ชาวสวนทำงาน

* หากประเมินสถานการณ์ของตลาดหุ้นจากตัวเลขสถิติต่าง ๆ จะเห็นว่า มีตัวเลขหลายอย่างที่เป็นประโยชน์ต่อการลงทุนค่อนข้างเยอะ แต่มีตัวเลขหนึ่งที่ “โมนิก้า” ค่อนข้างให้ความสนใจมากเป็นพิเศษ นั่นก็คือ ในช่วง 11 วันที่ผ่านมา ดัชนีปรับตัวลงมามากถึง 60 จุด ซึ่งเป็นภาพสะท้อนให้เห็นว่า การลงทุนในช่วง 2 สัปดาห์นิด ๆ อยู่ในทิศทางขาลงอย่างเต็มตัว (เฉลี่ยลงวันละ 5 จุด) นะจะบอกให้


เจาะกระดาน : โมนิก้าและทีมงาน

* หากประเมินสถานการณ์ของตลาดหุ้นจากตัวเลขสถิติต่าง ๆ จะเห็นว่า มีตัวเลขหลายอย่างที่เป็นประโยชน์ต่อการลงทุนค่อนข้างเยอะ แต่มีตัวเลขหนึ่งที่ “โมนิก้า” ค่อนข้างให้ความสนใจมากเป็นพิเศษ นั่นก็คือ ในช่วง 11 วันที่ผ่านมา ดัชนีปรับตัวลงมามากถึง 60 จุด ซึ่งเป็นภาพสะท้อนให้เห็นว่า การลงทุนในช่วง 2 สัปดาห์นิด ๆ อยู่ในทิศทางขาลงอย่างเต็มตัว (เฉลี่ยลงวันละ 5 จุด) นะจะบอกให้

* ประเด็นดังกล่าวทำให้ “โมนิก้า” เลือกมองข้อมูลที่ทำให้แฟนคลับทำกำไรได้ทั้งระยะสั้น และระยะยาว เพราะสิ่งที่เกิดขึ้นตอนนี้ล้วนเป็นผลมาจากอิทธิพลของ “ฝรั่งตาน้ำข้าว” ขายหุ้นในตลาดแบบมาราธอน ขณะที่ฝ่ายหนุนอย่าง “กองทุน” ก็ทำตัวไม่อยู่กับร่องกับรอย ส่งผลให้ภาพของการลงทุนขมุกขมัวต่อไปอย่างไม่มีกำหนด และทำให้แนวรับบริเวณ 1,600 จุดสั่นคลอนตลอดเวลานะคะ

* เนื่องจากเดือนก่อนดัชนีทำท่าจะหลุดแนวรับดังกล่าว แต่สุดท้ายก็เด้งกลับขึ้นไปเกือบถึงบริเวณ 1,700 จุด ก่อนจะม้วนตัวกลับลงมาอยู่ที่บริเวณฐานเก่าอีกรอบ “โมนิก้า” มองเป็นเรื่องที่น่าอึดอัดรำคาญใจอย่างบอกไม่ถูก แต่ก็ต้องทนอยู่กับสถานการณ์ดังกล่าวให้ได้ และต้องเตรียมตัวรับมือกับเหตุการณ์ที่จะเกิดต่อจากนี้ด้วย เพราะการที่ดัชนียืนปิดที่ 1,622.10       จุด บวกไป 17.70 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 3.70 หมื่นล้านบาท แสดงว่า มีนักเล่นที่เป็นชาวสวนอยู่ไม่ใช่น้อยเจ้าค่ะ

* เหมือนกับในรายของ IVL วันนี้เทรดบนค่า P/E 8 เท่า ทั้งที่บริษัททำกำไรโตระเบิดระเบ้อ มันเป็นเรื่องที่ทำให้นักเล่นต้องสวนเข้าไปในทันที บวกกับหุ้นลงมาถึงจุดเด้งกลับบริเวณ 50 บาทพอดิบพอดี “โมนิก้า” ถึงมองเป็นช็อตที่นักเล่นห้ามมองข้ามเป็นอันขาด เพราะรอบนี้สามารถหวังได้ถึงราคา 56 บาทเป็นอย่างต่ำ ผนวกกับราคาหุ้นล่าสุดยืนอยู่ที่ 53.50 บาท บวกไป 1.75 บาท หรือขึ้นไป 3.40% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 796 ล้านบาท จึงน่าเสี่ยงดูสักยกนะจ๊ะ

* คล้ายกับกรณีของ BJC ลงมาทำ double bottom ที่บริเวณ 50 บาทปุ๊บ ราคาหุ้นดันแกว่งตัวออกด้านข้าง และไม่ยอมเด้งกลับขึ้นไปหาแนวต้านเก่าบริเวณ 55 บาท “โมนิก้า” มองเป็นเรื่องที่ผิดสังเกตพอสมควร และทำให้การเล่นเที่ยวนี้ต้องเป็นการ “เข้าออกเร็ว” ไม่ควรคาดหวังกำไรเป็นกอบเป็นกำ หลังหุ้นยืนปิดที่ 51.25 บาท บวกไป 0.75 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 369 ล้านบาทน่ะซี

* เช่นเดียวกับในรายของ MTC มีสตอรี่แจ่มแจ๋วหล่อเลี้ยงเพียบ แถมมีกำไรหนุนหลังอย่างเต็มตัว “โมนิก้า” ถึงมองเป็นโอกาสของการเล่นรอบอย่างชัดเจน และที่ทำให้มั่นใจมากขึ้นคือหุ้นลงมาแตะแนวรับ 46 บาท ต่อจากนั้นหุ้นเด้งขึ้นอย่างรวดเร็ว เดี๊ยนถึงมองการปิดที่ระดับ 47.75 บาท บวกไป 0.25 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 730 ล้านบาท น่าจะเป็นจังหวะได้ลุ้นมัน ๆ อีกสักตั้ง หากทะยานแรงจนทะลุแนวต้าน 49 บาทขึ้นไปได้ มองกันอีกทีแถว 55 บาทเลยนะตัวเอง

* สำหรับในรายของ CKP อาจมีทิศทางไม่สวยหรูเหมือนหุ้นข้างต้น แต่เมื่อมองจากรูปแบบเคลื่อนตัว W-Shape บนกรอบราคา 4.70-5.50 บาท “โมนิก้า” กลับมองเป็นจังหวะของการรอช้อนเข้าพอร์ตสถานเดียว ยกเว้นคนที่อดทนรอไม่ไหว อาจหยอดเข้าไปนิดหน่อยได้เหมือนกัน เพราะราคาปิดที่ 5 บาท บวกไป 0.08 บาท หรือขึ้นไป 1.60% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 227 ล้านบาท ไม่เสี่ยงเกินไปหรอกค่ะ

* ส่วนคนที่แบกรับความเสี่ยงไม่ไหว แต่อยากซื้อหุ้นเก็บไว้ในพอร์ต “โมนิก้า” ขอแนะนำให้หันมามอง INTUCH ไว้เป็นทางเลือกสำหรับการลงทุนเที่ยวนี้ เพราะเมื่อดูจากการลงมาทำจุดต่ำสุดในรอบ 2 ปี ซึ่งเป็นระนาบเดียวกับการเด้งกลับขึ้นแรงเที่ยวก่อน ย่อมเป็นจุดที่น่าเข้าไปวัดใจไม่ใช่น้อย เมื่อบวกกับเงินปันผลในแต่ละปีอยู่ที่ระดับ 8% เดี๊ยนถึงมั่นใจว่า ราคาปิดที่ 50 บาท บวกไป 0.25 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 309 ล้านบาท ลุยได้นะจะบอกให้

* ไหน ๆ พูดถึงเรื่องชนดะขึ้นมาทั้งที “โมนิก้า” ต้องหันมามองหุ้น SUPER เป็นประจำทุกครั้งเช่นกัน เพราะสเต็ปการเล่นเน้นไปที่เรื่องเข้าทำเร็ว บวกกับการที่หุ้นพยายามเกาะฐานแนวรับบริเวณ 0.60 บาทตลอดเวลา เดี๊ยนเลยมองการปิดที่ 0.60 บาท บวกไป 0.02 บาท หรือขึ้นไป 3.45% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 78 ล้านบาท น่าจะเป็นช็อตของการเคาะสั้น ๆ เพื่อหาค่าขนมเลี้ยงเด็ก ๆ ไงละคะ

* ประเด็นดังกล่าวทำให้ “โมนิก้า” ต้องชะเง้อตามองหุ้น BEAUTY ตามไปด้วยอีกตัวหนึ่ง เพราะรูปแบบการเล่นโหดได้ใจขาโจ๋ ช่วงไหนช่วยกันดันสุดซอย หุ้นก็ทะยานขึ้นแบบไม่ลืมหูลืมตา แต่ช่วงไหนที่เกิดอาการเบื่อขึ้นมา หุ้นก็ร่วงเป็นนกปีกหักเหมือนกัน ถึงกระนั้นก็มีกรอบเล่นที่ชัด ๆ 2 แนวด้วยกันคือ ฐานรับ 8 บาท กับฐานรับ 7 บาท ส่วนกรอบบนมีอยู่ที่ระดับ 10.50 บาท กับที่บริเวณ 12 บาท เดี๊ยนถึงมองราคาปิดที่ 8.85 บาท บวกไป 0.55 บาท หรือขึ้นไป 6.60% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 1.36 พันล้านบาท น่าเสี่ยงเล่นต่อนะคะ

Back to top button