หมดข้อกังขา!”รพี-ภากร”หนุน“เอสไอเอสบี”เทรด mai ยันไม่มีข้อห้ามสถาบันการศึกษาเข้าตลาดหุ้น

หมดข้อกังขา! "รพี-ภากร" หนุน “เอสไอเอสบี” เข้าเทรด ยันไม่มีข้อห้ามสถาบันการศึกษาจดทะเบียน


นายรพี สุจริตกุล เลขาธิการ คณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) กล่าวถึงเรื่องของการอนุมัติให้สถาบันการศึกษาเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯว่า เป็นเรื่องที่ ก.ล.ต.ได้สอบถามไปที่สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน (สช.) ซึ่งเป็นหน่วยงานกำกับของสถาบันการศึกษาของเอกชนไปแล้ว ซึ่งกฎระเบียบของ สช.ไม่ได้มีข้อห้าม

โดยสถาบันการศึกษาเอกชนรายแรกที่เตรียมเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์เอ็ม เอ ไอ (mai) คือ บริษัท เอสไอเอสบี จำกัด (มหาชน) หรือ SISB ซึ่งเป็นการเข้าตลาดหลักทรัพย์ตามกฎระเบียบที่ถูกต้อง และเมื่อทุกธุรกิจเข้ามาจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ก็จะต้องเปิดเผยข้อมูลอย่างโปร่งใสและอยู่ภายใต้กฎเกณฑ์ของ ก.ล.ต.และ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.)

“เราสอบถามไปทาง Lead Regulator ของเขาไปแล้วก็ไม่มีข้อห้ามอะไรที่ไม่ให้เข้าตลาด ถ้า Lead Regulator อนุญาต ก็แสดงว่าทำตามกฎระเบียบที่ถูกต้อง แต่เมื่อเข้าตลาดมาแล้วก็ต้องเปิดเผยข้อมูลต่างๆตามปกติ ก.ล.ต.ไม่สามารถไปบังคับไม่ให้เขาเข้าได้ เพราะเราไม่ได้เป็น Lead Regulator ของเขา แต่ก็เข้าใจว่าหลายประเทศไม่มีสถาบันการศึกษาเข้าตลาดฯ เป็นเรื่องระบบการศึกษาของประเทศนั้นๆที่หลายประเทศการศึกษาฟรี ทำให้ไม่มีความจำเป็นต้องเข้าตลาดฯ แต่ทุกธุรกิจต้องมีการลงทุน หากต้นทุนการศึกษาแพงขึ้นคนที่ต้องควบคุมจะต้องเป็น Lead Regulator ของอุตสาหกรรมนั้นๆ” นายรพี กล่าว

ด้าน นายภากร ปีตธวัชชัย กรรมการและผู้จัดการ ตลท.กล่าวว่า การที่โรงเรียนนานาชาติในนามของ บมจ.เอสไอเอสบี (SISB) เข้าตลาดหลักทรัพย์ไม่ได้เป็นสิ่งที่ผิดหลักเกณฑ์ เพราะ สช.ไม่ได้มีข้อห้าม ทำให้ ก.ล.ต.และ ตลท.อนุญาตให้เข้ามาจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) ได้

อีกทั้งการเข้ามาของโรงเรียนนานาชาติเป็นการดำเนินกิจการในรูปแบบบริษัทโฮลดิ้งส์ที่สามารถกระจายการลงทุนไปได้ในหลากหลายธุรกิจ และมองว่าถือว่าเป็นสิ่งที่ดีทีจะทำให้มีธุรกิจใหม่ๆ เข้ามาเป็นข้อมูลให้กับนักลงทุน ผู้ถือหุ้น และคนที่เกี่ยวข้องสามารถนำไปวิเคราะห์พิจารณาในการลงทุนได้เพิ่มขึ้น และการเข้ามาในตลาดหลักทรัพย์ทุกคนก็ต้องทำตามกฎในการเปิดเผยข้อมูลที่โปร่งใสตามระเบียบที่กำหนดไว้

อนึ่งก่อนหน้านี้ นายจุติ ไกรฤกษ์ เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ ออกมาโต้แย้งว่า เนื่องจากวันที่ 29 พ.ย. 2561 จะเกิดการระดมทุนขายหุ้นการศึกษาในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยซึ่งเป็นเรื่องที่น่าห่วงใยเพราะกิจการใดที่เข้าตลาดหลักทรัพย์ล้วนเป็นสิ่งที่ต้องแสวงหากำไรและให้ประโยชน์ต่อผู้ถือหุ้นสูงสุด สถาบันการศึกษานี้จะกลายเป็นสถาบันการศึกษาแห่งแรกที่เข้าตลาดหลักทรัพย์ได้ ทั้งที่ก่อนหน้านี้ มีความพยายามแบบนี้เช่นกัน แต่ไม่เคยได้รับอนุญาต

โดยมองว่าเมื่อใดที่ผู้มีอำนาจมีการกำหนดนโยบายให้ขายหุ้นทางด้านการศึกษาก็จะเกิดความวิบัติตกต่ำในการพัฒนาประเทศและประเทศไทยก็จะเกิดความเหลื่อมล้ำ

ทั้งนี้ บริษัท เอสไอเอสบี จำกัด (มหาชน) หรือ SISB ประกอบธุรกิจโรงเรียนนานาชาติ ขายหุ้นไอพีโอ 260 ล้านหุ้น ราคา 5.20 บาท จะเข้าทำการซื้อขายวันที่ 29 พ.ย.นี้

Back to top button