ปี 2018 เริ่มหมดยุคทองหุ้น IPO

สองตัวสุดท้ายของหุ้น IPO ที่จะเข้าเทรดในตลาดรองในช่วงปี 2561 คือ บริษัท สโตนเฮ้นจ์ อินเตอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ STI และ บริษัท ทีคิวเอ็ม คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ TQM


รายงานพิเศษ

สองตัวสุดท้ายของหุ้น IPO ที่จะเข้าเทรดในตลาดรองในช่วงปี 2561 คือ บริษัท สโตนเฮ้นจ์ อินเตอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ STI และ บริษัท ทีคิวเอ็ม คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ TQM

หวังว่าทั้ง 2 จะเป็นตัวช่วยกู้หน้าหุ้น IPO ได้!?… ในช่วงภาวะตลาดหุ้นไม่สู้ดีสักเท่าไรนัก….เพราะยังออกอากาศเป็นขาลง…

สำหรับ บริษัท สโตนเฮ้นจ์ อินเตอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ STI เข้าซื้อขายวันแรกในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) ในวันที่ 19 ธ.ค.61 โดยเสนอขาย IPO ไว้ที่ 6.30 บาทต่อหุ้น

มีการเสนอขายหุ้น IPO จำนวนไม่เกิน 68 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.50 บาท คิดเป็น 25.37% ของจำนวนหุ้นที่ออกและเรียกชำระแล้วทั้งหมดของบริษัท โดยจะได้เงินจากการระดมทุนรวม 428.40 ล้านบาท

ทางด้านประเภทธุรกิจ คือเป็นที่ปรึกษาบริหารและควบคุมงานก่อสร้างและให้บริการออกแบบงานด้านสถาปัตยกรรม และวิศวกรรม งานตกแต่งภายใน และงานอนุรักษ์โบราณสถาน

ขณะที่ บริษัท ทีคิวเอ็ม คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ TQM เข้าซื้อขายวันแรกในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) ในวันที่ 20 ธ.ค.61 โดยเสนอขาย IPO ไว้ที่ 23 บาทต่อหุ้น

มีการเสนอขายหุ้น IPO จำนวนไม่เกิน 75 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1.0 บาท คิดเป็น 25% ของจำนวนหุ้นที่ออกและเรียกชำระแล้วทั้งหมดของบริษัท โดยจะได้เงินจากการระดมทุนรวม 1,725 ล้านบาท

ทางด้านประเภทธุรกิจโดยการถือหุ้นในบริษัทอื่น (Holding Company) ซึ่งประกอบธุรกิจหลักในการให้บริการนายหน้าประกันภัย โดยปัจจุบันมีบริษัทย่อยที่ประกอบธุรกิจหลัก 2 บริษัท ได้แก่ บริษัท ทีคิวเอ็ม อินชัวร์รันส์ โบรคเกอร์ จำกัด (TQM Broker) ดำเนินธุรกิจนายหน้าประกันวินาศภัย ซึ่งเป็นบริษัทแกน และบริษัท ทีคิวเอ็ม ไลฟ์ อินชัวร์รันส์ โบรคเกอร์ จำกัด (TQM Life) ดำเนินธุรกิจนายหน้าประกันชีวิต

ดังนั้นคอยตามลุ้นกันว่า การซื้อขายวันแรกในตลาดรองของ STI และ TQM…!!! ราคาหุ้นจะปิด “เหนือจอง” หรือ “หลุดจอง” อาจต้องลุ้นกันตัวโก่งกับช่วงภาวะตลาดที่ไม่เอื้ออำนวยต่อการลงทุน

ไม่รู้ว่าจะเดินตามรอยหุ้นรุ่นพี่ ๆ ๆ…ที่เข้ามาซื้อขายในตลาดรองก่อนหน้าหรือไม่ ???…มีทั้งในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) จำนวน 6 ตัว และตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) จำนวน 10 ตัว โดยทั้งหมดที่เข้ามาซื้อขายก็พบว่า มีทั้ง “เหนือจอง” และ “หลุดจอง” กันไปตามสภาพ

ทั้งนี้หุ้นเข้ามาซื้อขายวันแรกในตลาดรองที่ราคาปรับตัวขึ้นเหนือจองมีจำนวน 10 ตัว ได้แก่ BGC, OSP, TEAMG, CMAN, TIGER, KWM, TPLAS, MVP, DOD และ ABM

ขณะที่หุ้นที่เข้ามาซื้อขายวันแรกในตลาดรองที่ราคาหุ้นปรับตัวลงจนหลุดจองมีจำนวน 4 ตัว ได้แก่ NER, SISB, CMC และ SONIC

ส่วนหุ้นที่เข้ามาซื้อขายวันแรกในตลาดรองที่ราคาหุ้นปิดเท่ากับราคา IPO มีจำนวน 2 ตัว ได้แก่ PR9 และ CHAYO

ผลดังกล่าว ทำให้ขบคิดว่า ….นี่อาจเริ่มหมดยุคหุ้น IPO แล้วหรือนี่ ??? เพราะวันแรกมีการซื้อขาย อาการราคาหุ้นหลายตัวไม่ค่อยดี และเริ่มทยอยเห็นหุ้นหลุดจองออกมาเรื่อย ๆ โดยตัวแรกที่หลุดจอง SONIC ราคาหุ้นปิดวันซื้อขายวันแรกที่ระดับ 1.84 บาท จากราคา IPO อยู่ที่ 1.95 บาท ทำให้ลงไป 5.64% ต่อมาเป็น NER ราคาหุ้นปิดวันซื้อขายวันแรกที่ระดับ 2.06 บาท จากราคา IPO อยู่ที่ 2.58 บาท ทำให้ลงไป 20.16% ต่อมาอีก CMC ราคาหุ้นปิดวันซื้อขายวันแรกที่ระดับ 2.36 บาท จากราคา IPO อยู่ที่ 3 บาท ทำให้ลงไป 21.33% และตัวท้ายสุดเพิ่งเทรดไปเมื่อปลายเดือน พ.ย. คือ SISB ราคาหุ้นปิดวันซื้อขายวันแรกที่ระดับ 4.36 บาท จากราคา IPO อยู่ที่ 5.20 บาท ทำให้ลงไป 16.15%

งานนี้คงทำให้พวกตามล่าหุ้นจองต้องผวา และแสลงอย่างแน่แท้!!!

อีกทั้ง แม้ว่าจะมีหุ้น IPO ราคาปิดเหนือจองมากกว่าหลุดจองก็จริง แต่ก็ถือว่าการที่ราคาหุ้นขึ้นไปปิดเหนือจองวันแรกไม่ได้สร้างผลกำไรให้นักลงทุนที่ไล่ล่าหุ้นจองมากสักเท่าไร…เพราะการปรับตัวขึ้นไม่สูงมากนัก ซึ่งแตกต่างจากช่วงปีที่ผ่าน ๆ มา ที่ทำให้นักลงทุนไล่ล่าหุ้นจองรวยระเบิดระเบ้อ ขณะที่ปี 2561 การซื้อขายหุ้นวันแรกที่ปรับตัวแรงสุดแล้วเหนือจองก็ไปไม่ถึง 100%…

หรือนี่จะเป็นการสอนมวยแต่นักลงทุนที่ชอบไล่ล่าหุ้น IPO….ต้องไปขบคิดเสียใหม่ว่าหุ้น IPO ไม่ทำให้รวยเสมอไป!!!

Back to top button