SET บ่ายพุ่งต่อ30จุด ตาม “ดาวน์ฟิวเจอส์” กระฉูด540จุด รับข่าว”ทรัมป์-สี” พักรบการค้า90วัน

SET บ่ายพุ่งต่อ30จุด ตาม "ดาวน์ฟิวเจอส์" กระฉูด540จุด รับข่าว"ทรัมป์-สี" พักรบการค้า90วัน โดยดัชนีตลาดหุ้นไทย ณ เวลา 15.08 น. อยู่ที่ 1,672.13 จุด บวก 30.33 จุด หรือ 1.85% สูงสุดที่ 1,673.13 จุด ต่ำสุดที่ 1,660.05 จุด มูลค่าการซื้อขาย 3.94 หมื่นล้านบาท


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ดัชนีตลาดหุ้นไทย ณ เวลา 15.08 น. อยู่ที่ 1,672.13 จุด บวก 30.33 จุด หรือ 1.85% สูงสุดที่ 1,673.13 จุด ต่ำสุดที่ 1,660.05 จุด มูลค่าการซื้อขาย 3.94 หมื่นล้านบาท ขณะที่ดัชนีดาวโจนส์ล่วงหน้า ณ เวลา 10.07 น. (ตามเวลาประเทศไทย) อยู่ที่ระดับ 26,080.00 จุด บวก 541 จุด หรือ 2.12%

10 หุ้นดันดัชนี ณ เวลา 15.07 น.

ด้าน บล.กสิกรไทย ระบุในบทวิเคราะห์ถึงแนวโน้มภาคบ่าย ระบุว่า ตลาดหุ้นไทยปรับตัวเพิ่มขึ้นตอบรับข่าวการเจรจาข้อพิพาทการค้าสอดคล้องกับตลาดทั้งภูมิภาคที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นเช่นกัน ได้แก่ จีน(+2.71%) ฮ่องกง(+2.32%) ฟิลิปปินส์(+2.22%) ออสเตรเลีย(+1.86%) อินโดนีเซีย(+1.33%) ญี่ปุ่น(+1.04%) เป็นต้น สำหรับ SET Index กลุ่มที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นวันนี้ได้แก่ กลุ่มพลังงาน(+11.64 จุด) พาณิชย์(+2.64 จุด) ธนาคาร(+2.48 จุด) ขนส่ง(+2.46 จุด) และกลุ่มอสังหาฯ(+1.51 จุด)

โดยการเจรจาระหว่างปธน.ทรัมป์ และ ปธน.สี จิ้นผิง เกี่ยวกับข้อพิพาทการค้าเบื้องต้นได้ข้อสรุปคือ การเก็บภาษีเพิ่มเติมถูกยืดออกไปก่อนจากเดิมที่กำหนดไว้วันที่ 1 ม.ค. 62 และเราได้เห็นความร่วมมือจากจีนมากขึ้น เช่น การที่จีนจะเพิ่มการนำเข้าสินค้าจากสหรัฐ การจะพิจราณาเห็นชอบการควบรวมกิจการของ qualcomm (ก่อนหน้าจีนไม่เห็นชอบจนดีลล่มไป) แม้นี่จะเป็นเพียงข้อตกลงเบื้องต้นในขณะที่กำแพงภาษียังคงอยู่ที่ 10% แต่ก็พอที่จะทำให้นักลงทุนคลายกังวล และมีความหวังมากขึ้นว่าข้อพิพาทการค้าจะยุติลง

ขณะที่หุ้นส่วนใหญ่ปรับตัวเพิ่มขึ้นตาม sentiment ตลาด นำโดย PTTEP (+4.92%) ตอบรับคาดการณ์การลดกำลังผลิตหลังได้เห็นการขยายเวลาความร่วมมือ OPEC Plus ในการประชุม G20 และมีปัจจัยเร่งจากการลุ้นผลประมูลแหล่งบงกช-เอราวัณ อย่างไรก็ดีทาง KS research คงคาดการณ์การลดกำลังการผลิตราว 1ล้านบาร์เรล/วัน ราคาน้ำมันจะไม่ได้ฟื้นตัวมาก และเคลื่อนไหว sideway 60-65 เหรียญ/บาร์เรล

ส่วนกลยุทธ์การลงทุนเพิ่มน้ำหนักการลงทุนเป็น 80% เลือก HANA เป็นหุ้นเด่นเนื่องจากเศรษฐกิจโลกน่าจะขยายตัวได้ต่อหลังจากข้อพิพาทการค้าไม่บานปลาย และจากยอดสั่งผลิตปัจจุบันที่ยังอยู่ในระดับสูงจะหนุนให้ GPM สูงขึ้น (economy of scale) เราจึงคาดว่า HANA จะรายงานกำไรสุทธิไตรมาส 4 ขยายตัวขึ้นในเชิง YoY แม้ราคาหุ้นจะปรับตัวขึ้นมาแรง แต่ยังคงน่าสนใจเนื่องจากมี upside เหลืออีกราว 25% และเงินปันผลปีหน้าที่ 5.8%

โดยประเด็นที่น่าสนใจในวันนี้ฝั่งยูโรโซนและสหรัฐจะมีการรายงาน PMI ภาคการผลิต ประจำเดือน พ.ย. โดยตลาดคาดการณ์ที่ 51.5 และ 55.4 ตามลำดับ ต่อมาในวันพรุ่งนี้ติดตามดัชนีราคาผู้ผลิต PPI ของยูโรโซน เดือน ต.ค. ซึ่งน่าจะออกมาที่ 4.4% YoY และในวันพุธติดตามสต็อคน้ำมันดิบประจำสัปดาห์ของสหรัฐ พร้อทั้งติดตามการแถลงภาพรวมเศรษกิจโดย คุณเจอโรม พาวเวล (ประธานธนาคารกลางสหรัฐ)

สำหรับหุ้นแนะนำ HANA, PTG, TISCO

 

ตลาดหุ้นภูมิภาคเอเชีย ณ เวลา 15.05 น.

Back to top button