กองทุนไล่เก็บหุ้น!

* เรื่องราวแนวดราม่าในแวดวงตลาดหุ้นยังมีให้เห็นเป็นระยะ ซึ่งบางเรื่องก็น่าเห็นใจมากเหลือเกิน แต่บางเรื่องก็น่าจับมาเขกกะโหลกให้หลาบจำ จนทำให้ “โมนิก้า” รับรู้ถึงความลำบากในการลงทุนมีมากขึ้นเรื่อย ๆ จึงไม่อยากอธิบายอะไรมากกว่าที่เป็นอยู่ เพราะสถานการณ์ของตลาดหุ้นเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา รวมทั้งมีตัวแปรภายนอกเข้ามาเกี่ยวข้องเต็ม ๆ จึงต้องเกาะติดให้ดีนะจ๊ะ


เจาะกระดาน : โมนิก้าและทีมงาน

* เรื่องราวแนวดราม่าในแวดวงตลาดหุ้นยังมีให้เห็นเป็นระยะ ซึ่งบางเรื่องก็น่าเห็นใจมากเหลือเกิน แต่บางเรื่องก็น่าจับมาเขกกะโหลกให้หลาบจำ จนทำให้ “โมนิก้า” รับรู้ถึงความลำบากในการลงทุนมีมากขึ้นเรื่อย ๆ จึงไม่อยากอธิบายอะไรมากกว่าที่เป็นอยู่ เพราะสถานการณ์ของตลาดหุ้นเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา รวมทั้งมีตัวแปรภายนอกเข้ามาเกี่ยวข้องเต็ม ๆ จึงต้องเกาะติดให้ดีนะจ๊ะ

* เหมือนกับการพักรบสงครามการค้าระหว่างประเทศมหาอำนาจ “สหรัฐฯ” กับ “จีน” มันทำให้ทั้งโลกรู้สึกสดชื่นอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน พร้อมทำให้ตลาดหุ้นไทยกลับมาคึกเป็นม้าอีกครั้งหนึ่ง “โมนิก้า” ถึงต้องส่องกล้องมองไปยังหุ้นบลูชิพเป็นลำดับแรก เพราะเป็นกลุ่มหุ้นที่ได้รับอานิสงส์จากสถานการณ์ที่ดีขึ้นก่อนใครเพื่อน จึงอยากให้แฟนคลับเข้าใจทุกอย่างแบบเป็นขั้นเป็นตอนเจ้าค่ะ

* เนื่องจากแรงซื้อจำนวนมากพุ่งตรงมาที่หุ้นขนาดใหญ่แบบเฉพาะเจาะจง ดัชนีถึงทะยานขึ้นมาปิดที่ 1,672.61 จุด บวกไป 30.81 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 6.05 หมื่นล้านบาท ล้วนเป็นผลจากดาวโจนส์ฟิวเจอร์ทะยานขึ้นอย่างร้อนแรง จึงกลายเป็นแรงกระตุ้นให้พวกนักเล่นกลุ่มสถาบันกระโจนใส่กันอุตลุด ส่งผลให้ภาพของการเล่นเที่ยวนี้เป็นอะไรที่เว่อร์วังอลังการมาก ๆ นะจะบอกให้

* เช่นเดียวกับการวิ่งขึ้นของหุ้น CPALL ก่อนจะมาปิดที่ระดับ 71.50 บาท บวกไป 3.25 บาท หรือขึ้นไป 4.75% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 7.36 พันล้านบาท “โมนิก้า” มองเป็นเรื่องของจิตวิทยาการลงทุนมากกว่าเรื่องอื่น บวกกับบรรดากองทุนเล่นหุ้นตัวนี้เป็นประจำ เมื่อสบช่องได้โอกาสเลยวิ่งเข้าใส่แบบไม่สนใจอะไรทั้งสิ้น เดี๊ยนถึงอยากรู้เหลือเกินว่า เที่ยวนี้จะฝ่าแนวต้านบริเวณ 72.50 บาทขึ้นไปได้หรือเปล่า ?

* อีกรายที่มีความชอบเป็นทุนเดิมมาตั้งนานแล้ว แถมเป็นหุ้นมีความครบเครื่องเรื่องชูรส “โมนิก้า” คงพุ่งเป้าไปยังพี่เบิ้มของตลาดหุ้นไทยอย่าง PTT เพื่อทำให้ทุกคนเห็นไซเคิลของหุ้นมีวงรอบที่ชัดเจน และการที่หุ้นวิ่งขึ้นมาปิดที่ 51.75 บาท บวกไป 2.50 บาท หรือขึ้นไป 5% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 5.26 พันล้านบาท มันทำให้เชื่อว่า หุ้นจะวิ่งขึ้นไปหายอดเก่าที่บริเวณ 55 บาทนะจ๊ะ

* คล้ายกับกรณีของ PTTEP พุ่งขึ้นมาปิดที่ระดับ 140.50 บาท บวกไป 8.50 บาท หรือขึ้นไป 6.40% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 4.18 พันล้านบาท “โมนิก้า” มองเป็นช็อตที่สวยงามตามท้องเรื่อง หลังทะลุเส้นแนวต้าน 75 วันขึ้นมาอย่างง่ายดาย พร้อมกับจุดประกายความหวังที่จะได้เห็นหุ้นขึ้นไปปิดแก๊ปที่เปิดไว้บริเวณ 145 บาทอีกด้วย จึงกลายเป็นช็อตที่ควรตามไปดูอย่างใกล้ชิดนะคะ

* เม้าท์ถึงเรื่องที่ต้องลุ้นขึ้นมาทั้งที “โมนิก้า” คงเทน้ำหนักความสนใจไปยังหุ้น AOT เพื่อทำให้ทุกคนได้รู้ว่า ในรอบระยะเวลา 5 เดือนที่ผ่านมา หุ้นยังไม่สามารถกระชากขึ้นไปยืนเหนือ 66 บาทได้อย่างมั่นคงสักที ทั้งที่องค์ประกอบของข่าวสารเอื้อให้มากเหลือเกินในเที่ยวนี้ เดี๊ยนถึงอยากให้แฟนคลับช่วยส่งกำลังใจให้หุ้นวิ่งผ่านด่านหินดังกล่าวขึ้นไปสักที หลังขึ้นมาปิดที่ 65.75 บาท บวกไป 2 บาท หรือขึ้นไป 3.15% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 2.15 พันล้านบาทไงละคะ

* สอดคล้องกับหุ้นขวัญใจหน้ามนอย่าง EA ยังคงเป็นช็อตที่เชียร์สนุก เชียร์มันเหมือนเดิม เพราะหุ้นพยายามขึ้นไปสร้างแนวรับใหม่ที่สูงกว่าบริเวณ 51 บาทเป็นเวลา 2 เดือนเต็ม ๆ และเที่ยวนี้ดูมีโอกาสมากกว่ารอบก่อน ๆ “โมนิก้า” ถึงอยากให้แฟนคลับดูราคาปิดที่ 50 บาท บวกไป 2 บาท หรือขึ้นไป 4.15% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 1.31 พันล้านบาท น่าจะมีแก๊ปให้พวกกล้าลุยได้ลุ้นเสียวกันอีกรอบนะคะ

* สำหรับรายที่ต้องลุ้นหนัก “โมนิก้า” กลับมองไปที่หุ้น PTTGC หลังเจอเส้นแนวต้านสำคัญ 200 วันพาดผ่านบริเวณ 82 บาทแบบพอเหมาะพอเจาะ แถมราคาหุ้นเคลื่อนไหวอยู่ใต้เส้นดังกล่าวเป็นเวลานานร่วม 6 เดือน เดี๊ยนถึงไม่แน่ใจการขึ้นมาปิดที่ 81 บาท บวกไป 2.50 บาท หรือขึ้นไป 3.20% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 1.93 พันล้านบาท มีแรงส่งมากพอที่จะทำให้หุ้นทะลุเพดานดังกล่าวขึ้นไปได้ไหมน่ะซี

* เหมือนกับในรายของ BANPU กระชากขึ้นมาปิดที่ 17.90 บาท บวกไป 1 บาท หรือขึ้นไป 5.90% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 1 พันล้านบาท พร้อมกับทำให้ทิศทางของหุ้นเปลี่ยนทิศจากที่เคยอยู่ในลักษณะ sideway down กลายมาเป็นทิศทางขาขึ้นระยะสั้นนั้น “โมนิก้า” มองเป็นเรื่องที่นักลงทุนต้องอ่านเกมให้ขาดตั้งแต่เนิ่น ๆ เพื่อจะได้กำหนดโพซิชั่นในการเข้าเล่นในวันนี้ไงละคะ

* ป.ล.วานนี้กองทุนสวมบทพ่อบุญทุ่มด้วยการไล่ซื้อหุ้นเข้าพอร์ตมากถึง 9.50 พันล้านบาท ขณะที่ฝรั่งตาน้ำข้าวก็ร่วมแจมด้วยการกว้านซื้อหุ้นใส่พอร์ตเป็นจำนวน 2.67 พันล้านบาท มันเป็นสถานการณ์ที่ทำให้เชื่อว่า วันนี้น่าจะมีบิ๊กเซอร์ไพรส์ต่ออีกวัน และจะผลักดันดัชนีขึ้นไปทดสอบ 1,700 จุดอีกรอบนะตัวเอง

 

Back to top button