ดาวโจนส์ดิ่ง 800 จุด วิตกตลาดพันธบัตรผันผวน เสี่ยงวิกฤตเศรษฐกิจถดถอย

ดาวโจนส์ดิ่ง 800 จุด วิตกตลาดพันธบัตรผันผวน เสี่ยงวิกฤตเศรษฐกิจถดถอย


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดตลาดร่วงลงหนักเกือบ 800 จุดเมื่อคืนนี้ (4 ธ.ค.) โดยทั้ง 3 ดัชนีหลักร่วงหนักกว่า 3% ขณะที่นักลงทุนกังวลต่อการที่ตลาดพันธบัตรส่งสัญญาณเศรษฐกิจถดถอย

นอกจากนี้ ตลาดยังถูกกดดันจากความไม่มั่นใจต่อผลการเจรจาแก้ไขความขัดแย้งทางการค้าระหว่างสหรัฐและจีน

โดยดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 25,027.07 จุด ร่วงลง 799.36 จุด หรือ -3.10% ขณะที่ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,700.06 จุด ลดลง 90.31 จุด หรือ -3.24% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 7,158.43 จุด ลดลง 283.09 จุด หรือ -3.80%    

ทั้งนี้ นักลงทุนวิตกเกี่ยวกับภาวะ Inverted Yield Curve ซึ่งเป็นภาวะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรระยะสั้นอยู่สูงกว่าพันธบัตรระยะยาว และมักบ่งชี้ถึงภาวะเศรษฐกิจถดถอยที่จะตามมา

โดยอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐเกิดภาวะ Inverted Yield Curve เมื่อคืนนี้ ซึ่งเป็นภาวะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรระยะสั้นอยู่สูงกว่าพันธบัตรระยะยาว โดยอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 2 ปี ปรับตัวอยู่สูงกว่าอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 5 ปี

ทั้งนี้ ณ เวลา 01.45 น.ตามเวลาไทย อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 2 ปี ปรับตัวลงสู่ระดับ 2.795% ขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลอายุ 5 ปี ปรับตัวลงสู่ระดับ 2.777%

ขณะเดียวกัน อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปี ปรับตัวลงสู่ระดับ 2.896% ขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลอายุ 30 ปี ปรับตัวลงสู่ระดับ 3.143% ราคาพันธบัตร และอัตราผลตอบแทนพันธบัตรจะปรับตัวในทิศทางตรงกันข้ามกัน

ทั้งนี้ อัตราผลตอบแทนพันธบัตรระยะสั้น ซึ่งได้รับผลกระทบจากนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ปรับตัวค่อนข้างมีเสถียรภาพในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา ขณะที่นายเจอโรม พาวเวล ประธานเฟด และเจ้าหน้าที่เฟดทำการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 3 ครั้งในปีนี้ ในทางกลับกัน อัตราเงินเฟ้อ และการคาดการณ์เกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจจะเป็นปัจจัยกำหนดอัตราผลตอบแทนพันธบัตรระยะยาว โดยนักลงทุนจะทำการคาดการณ์ว่าพวกเขาควรจะได้รับการชดเชยมากกว่าเงินเฟ้อเท่าใดในการถือครองพันธบัตรเป็นเวลาหลายปี

นอกจากนี้ นักลงทุนมีความไม่มั่นใจต่อแนวโน้มการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐและจีน หลังจากที่มีข่าวว่า นายโรเบิร์ต ไลท์ไฮเซอร์ ผู้แทนการค้าสหรัฐ (USTR) ได้รับการแต่งตั้งเป็นหัวหน้าคณะเจรจาการค้าฝ่ายสหรัฐ โดยนายไลท์ไฮเซอร์นับเป็นผู้ที่มีจุดยืนที่แข็งกร้าวต่อจีน

ทั้งนี้ ปธน.ทรัมป์และปธน.สี จิ้นผิงเห็นพ้องให้เลื่อนกำหนดเวลาที่สหรัฐจะเรียกเก็บภาษีเพิ่มเติมต่อการนำเข้าสินค้าจากจีนมูลค่า 2 แสนล้านดอลลาร์ออกไปอีก 90 วัน จากกำหนดเดิมในวันที่ 1 ม.ค.2562 เพื่อเปิดทางให้ทั้งสองฝ่ายได้เจรจายุติข้อพิพาทการค้าระหว่างกัน

อย่างไรก็ตาม ปธน.ทรัมป์ทวีตข้อความขู่เมื่อคืนนี้ว่า เขาจะสั่งเรียกเก็บภาษีเพิ่มเติมจากจีน หากความพยายามในการทำข้อตกลงกับจีนประสบความล้มเหลว

อนึ่ง Inverted Yield Curve คือสภาวะที่อัตราผลตอบแทน (Yield) ของพันธบัตรรัฐบาลอายุสั้น “มากกว่า” อัตราผลตอบแทน (Yield) ของพันธบัตรรัฐบาลอายุยาว ปกติจะเกิดขึ้นกับพันธบัตรรัฐบาล ตัวอย่างเช่น Yield ของพันธบัตรรัฐบาลอายุ 2 ปี สูงกว่าพันธบัตรรัฐบาลอายุ 10 ปี สิ่งที่ควรจะเป็นคือ Yield ของพันธบัตรรัฐบาลอายุยาวควรมากกว่าพันธบัตรรัฐบาลอายุสั้น เพราะการนำเงินมาลงทุนไว้ในพันธบัตรด้วยระยะเวลาที่นานกว่า ควรได้รับผลตอบแทนที่มากกว่า

โดยประเด็นนี้บ่งบอกว่านักลงทุนมีความต้องการลงทุนในพันธบัตรที่อายุยาวกว่าจน Yield ต่ำลงไปมากๆ แม้สิ่งที่เกิดขึ้นดูจะไม่สมเหตุสมผลไปบ้าง แต่สถานการณ์นี้หมายความว่า นักลงทุนพอใจกับการลงทุนถือพันธบัตรรัฐบาลอายุยาวมากกว่าพันธบัตรรัฐบาลอายุสั้น เพราะนักลงทุนคาดการณ์ว่าธนาคารกลางจะลดดอกเบี้ยลง ซึ่งเตือนว่าสภาวะเศรษฐกิจถดถอยกำลังมา สัญญาณเตือนวิกฤตเริ่มขึ้น ความกังวลว่าเศรษฐกิจระยะสั้นจะผันผวน

Back to top button