CHO ตื่นจากฝันร้าย.!

สำนักข่าวรัชดา

คำสั่งศาลปกครองกลาง “เพิกถอนคำสั่งรับคำฟ้องรถเมล์ NGV 489 คัน” เสมือนชุบชีวิตใหม่บริษัท ช ทวี จำกัด (มหาชน) หรือ CHO จากปัญหา “ขาดสภาพคล่อง” อย่างหนัก หลังรถเมล์ NGV ที่กลุ่มร่วมทำงาน SCN-CHO ชนะประมูล แต่ถูกคู่แข่งที่แพ้ประมูลยื่นฟ้องร้ององค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) ทำให้การส่งมอบรถเมล์ NGV หยุดชะงักไป..!?

นั่นทำให้ CHO ตกที่นั่งลำบากทันที รถเมล์ NGV ล็อตแรก 100 คัน..ส่งมอบไปแล้ว..แต่ไม่ได้รับเงินแม้แต่บาทเดียว ฝ่ายเจ้าหนี้ที่เคยไฟเขียววงเงินกู้ไว้..ก็ปิดตู้เซฟล็อกรหัสทันที เมื่อโครงการรถเมล์ NGV เข้าสู่กระบวนการศาลปกครองกลาง และศาลมีคำสั่งให้ขสมก.ทุเลาการดำเนินงานใด ๆ เกี่ยวกับรถเมล์ NGV 489 คัน เมื่อ 10 เม.ย. 2561 ที่ผ่านมา..!!

จึงเกิดปรากฏการณ์ที่เรียกว่า “ชักหน้าไม่ถึงหลัง” จนทำให้ “สุรเดช ทวีแสงสกุลไทย” ซีอีโอใหญ่ CHO ต้องทำทุกวิถีทางเพื่อประคองสถานการณ์ ไม่ว่าจะค่ามัดจำรถเมล์กับคู่ค้าในประเทศจีนและค่าใช้จ่ายอื่น ๆ เพื่อยืนยันกับคู่ค้าโครงการนี้ยังไม่ล้ม..แต่รอคำสั่งจากศาลปกครอง..

ด้วยเหตุนี้เอง CHO จึงต้องวิ่งหาเงินกู้ทุกแหล่งที่ทำได้..โดยเฉพาะตั๋วสัญญาใช้เงินระยะสั้นรูปแบบต่าง ๆ ดอกเบี้ยแพงเท่าไหร่ไม่ว่า ขอเอาเงินสดเข้ามาก่อน..จึงทำให้ภาระต้นทุนทางการเงินพุ่งขึ้นอย่างน่าใจหาย ดูได้จากสิ้นสุดไตรมาส 3/2561 หนี้สินหมุนเวียน 2,856 ล้านบาท

ขณะที่สินทรัพย์หมุนเวียนอยู่ที่ 2,456 ล้านบาท อัตราส่วนหนี้สินต่อทุน (D/E) เกือบ 3 เท่า และกระแสเงินสดมีเพียง 0.87 ล้านบาท..เท่านั้นเอง..!!

แต่ทว่าหลัง “พายุกระหน่ำฟ้าก็เปิด” วันที่ 7 พ.ย. 2561 ที่ผ่านมา ศาลปกครองกลาง มีคำสั่ง “ไม่รับคำฟ้องไว้พิจารณาและให้จำหน่ายคดีออกจากสารบบความ” จึงทำให้ CHO กลับสู่สถานะดีขึ้นทันที เริ่มจากเม็ดเงินกว่า 300 ล้านบาท (ค่ารถเมล์ NGV ล็อตแรก 100 คัน) ได้ถูกสั่งจ่ายจากขสมก.ให้กลุ่มร่วมทำงาน SCN-CHO

แม้เงินก้อนดังกล่าวอาจยังไม่ถึงมือ CHO แบบเต็มเม็ดเต็มหน่วยก็ตาม แต่ถือเป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้เจ้าหนี้สถาบันการเงินต่าง ๆ กลับมา “เปิดตู้เซฟ” พร้อมปล่อยกู้ให้ CHO อีกครั้ง แต่ภาระต้นทุนการเงินที่สูง จะหลอกหลอนกำไรไปจนถึงกลางปีหน้า

จึงถือเป็นการ “ตื่นจากฝันร้าย” หลังที่ต้องนอนผวามากว่า 7 เดือน

โครงการรถเมล์ NGV สิ่งที่ต้องตามกันต่อ คือการส่งมอบรถเมล์ NGV ล็อตที่ 2 จำนวน 100 คัน วันที่ 27 พ.ย. 2561 มูลค่าประมาณ 300 ล้านบาท (รับรู้รายได้ภายในสิ้นปีนี้) ส่วนรอบถัดไป 102 คัน ช่วงเดือน ธ.ค. 2561 และล็อตสุดท้าย 187 คัน กำหนดส่งมอบไม่เกินเดือน มี.ค. 2562 ทำให้รายได้ CHO กลับมาเติบโตอย่างแข็งแกร่งอีกครั้ง

สำหรับ CHO ไฮไลต์ไม่ได้อยู่ที่การส่งมอบรถเมล์ NGV แต่อยู่ที่ “ค่าซ่อมบำรุง” หลังส่งมอบครบ 489 คัน อัตราเฉลี่ยเดือนละ 30 ล้านบาท หรือปีละ 360 ล้านบาท (อายุสัญญา 10 ปี)

จุดนี้เองที่ CHO ได้รับ 2 เด้ง นั่นคือ ค่าจ้างบำรุงรักษารถเมล์ NGV จากกลุ่มร่วมทำงาน SCN-CHO และส่วนแบ่งกำไรจากกลุ่มร่วมทำงานฯ ดังกล่าวอีก 50%

เอาเป็นว่ามาถึงวันนี้ CHO ได้ผ่านพ้นจุดต่ำสุดไปแล้ว..ที่สำคัญพิสูจน์ให้เห็นว่า “สงครามยังไม่จบ อย่าเพิ่งนับศพทหาร” ซะทีเดียว..!!

…อิ อิ อิ….