ขึ้นตามดาวโจนส์!

*สาเหตุที่ทำให้ “โมนิก้า” ต้องจั่วหัวออกมาในแนวฮาร์ดคอร์เพื่อทำให้ผู้เล่นเข้าใจถึงรูปแบบการซื้อขายหุ้นในเที่ยวนี้เกิดจากอิทธิพลต่างประเทศเป็นหลัก เลยทำให้การขยับเขยื้อนตัวของดัชนีไม่เป็นไปตามธรรมชาติ และทำให้นักเล่นต้องชะเง้อตามองดัชนีดาวโจนส์เป็นประจำทุกค่ำคืน ส่งผลให้ภาพของการลงทุนออกไปในแนวคุกกี้เสี่ยงทายซะมากกว่านะตัวเอง


เจาะกระดาน : โมนิก้าและทีมงาน

*สาเหตุที่ทำให้ “โมนิก้า” ต้องจั่วหัวออกมาในแนวฮาร์ดคอร์เพื่อทำให้ผู้เล่นเข้าใจถึงรูปแบบการซื้อขายหุ้นในเที่ยวนี้เกิดจากอิทธิพลต่างประเทศเป็นหลัก เลยทำให้การขยับเขยื้อนตัวของดัชนีไม่เป็นไปตามธรรมชาติ และทำให้นักเล่นต้องชะเง้อตามองดัชนีดาวโจนส์เป็นประจำทุกค่ำคืน ส่งผลให้ภาพของการลงทุนออกไปในแนวคุกกี้เสี่ยงทายซะมากกว่านะตัวเอง

*เมื่อเหตุการณ์ทั้งหมดออกมาในแนวนี้ “โมนิก้า” ก็ควรให้ความสำคัญกับการเคลื่อนตัวของดัชนีดาวโจนส์ เพราะเมื่อดูในรายละเอียดจริง ๆ น้องดาวก็อยู่ในทิศทาง sideway down ซึ่งเป็นช็อตกดดันการเคลื่อนตัวตลาดหุ้นทั่วโลก เดี๊ยนถึงมีอาการกล้า ๆ กลัว ๆ เมื่อเห็นตลาดหุ้นไทยพุ่งแรงตามเป็นประจำ เพราะคาดเดาการเคลื่อนตัวของตลาดหุ้นในวันถัดไปยากเหลือเกินเจ้าค่ะ

*งานนี้ถึงต้องถามใจผู้เล่นทั่วสารทิศว่า เมื่อเห็นดัชนีวิ่งขึ้นมาปิดที่ 1,669.09 จุด บวกไป 30.58 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 5.42 หมื่นล้านบาท มันเกิดจากวันก่อนน้องดาวขึ้นแรงอีกรอบ หรือเกิดจากทำตัวเลขปิดบัญชีในไตรมาส 3 “โมนิก้า” ถึงอยากให้เหล่านักเล่นดูกันเอาเองว่า วันนี้ควรจะทำตัวอย่างไร ? เพราะเกมหุ้นเที่ยวนี้ไม่ง่ายเหมือนอย่างที่คิด บวกกับมีคำร่ำลือว่า ยิ่งสูง..ยิ่งหนาว คล้อยตามหลังมาติด ๆ มันน่ากังวลกันไหมล่ะคะ

*คล้ายกับการเด้งขึ้นของหุ้น AOT เมื่อลงมาแตะระดับ 60 บาทแบบทันทีทันใด “โมนิก้า” มองเป็นเรื่องที่นักเล่นพออ่านเกมเล่นรอบออกอย่างทะลุปรุโปร่ง จึงกระโจนเข้าใส่มือเป็นระวิงเมื่อหุ้นเริ่มกระดกหัวขึ้น จนวานนี้ขึ้นมาปิดที่ระดับ 64 บาท บวกไป 1.50 บาท หรือขึ้นไป 2.40% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 2.85 พันล้านบาท ก็เป็นอีกครั้งที่ต้องมองยอดเก่าบริเวณ 67 บาทเป็นจุดขายทำกำไรนะจะบอกให้

*เช่นเดียวกับในรายของ PTT มีการเคาะขวาแบบไม่ยั้ง เมื่อหุ้นลงมาแตะบริเวณ 48 บาท จนวานนี้หุ้นพุ่งขึ้นมาปิดที่ 51 บาท บวกไป 1.75 บาท หรือขึ้นไป 3.55% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 3.63 พันล้านบาท “โมนิก้า” กล้าฟันธงแบบไม่กลัวหน้าแหกในทันทีว่า นี่เป็นการเล่นรอบครั้งที่ 3 ซึ่งทำให้เดี๊ยนต้องมองยอดบนที่บริเวณ 53 บาทเป็นจุด take profit เจ้าค่ะ

*ส่วนรายที่แรงแบบไม่เกรงใจใครทั้งสิ้น “โมนิก้า” คงต้องหันไปมองน้องสวย BEAUTY กระชากขึ้นแบบไม่มีลิมิตชีวิตเกินร้อย จนสุดท้ายปิดไปที่ระดับ 10 บาท บวกไป 1.20 บาท หรือขึ้นไป 13.65% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 1.99 พันล้านบาท น่าจะเป็นหุ้นอีกหนึ่งตัวที่ลุ้นไปต่อแบบสนุกสุดเหวี่ยง แต่มีข้อแม้ว่าต้องผ่านด่านแรกบริเวณ 10.80 บาทให้ได้เสียก่อน ! ต่อจากนั้นค่อยมองยอดเก่าบริเวณ 12.30 บาทนะจะบอกให้

*สำหรับในรายของโอสถทิพย์ (หุ้นตกจะกลายเป็นโอสถพิษ) OSP ทะยานขึ้นแรงติดต่อกันเป็นวันที่ 2 ก่อนจะปิดไปที่ระดับ 25.75 บาท บวกไป 1.15 บาท หรือขึ้นไป 4.70% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 1.92 พันล้านบาท พร้อมกับฟอร์มตัวเป็นแบบ V-Shape ค่อนข้างชัดเจน “โมนิก้า” ถึงอยากให้ขาลุยมองยอดเก่าบริเวณ 30 บาทไปเลยดีกว่า ! เพราะดันหุ้นกันทั้งที..ต้องดันให้สุด ถ้าดันไม่สุด..หุ้นจะตกลงแรงกว่าปกตินะจะบอกให้

*ประเด็นนี้ดูตัวอย่างได้จากน้องท็อป TOP มีการเคลื่อนไหวแบบเรื่อย ๆ เปื่อย มาเป็นเวลานาน แต่ทุกครั้งที่ถึงจังหวะกระชากขึ้นแรง พ่อทูนหัวรายนี้ก็ไม่เคยรออะไรทั้งสิ้นเหมือนกัน “โมนิก้า” ถึงมองการวิ่งขึ้นมาปิดที่ 84.75 บาท บวกไป 4.50 บาท หรือขึ้นไป 5.60% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 792 ล้านบาท น่าจะเป็นการขึ้นแล้วแกว่งตัวออกด้านข้าง 3-4 วัน ต่อจากนั้นจะกระชากไปทดสอบแนวต้านบริเวณ 90 บาทอีกรอบ..หากผ่านไปได้จะวิ่งยาวเลยนะคะ

*ส่วนในรายของ DTAC ไม่ว่าจะมี “ข่าวดี” หรือ “ข่าวร้าย” ราคาหุ้นก็เคลื่อนตัวไปมาในกรอบราคา 40-50 บาทเป็นส่วนใหญ่ (บางทีอาจไหลลงไปถึง 35 บาท) “โมนิก้า” ถึงรู้สึกเฉย ๆ เมื่อเห็นราคาหุ้นกระชากขึ้นมาปิดที่ 47.50 บาท บวกไป 1.75 บาท หรือขึ้นไป 3.80% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 677 ล้านบาท มันไม่มีอะไรพิเศษไปมากกว่ากองทุนเข้ามาดันหุ้นเพื่อปิดบัญชีเจ้าค่ะ

*สำหรับในรายที่เคาะหุ้นมัน โดยไม่ต้องถามหาเหตุผล “โมนิก้า” ขอชี้เป้าไปยังหุ้น SGF เพื่อตอกย้ำการเล่นหุ้นรอบใหม่ได้เริ่มขึ้นอีกครั้ง วานนี้ถึงเห็นหุ้นวิ่งขึ้นมาปิดที่ 1.62 บาท บวกไป 0.04 บาท หรือขึ้นไป 2.50% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 108 ล้านบาท มันเป็นไฟต์บังคับที่หุ้นต้องมองแนวต้านแรกบริเวณ 1.65 บาทไปให้ได้ก่อน ต่อจากนั้นค่อยขยับขึ้นไปดูแถว 1.76 บาทนะจ๊ะ

*ผิดกับในรายของหุ้นพื้นฐานพิมพ์นิยมรายล่าสุดอย่าง DOD ยังเป็นช็อตเด็ดสำหรับการเคาะขวาเพื่อหาเงินค่าขนมเข้ากระเป๋า เพราะยิ่งใกล้วันประกาศงบเข้ามามากเท่าไหร่ ราคาหุ้นยิ่งมีโอกาสกระชากขึ้นไปมากเท่านั้น หลังตลาดอาหารเสริม และสมุนไพรเติบโตต่อเนื่อง “โมนิก้า” ถึงมองการขึ้นมาปิดที่ 14.40 บาท บวกไป 0.40 บาท หรือขึ้นไป 2.90% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 106 ล้านบาท  ยังมีแก๊ปให้วิ่งต่ออีกเยอะ เพราะหุ้นเทรดบนค่า P/E 20 เท่าเองจ้า !

Back to top button