ขึ้นด้วยการเมือง..ลงด้วยความจริง

*จริง ๆ “โมนิก้า” อยากเล่าเรื่องการลงทุนด้านบวกให้แฟนคลับได้รับรู้กันอย่างเต็มอุรา เพื่อบิลต์อารมณ์ให้นักเล่นเกิดความฮึกเหิมในการตะลุยซื้อหุ้น แต่เผอิญดันมีเรื่องสอดแทรกขึ้นมาจากพวกปากหอยปากปู เดี๊ยนเลยต้องเงี่ยหูฟังสิ่งที่บรรดาขาเผือกเม้าท์กันอย่างสนุกสนาน มันมีเหตุผลที่น่ารับฟังมากขนาดไหน ? และเป็นประโยชน์กับพลพรรคแมงเม่าจริงไหม ?


เจาะกระดาน : โมนิก้าและทีมงาน

*จริง ๆ “โมนิก้า” อยากเล่าเรื่องการลงทุนด้านบวกให้แฟนคลับได้รับรู้กันอย่างเต็มอุรา เพื่อบิลต์อารมณ์ให้นักเล่นเกิดความฮึกเหิมในการตะลุยซื้อหุ้น แต่เผอิญดันมีเรื่องสอดแทรกขึ้นมาจากพวกปากหอยปากปู เดี๊ยนเลยต้องเงี่ยหูฟังสิ่งที่บรรดาขาเผือกเม้าท์กันอย่างสนุกสนาน มันมีเหตุผลที่น่ารับฟังมากขนาดไหน ? และเป็นประโยชน์กับพลพรรคแมงเม่าจริงไหม ?

*ผลลัพธ์ที่ปรากฏออกมาพบว่า มีประเด็นหลักที่บรรดา ขาใหญ่ ขาเล็ก พูดเหมือนกันในเที่ยวนี้คือ หุ้นกลุ่มบลูชิพโดนถล่มอย่างหนักหน่วง ยื่นมือเข้าไปรับทีไร..มือขาดทุกที หรือบางครั้งเผลอ เคาะขวาแบบรัว ๆ..ติดดอยเฉยเลย พร้อมกับสำทับเหตุการณ์เมื่อสัปดาห์ก่อนคือตัวอย่างของใบสั่งทำหุ้นทางการเมืองของแท้แน่นอน จึงรู้สึกขนลุกขนพองเมื่อเห็นหุ้นกระชากขึ้นแรง ต่อจากนั้นย้อยตัวลงมาในแดนลบนะจ๊ะ

*จุดที่น่าสนใจดันมีข่าวเม้าท์กันให้แซ่ด..ดด เกี่ยวกับบทบาทของ กบข. ออกมาในทำนองเป็นพวก “เอ่อ ออ ห่อ หมก” พร้อมกับมีการเอ่ยถึงคนใหญ่คนโตที่เก่งแต่พูดอย่าง “เฮีย ว.” ..เอาเข้าจริงก็เป็นพวกโลกสวยที่ชอบเดินเล่นบนทุ่งลาเวนเดอร์ จึงทำให้บทบาทของกองทุนไม่มีอะไรน่าติดตาม แต่จู่ ๆ ดันลุกขึ้นมารับลูกนายใหญ่ที่มาเยี่ยมเยียนด้วยการสั่งลุยซื้อหุ้นกว่า 30 ตัวที่เข้าเกณฑ์แบบนี้..แมงลือเขาเรียกว่า “อยู่เป็น”…อิอิอิ

*ประเด็นดังกล่าวถูกย้ำหัวหมุดด้วยการเคลื่อนตัวของดัชนีที่ติดลบ 27 จุดในช่วงภาคเช้า ต่อจากนั้นวิ่งขึ้นมายืนปิดบวก 20 จุดในภาคบ่าย ก่อนจะทรุดตัวลงมาปิดที่ 1,628.96  จุด ลบไป 15.37 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 4.09 หมื่นล้านบาท “โมนิก้า” ถือเป็นช็อตที่ทำให้ทุกคนเชื่อเช่นนั้นมากขึ้นไปอีก ! เพราะมันไม่สามารถหาเหตุผลที่ดีพอมาอธิบายเรื่องราวที่เกิดขึ้นได้นะซี

*เหมือนกับการถีบตัวขึ้นของ CPALL ก่อนจะปิดไปที่ระดับ 63.75 บาท บวกไป 0.25 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 1.79 พันล้านบาท ทั้งที่หุ้นอยู่ในทิศทางขาลงเป็นเวลาหลายเดือน “โมนิก้า” ถือเป็นช็อตอันตรายสำหรับพวกเชื่องช้า เพราะของมันเห็นกันเต็มตาว่า ฝรั่งหัวทองไม่เอา..กองทุนไม่เล่น ส่งผลให้การขึ้นเที่ยวนี้น่าจะเป็นเพียง “ดีดกลับเพื่อลงต่อ” นะจะบอกให้

*เช่นเดียวกับหุ้นปูนใหญ่ SCC ครั้งก่อนโดนบอมบ์หนักจนลงมาแถว 400 บาท ก่อนจะเด้งกลับขึ้นไปถึง 460 บาท ส่วนเที่ยวนี้ลงมาแตะแถว 400 บาทเช่นกัน ต่อจากนั้นเด้งขึ้นไปถึง 420 บาท  ก่อนจะปิดเกมด้วยการยืนปิดที่ 408 บาท ลบไป 12 บาท หรือลงไป 2.90% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 1.28 พันล้านบาท “โมนิก้า” ถือเป็นช็อตวัดใจที่นักเล่นต้องอ่านทิศทางลมให้ดีก่อนตะลุยไม่คิดชีวิตนะคะ

*ส่วนที่กู่ไม่กลับอย่าง WORK น่าจะเป็นอีกหนึ่งช็อตที่ทำให้นักเล่นได้มีเวลาคิดสักพักหนึ่งว่า เมื่อหุ้นออกอาการเป๋เกินระดับ 5% บรรดาแมงเม่าต้องตัดใจขายหุ้นทิ้งโดยไม่มีข้อแม้ แถมเมื่อย้อนดูความเคลื่อนไหวของหุ้นในช่วงต้นปีอยู่ที่ระดับ 80 บาท ยิ่งทำให้เห็นว่า หุ้นตัวนี้หมดสตอรี่แล้วจริง ๆ เดี๊ยนถึงเห็นราคาหุ้นล่าสุดยืนที่ระดับ 29.75 บาท ลบไป 1.25 บาท หรือลงไป 4% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 105 ล้านบาทไงล่ะคะ

*สำหรับรายที่เจ็บหนักจนต้องร้อง อุ๊ ๆ อิ ๆ พร้อมกับครางชื่อหุ้นแน ! ออกมาเป็นภาษาต่างดาว “โมนิก้า” คงต้องย้อนกลับไปดูเส้นทางของหุ้น ORI เพื่อทำให้เห็นว่า เมื่อเครื่องมือทางการเงินไม่เวิร์ก ผสมโรงกับบรรยากาศการลงทุนไม่เป็นใจ บวกกับผลการดำเนินงานออกมาแบบไหนไม่รู้ หุ้นก็เลยดิ่งลงจากระดับ 13 บาท ลงมานอนกองอยู่ที่ระดับ 9 บาท ลบไป 0.30 บาท หรือลงไป 3.20% ด้วยมูลค่าซื้อขาย 91 ล้านบาท เดี๊ยนบอกได้ทันทีว่า หุ้นปันผลไม่คุ้มกับที่เสียนะจะบอกให้

*ส่วนรายที่เริ่มดันรอบใหม่อย่างเมามัน “โมนิก้า” ต้องยกตำแหน่งให้กับหุ้นยาง STA กระชากขึ้นสวนภาวะตลาดหุ้นที่แดงเถือกขึ้นมาปิดที่ 17.20 บาท บวกไป 0.50 บาท หรือขึ้นไป 3% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 343 ล้านบาท น่าจะเกี่ยวข้องกับของดีที่ยังไม่ได้ออกมาโชว์ให้เห็น บรรดานกรู้ถึงวิ่งเข้าใส่มือเป็นระวิงตลอดทั้งวัน พร้อมกับเปิดโอกาสให้ขึ้นไปทดสอบแนวต้านเก่าบริเวณ 18 บาทอีกรอบแบบนี้..ระวังไว้หน่อยก็ดีเหมือนกันเจ้าค่ะ

*ผิดกับในรายของ DOD มีสตอรี่เกี่ยวกับ growth ค่อนข้างชัดเจน และในไฟลิ่งก็บอกไว้ชัดเจนว่า ธุรกิจกำลังอยู่ในช่วงขยายตัวทั้งในประเทศและต่างประเทศ “โมนิก้า” ถึงไม่วอร์รี่กับการขึ้นลงของหุ้นตัวนี้สักเท่าไหร่ เพราะของมันเห็นกันทนโท่ว่า งบปี 61 กำไรต่อหุ้นน่าจะอยู่ราว ๆ 1.20 บาท เมื่อเทียบกับ P/E 16 เท่า (เท่ากับตลาด) ราคาเป้าหมายจะอยู่ที่ 19 บาทเชียวน่า ! เลยทำให้ราคาล่าสุดที่ 14 บาท บวกไป 0.50 บาท หรือขึ้นไป 3.70% ด้วยมูลค่าซื้อขาย 81 ล้านบาท ยังมีแก๊ปให้เล่นอีกเพียบ เพราะหุ้นเพิ่งเริ่มผงกหัวนะคะ

Back to top button