BCP กับยุค “เล็กไม่..ใหญ่ทำ”.!?

จับตาวิชั่น “คิดการใหญ่” ของบริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ BCP ภายใต้แม่ทัพใหญ่ “ชัยวัฒน์ โควาวิสารัช” สมัย 2 ที่มาพร้อมแผนลงทุน 4 ปี (2562-2565) ลงทุน 77,000 ล้านบาท ด้วยเป้าหมายกำไรก่อนหักภาษีและค่าเสื่อมฯ (EBITDA) ปี 2566 อยู่ที่ 30,000 ล้านบาท


พลวัตปี  2018 : สุภชัย ปกป้อง

จับตาวิชั่น “คิดการใหญ่” ของบริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ BCP ภายใต้แม่ทัพใหญ่ “ชัยวัฒน์ โควาวิสารัช” สมัย 2 ที่มาพร้อมแผนลงทุน 4 ปี (2562-2565) ลงทุน 77,000 ล้านบาท ด้วยเป้าหมายกำไรก่อนหักภาษีและค่าเสื่อมฯ (EBITDA) ปี 2566 อยู่ที่ 30,000 ล้านบาท

โดย EBITDA ที่ว่า..จะมาจากธุรกิจโรงกลั่นและการค้าน้ำมัน 26% จากปัจจุบัน 49%, ธุรกิจการตลาด 12% จากปัจจุบัน 17%, ธุรกิจโรงไฟฟ้า 17% จากปัจจุบัน 21%, ธุรกิจผลิตภัณฑ์ชีวภาพ 9% จากปัจจุบัน 6% และธุรกิจทรัพยากรธรรมชาติ 36% จาก 7%

เริ่มจากกลุ่มธุรกิจโรงกลั่นและการค้าน้ำมัน จากปัจจุบันกำลังผลิตสูงสุด 120,000 บาร์เรลต่อวัน มีแผนยกระดับเพิ่มกำลังการกลั่นถึงระดับ 135,000 บาร์เรลต่อวัน ช่วงปี 2563 ควบคู่กับโครงการปรับปรุงประสิทธิภาพโรงกลั่น YES-R Project และโครงการ 3E (Efficiency, Energy, and Environment Improvement)

กลุ่มธุรกิจการตลาด มีเป้าหมายเพิ่มส่วนแบ่งการตลาดเป็น 18% จากปัจจุบัน 15.8% โดยมีแผนจะเพิ่มสัดส่วน EBITDA จากการขยายธุรกิจไปต่างประเทศ 10% และเพิ่มสัดส่วนรายได้ธุรกิจ Non-oil และ Lube เป็น 30% ในปี 2565

กลุ่มธุรกิจผลิตภัณฑ์ชีวภาพ ที่ดำเนินการผ่านบริษัท บีบีจีไอ จำกัด (BBGI) ปัจจุบันมีกำลังผลิตไบโอดีเซลและเอทานอลรวม 1.8 ล้านลิตรต่อวัน พร้อมก้าวสู่ผู้นำอุตสาหกรรมชีวภาพ จากแผนการลงทุน Bio Hub ที่จะเห็นเป็นรูปธรรมภายในปีนี้

กลุ่มธุรกิจไฟฟ้า วางเป้าหมายกำลังผลิตไฟฟ้าในมือ 1,000 เมกะวัตต์ จากปัจจุบันมีกำลังผลิตไฟฟ้าในมือราว 600 เมกะวัตต์ โดยเดินเครื่องผลิตไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ (COD) แล้วราว 380 เมกะวัตต์

กลุ่มธุรกิจทรัพยากรธรรมชาติ บริษัทถือหุ้นเป็นอันดับ 2 ใน Lithium Americas Corp. ซึ่งมีกำลังการผลิตในเฟสที่ 1 ปริมาณ 25,000 ตันต่อปีและสามารถขยายกำลังการผลิตได้ถึง 50,000 ตันต่อปี หลังได้รับสิทธิการจำหน่าย หรือนำไปป้อนเป็นวัตถุดิบให้โรงงานแบตเตอรี่ลิเทียม ที่เพียงพอสำหรับรถยนต์ไฟฟ้า 62,500 คันต่อปี

กลุ่มการลงทุนธุรกิจต้นน้ำ โดยบริษัท OKEA ประเทศนอร์เวย์ กำลังการผลิตปิโตรเลียม 25,000 บาร์เรลต่อวัน ที่มีเป้าหมาย EBITDA จากการลงทุนเพิ่มขึ้น 11,000 ล้านบาทต่อปี

ช่วง 2-3 ปีนับจากนี้จะได้เห็นการลงทุนกลุ่ม BCP ที่ให้น้ำหนักไปที่โรงไฟฟ้าและธุรกิจผลิตภัณฑ์ชีวภาพ พร้อมการลงทุนธุรกิจต้นน้ำทั้งสำรวจและผลิตปิโตรเลียมและเหมืองลิเทียม ส่วนธุรกิจการตลาดและโรงกลั่นน้ำมันจะไม่เห็นการลงทุนมากนัก

นี่เป็นอีกก้าวการเติบโตของ BCP พร้อมพลวัตทางธุรกิจที่เปลี่ยนไป จากภาพจำเดิม ๆ คือ “โรงกลั่นน้ำมันเก่า” ที่เกือบตายไปกับช่วงวิกฤตต้มยำกุ้งปี 2540 จนถึงปัจจุบันไม่หลงเหลือภาพจำเดิม ๆ อีกต่อไปแล้ว..

จึงเป็นที่มาของวิชั่น “คิดการใหญ่” หาก “ต้องการเติบโต” เพราะสถานะ BCP ตอนนี้ “คิดเล็กแค่อยู่รอด” ไม่ได้อีกต่อไปแล้ว..!??

ประมาณว่า “เล็ก ๆ BCP ไม่..ใหญ่ ๆ BCP ทำ” อะไรทำนองนั้นเลยทีเดียว..

Back to top button