พาราสาวะถี

ไม่รู้ว่า “ใครอย่างหนา” กว่ากัน ระหว่างผู้ออกคำสั่งกับผู้รับคำสั่ง เสียงวิจารณ์อื้ออึงกับคำสั่งหัวหน้าคสช.ที่ 16/2561 แก้ปัญหาการแบ่งเขตเลือกตั้ง ทำไมถึงมองว่าเป็นปัญหาและทำไมถึงต้องใช้คำสั่งพิเศษ ก็เมื่อไม่กี่วันก่อน อิทธิพร บุญประคอง ประธานกกต.เพิ่งบอกกับนักข่าวเองมิใช่หรือ อ้างเหตุล่าช้าไม่มีนัยแอบแฝงแต่เป็นเพราะปัญหาสุขภาพของตัวเอง ภายใน 2-3 วันจะนำเรื่องประกาศแบ่งเขตเลือกตั้งไปประกาศในราชกิจจานุเบกษา


อรชุน

ไม่รู้ว่า “ใครอย่างหนา” กว่ากัน ระหว่างผู้ออกคำสั่งกับผู้รับคำสั่ง เสียงวิจารณ์อื้ออึงกับคำสั่งหัวหน้าคสช.ที่ 16/2561 แก้ปัญหาการแบ่งเขตเลือกตั้ง ทำไมถึงมองว่าเป็นปัญหาและทำไมถึงต้องใช้คำสั่งพิเศษ ก็เมื่อไม่กี่วันก่อน อิทธิพร บุญประคอง ประธานกกต.เพิ่งบอกกับนักข่าวเองมิใช่หรือ อ้างเหตุล่าช้าไม่มีนัยแอบแฝงแต่เป็นเพราะปัญหาสุขภาพของตัวเอง ภายใน 2-3 วันจะนำเรื่องประกาศแบ่งเขตเลือกตั้งไปประกาศในราชกิจจานุเบกษา

แต่คล้อยหลังแค่ไม่เท่าไหร่กลับมีคำสั่งดังว่าออกมา นั่นทำไมเสียงทักท้วงก่อนหน้านี้ว่า เหตุของการไม่ยอมประกาศแบ่งเขตเลือกตั้ง เป็นเพราะมีรูปแบบของการแบ่งเขตงอกออกมาจาก 3 เขตที่กกต.ได้แบ่งไว้ มีรูปแบบที่ 4 ที่ 5 หมายความว่าอะไร หมายความว่าผู้มีอำนาจที่ต้องการชนะการเลือกตั้งยังไม่พอใจต่อการแบ่งเขตดังกล่าวใช่หรือไม่ แล้วใครกันที่ “โกหกคำโต”

มาถึงพ.ศ.นี้คงไม่ต้องมีอะไรกระมิดกระเมี้ยนและไม่ต้องอ้างกันแบบข้าง ๆ คู ๆ ประชาชนไม่ได้กินหญ้า ต่างก็รู้ดีว่าสิ่งที่เห็นและเป็นไปนั้นเพราะอะไรและเพื่ออะไร มันติดเพียงแค่ว่าคนทั่วไปโดยเฉพาะที่ไม่เห็นด้วยไม่มีใครกล้าออกมาวิจารณ์หรือคัดค้านอย่างเปิดเผย เพราะอะไรย่อมรู้กันดีอยู่ ทั้งหมดมันจึงอยู่ที่สำเหนียกและใจอันบริสุทธิ์ของผู้ที่ใช้อำนาจ

จะว่าไปแล้ว กระบวนการที่องคาพยพของคณะเผด็จการดำเนินการมาทั้งหมด เรียกได้ว่าเอื้อประโยชน์ให้แบบสุดลิ่มทิ่มประตู ได้เปรียบคู่แข่งขันแบบสุดกู่ โดยเฉพาะการเลือกตั้งแบบจัดสรรปันส่วนผสม แต่ผลเวลาปฏิบัติบวกเข้ากับความนิยมที่เสื่อมทรุด จึงทำให้เนติบริกรที่ร่วมหัวจมท้ายกันมามองเห็นว่า โอกาสที่จะพ่ายแพ้ในสนามเลือกตั้งมีสูง จึงต้องพลิกตำรากันอีกกระทอก

การใช้มาตรายาวิเศษยืดอายุเลือกตั้ง จึงถือเป็นไม้ตายสุดท้ายอันเด็ดขาด ไม่ต้องสนหน้าอินทร์หน้าพรหม สิ่งที่ฟังความเห็นประชาชนมาแค่พิธีกรรม แต่เมื่อไม่ได้ตามใจฉันก็ต้องทำกันใหม่ ซึ่งการโกงเลือกตั้งลักษณะเช่นนี้ บรรดานักกฎหมายชั้นครูต่างรู้ดีอย่างที่ พนัส ทัศนียานนท์ อดีตคณบดีคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ วิเคราะห์ไว้ว่าจะมีการ “โกงเลือกตั้งโดยวิธีการแบ่งเขตเลือกตั้ง” หรือที่เรียกกันว่า “Gerrymandering”

ส่วนวิธีการ Gerrymandering นั้นมีที่มาที่ไปอย่างไร ในเว็บไซต์เดอะโมเมนตัม ได้มีคำอธิบายไว้อย่างชัดเจน โดยชี้ให้เห็นว่าวิธีการดังกล่าวอเมริกันชนเรียกกันว่าเป็นช่องทางแฮ็กประชาธิปไตยด้วย Big Data ซึ่งคำว่าบิ๊กดาต้า เราก็จะได้ยินได้ฟังจากท่านผู้นำและทีมเศรษฐกิจของคณะเผด็จการตอกย้ำอยู่เป็นประจำ แม้จะอ้างว่าไม่ได้เกี่ยวข้องกันกับสิ่งที่ถูกมองว่ากำลังเตรียมการโกงก็ตาม

สำหรับวิธีการโกงเลือกตั้งแบบดังกล่าวนั้น มีจุดกำเนิดมาจากการที่ Elbridge Gerry ผู้ว่าการรัฐแมสซาชูเซตส์ ได้ออกกฎหมายเปลี่ยนแปลงเขตเลือกตั้งสมาชิกวุฒิสภาเพื่อประโยชน์แก่เพื่อนสมาชิกพรรคตั้งแต่ปี 1812 และมีหนังสือพิมพ์ฉบับหนึ่งได้นำเรื่องดังกล่าวไปวาดการ์ตูนล้อเลียนหน้าตาของแผนที่ที่ถูกแบ่งใหม่นั้นเหมือนกับซาลาแมนเดอร์โดยพาดหัวว่า Gerry-mander ซึ่งกลายเป็นคำฮิตติดปากและถูกใช้เรียกขานจนถึงปัจจุบัน

ถามต่อว่า เทคนิคการขีดเส้นแบ่งเขตการเลือกตั้งนั้นจะมีผลมากขนาดนั้นเชียวหรือ คำตอบคือมากเลยทีเดียว กล่าวคือการแบ่งเขตเลือกตั้งมี 2 รูปแบบคือ กระจุก และกระจาย  เพราะจุดบอดหนึ่งของประชาธิปไตยคือการตัดสินผู้ชนะจากเสียงส่วนใหญ่ นั่นหมายถึงว่า ไม่ว่าเสียงที่ได้จะเป็น 51 เปอร์เซ็นต์หรือ 99 เปอร์เซ็นต์ก็มีค่าเท่ากับหนึ่งที่นั่งเท่ากัน

การขีดเส้นใหม่โดยกวาดกลุ่มประชาชนที่สนับสนุนฝ่ายที่ผู้มีอำนาจต้องการให้แพ้ไปกระจุกอยู่ใน 2 เขตเลือกตั้ง และกระจายประชากรที่เหลือให้กลายเป็นเสียงส่วนน้อยในอีก 3 เขตการเลือกตั้ง จะทำให้พรรคที่ต้องการให้ชนะพลิกมากำชัยได้ราวกับเล่นกล บอกแล้วว่ายุคนี้สิ่งที่เรียกว่าอภินิหารนั้นเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา เพราะมองว่าใครก็ไม่อาจจะเสนอหน้ามาคัดค้านหรือมีก็ไม่มีพลังและไม่มีผลกระทบใด ๆ

หากยังไม่ลืมกันก็จะเห็นได้ว่า มีกลุ่มการเมืองบางกลุ่มที่เพิ่งจะยกโขยงไปร่วมงานกับพรรคของเผด็จการ ถึงกับวางตัวผู้สมัครกันไว้เสร็จสรรพพร้อมประกาศเขตเลือกตั้งกันโต้ง ๆ ทั้ง ๆ ที่พรรคการเมืองส่วนใหญ่ยังตั้งตารอดูเขตเลือกตั้งกันอยู่ว่าหน้าตาจะออกมาอย่างไร ตรงนี้ก็น่าจะพอเป็นข้อสังเกตได้ว่า มีการเตรียมการอะไรกันไว้ เหลืออยู่แค่ว่าจะมีคำแก้ตัว อุ๊บ! อธิบายจากองค์กรอิสระที่ไม่อิสระอย่างไรเท่านั้นเอง

จากคำสั่งดังกล่าวไม่ได้มีแค่เรื่องการแบ่งเขตเลือกตั้งเท่านั้น แต่ยังมีการขยายเวลาให้พรรคการเมืองสามารถดำเนินการสรรหาผู้สมัครรับเลือกตั้ง ได้จนถึงวันสมัครรับเลือกตั้ง จากที่เดิมพรรคการเมืองจะต้องสรรหาและผู้สมัครจะต้องสังกัดพรรคการเมืองไม่น้อยกว่า 90 วันก่อนวันเลือกตั้ง ตีความกันง่าย ๆ ในประเด็นนี้คือเปิดช่องให้บรรดาอดีตส.ส.ตัดสินใจย้ายพรรคกันจนวินาทีสุดท้าย

มุมนี้อาจจะมองได้ว่าก็จะเป็นผลดีสำหรับพรรคที่กลัวการถูกยุบมิใช่หรือ เพราะก่อนหน้านั้นเกรงว่าจะมีการยุบกันก่อนวันหย่อนบัตรไม่เท่าไหร่ เพื่อไม่เปิดโอกาสให้อดีตส.ส.พรรคนั้นมีสังกัดเข้าสู่สนามเลือกตั้ง เป็นการกำจัดเสี้ยนหนามไปในตัว แต่นั่นไม่ใช่สาระสำคัญเท่ากับการกวาดต้อนอดีตส.ส.ที่คาดว่าจะชนะเข้ามาอยู่ในคอกเพื่อกำชัยชนะด้วยตัวเอง อันจะทำให้ดูสง่างามมากกว่า แม้วิธีการจะมีเบื้องหลังอย่างไรก็ตาม

ขณะที่พลังดูดที่ถูกพูดถึงมาอย่างต่อเนื่อง ใช่แค่ว่าจะใช้วิธีการจ่ายกระสุนดินดำเท่านั้น หากแต่ยังมีเรื่องของการใช้คดีความเป็นตัวกดดัน เช่นที่คนของพรรคประชาธิปัตย์ตั้งข้อสังเกตเรื่องการดึงคนบางคนที่ทำสื่อและมีคดีความเข้าไปสังกัดพรรคการเมืองเป้าหมาย ทั้งเข้าข่ายครอบงำสื่อเอื้อประโยชน์การเมือง รวมถึงการยอมศิโรราบเพื่อล้างคดีให้นายทุน บอกแล้วว่าเผด็จการไม่ว่ายุคไหนสมัยใดล้วนอย่างหนาทั้งสิ้น

Back to top button