอในเขตกรุงเทพฯ โดยเฉพาะจอดิจิทัลขนาดใหญ่บริเวณหน้าห้าง Central World ที่เปิดให้บริการแล้วในเดือน มิ.ย. สามารถเพิ่ม Capacity ได้กว่า 200 ล้านบาทต่อปี โดยคงประมาณการ Capacity ปี 2561 ไว้ที่ 4.7 พันล้านบาท (เพิ่มขึ้น 8.6% จากงวดเดียวกันของปีก่อน)

2) คาดว่า Utilization Rate ของบริษัทเพิ่มขึ้นจาก 71% ในครึ่งปีแรก 2561 เป็น 75% ในครึ่งหลังของปี 2561 จากการ Synergy ธุรกิจหลักกับธุรกิจ Engagement Marketing ของบริษัท (สมาคมฟุตบอลฯ BNK48 และ Thai E-League Pro)

3) High Season ของธุรกิจสื่อโฆษณา

4) เริ่มรับรู้รายได้จากการเข้าลงทุนใน BNK48 Office ช่วงปลายเดือน มิ.ย.ที่ผ่านมา ขณะที่การเลือกตั้งในช่วงครึ่งหลังของปี 2562 จะสนับสนุน Utilization Rate ของบริษัทในช่วง Low Season ได้เป็นอย่างดี

ดังนั้น หุ้น PLANB จึงเป็นดาวเด่น เนื่องจากสื่อโฆษณานอกบ้านที่ยังสามารถเติบโตได้สวนทางกับสื่อรวมนั่นเอง !!!

Back to top button