“บล.เออีซี”ชี้SETวันนี้แกว่งตัวในกรอบ 1655-1675 จุด ชู 3 หุ้นเด่นเน้นกำไรโต-อัพไซด์สูง30%

“บล.เออีซี”ชี้SETวันนี้แกว่งตัวในกรอบ 1655-1675 จุด ชู 3 หุ้นเด่นเน้นกำไรโต-อัพไซด์สูง30%


บล.เออีซี ประเมินดัชนีวันนี้ (22ต.ค.61) เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมานี้ SET Index ปรับลง 15.0 จุด ปิดที่ 1,667.91 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขายทั้งหมด 6.2 หมื่น ลบ. โดยนักลงทุนต่างชาติยังคงขายสุทธิติดต่อกัน 13 วันทำการ คิดเป็นมูลค่าตั้งแต่ต้นเดือน ต.ค.เกือบ 5.0 หมื่น ลบ.สำหรับวันนี้คาด SET Index จะแกว่งตัวในกรอบ 1,655-1,675 จุด หลังสัญญาน้ำมันดิบชะลอการปรับตัวลงในเคืนวันศุกร์ที่ผ่านมาคาดอาจหนุนหุ้นกลุ่มพลังงานเกิด Technical Rebound

Investment Strategy

Technical View สัปดาห์นี้คาด SET Index แกว่งตัวในกรอบ Broadening Formation โดยมีแนวรับ 1,655 จุด และแนวต้าน 1,685จุด (EMA 5 วัน) ยังคงแนะนำเลือกหุ้นเข้าพอร์ตการลงทุน ที่มีสัญญาณซื้อทางเทคนิคโดยแบ่งออกเป็น 2 กลยุทธ์ในเชิงเทคนิคคัลดังนี้ 1. กลุ่ม Aggressive: หุ้นที่อยู่ในกรอบขาขึ้น แต่มีการพักตัว ได้แก่กลุ่มสาธารณูปโภค (TTW), กลุ่มนิคม (WHA), กลุ่มรับเหมาก่อสร้าง (STEC), กลุ่มโรงไฟฟ้า (WHAUP) และ 2. กลุ่ม Defensive: หุ้นทางต่ำที่รอเริ่ม Cycle รอบใหม่ ได้แก่กลุ่มสาธารณูปโภค (EASTW), กลุ่มโรงพยาบาล (THG), กลุ่มอาหาร (HTC), กลุ่มวัสดุก่อสร้าง (EPG), กลุ่มนิคม (ROJNA)

หุ้นกลุ่มน้ำตาล (Trading): ด้วยอานิสงส์บวกจากราคาน้ำตาลโลกฟื้นตัวจากเดือน ส.ค. 61 ที่มีราคาราว 9 เซนต์ต่อปอนด์ ซึ่งปัจจุบันราคาปรับตัวขึ้นมาอยู่ที่13.89 เซนต์ต่อปอนด์ทำ New High ในรอบ 4.5 เดือน เนื่องจากปริมาณน้ำตาลส่วนเกินปรับตัวลดลงขณะที่ปริมาณการใช้น้ำตาลเพิ่มขึ้นทุกๆ ปีตามความต้องการใช้ที่เพิ่มขึ้น มองเป็นปัจจัยบวกต่อหุ้นกลุ่มน้ำตาล เลือก BRR, KSL

 

Market Talk

JKN (BUY:TP@13.20): แม้ช่วง ไตรมาส3/61 คาดกำไรสุทธิหดตัวทั้ง QoQ และ เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน จากฐานที่สูงในปีก่อน (เกิดจากมีการเร่งส่งมอบ Content ก่อนเข้าสู่ช่วงจอดำ) บวกกับมีการบันทึกค่าใช้จ่ายงาน Diamond Blue (Showcase) 15 ลบ. (ปกติบันทึกช่วง 4Q61) แต่เรายังคาดช่วง 4Q61 กำไรสุทธิจะกลับมาโตสดใส หลังเริ่มส่งมอบ Content ให้กับลูกค้าช่องใหม่ 2 ช่อง, รับรู้ค่าจัดจำหน่ายลิขสิทธิ์ Content ช่อง 3, รับรู้รายได้จากกลุ่ม CLMV มากขึ้น และไม่มีการบันทึกค่าใช้จ่ายงาน Showcase เช่นปีก่อน + Upside 13.8% จึงมองการปรับลงแรงวานนี้เป็นจังหวะเข้าซื้อ

SAWAD (BUY:TP@56): กำไรช่วงไตรมาส3/61 คาดโตทั้ง QoQ และ เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน หลังมีสัดส่วนการรับรู้รายได้ดอกเบี้ยจากเงินกู้ยืมที่ปล่อยผ่าน BFIT มากขึ้น (ดอกเบี้ยสูงกว่าสัญญาเดิมที่เป็นสัญญาเช่าซื้อ) บวกกับแนวโน้มการตั้งสำรองหนี้ที่น้อยลงจากผลของคุณภาพสินทรัพย์ที่ดีขึ้นและการทยอยปรับนโยบายตั้งสำรองของ BFIT ให้เหมือนกับอุตสาหกรรม (เปลี่ยนเป็นหักมูลค่าหลักประกันก่อนคำนวณวงเงินตั้งสำรองหนี้ฯ) + Upside 30.2%

MAJOR (BUY:TP@31.80) ช่วง 2H61 คาดกำไรโต เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน หนุนด้วย Sentiment ภาคครัวเรือนที่ดีขึ้นหลังผ่านพ้นช่วงไว้อาลัย บวกกับคาดรายได้ค่าตั๋วหนังและ Concession ที่ได้อานิสงส์บวกจากหนัง Block Buster และหนังไทยในช่วงปลายปีมีความน่าสนใจมากกว่าปีก่อน (Venom,  Aquaman, นาคี 2) อีกทั้งคาดรายได้โฆษณาในโรงหนังโตดี   (มาร์จิ้นสูง) สอดคล้องกับเม็ดเงินของอุตสาหกรรมเดือน ม.ค.-ก.ย. โต 9.4% + Upside 32 และคาดให้ Div.Yield อีก 4.6%

Back to top button