“บล.เออีซี”ชี้ SET วันนี้แกว่งลงต่อแนะ 8 หุ้นเด่นเน้น Domestic Play 3 กลุ่มหลัก

“บล.เออีซี”ชี้ SET วันนี้แกว่งลงต่อแนะ 8 หุ้นเด่นเน้น Domestic Play 3 กลุ่มหลัก


บล.เออีซี ประเมินดัชนีวันนี้ (20ธ.ค.61) คาด SET Index จะกลับมาแกว่งลงต่อตามตลาดหุ้นสหรัฐฯจากปัจจัยกดดันหลัก 2 เรื่อง ได้แก่ แนวโน้ม ดบ. ขาขึ้นของ FED และแนวโน้มขาลงของราคาน้ำมันดิบโลก ประเมินกรอบ 1,590-1,610 จุด

Investment Strategy

ช่วง 2 สัปดาห์นี้ เราคาด SET Index จะแกว่งตัวในกรอบแนวรับ-แนวต้านที่ 1,587-1,633 จุด (Bollinger Band Daily, N=20: -2SD to Average) ด้วยปัจจัยลบจากแนวโน้มดบ. ขาขึ้นของทั้ง FED และ BOT บวกแนวโน้มขาลงของราคาน้ำมันดิบโลก ดังนั้นด้วยสภาวะตลาดที่มีแรงกดดันจากทั้งในและต่างประเทศ เราแนะนำทยอยสะสมหุ้น Domestic Play 3 กลุ่มหลักที่ยังมีปัจจัยหนุนเฉพาะกลุ่ม ดังนี้

กลุ่มสื่อ ซึ่งมีฐานต่ำในปีก่อน จากได้รับผลกระทบจากการขึ้นป้ายไว้อาลัยบวกกับคาดเม็ดเงินโฆษณามีทิศทางสดใสขึ้นรับผลบวกในช่วงเม็ดเงินโฆษณาภาคเอกชนยังโตต่อเนื่อง แนะนำPLANB(แผนขยายMedia Capacity 15-20%YoY และสร้างจุดเด่นด้วยEngagement Marketing), VGI (รับรู้รายได้ป้ายโฆษณาบนสถานี BTS ที่เพิ่มขึ้นตามการเปิดให้บริการรถไฟฟ้าสายใหม่บวกกับแรงหนุนจากSynergy ในกลุ่มธุรกิจที่ชัดเจนขึ้น พร้อมแผน M&A อีก 2-3 บริษัทในปีหน้าเพื่อก้าวสู่การเป็น Marketing Solution), MACO (แผนปรับปรุงจอโฆษณาจาก Static เป็น Digital ในเชิงรุกมากขึ้นหลังควบรวมTrans Ad. และRoctecรวมทั้งมีรายได้จากVGM เพิ่มเข้ามาหลังรวมงบ และล่าสุดประกาศร่วมทุนกับ Sinarmas Group เพื่อลงทุนให้บริการสื่อใน 13 สถานีรถไฟฟ้าใต้ดินในอินโดนีเซีย) และ MAJOR (รายได้ธุรกิจโรงหนังที่มีแนวโน้มปรับตัวดีตามไลน์หนังฟอร์มยักษ์มีความน่าสนใจมากขึ้น สะท้อนได้ด้วยรายได้ Box Office เดือน ต.ค. โต 28.8%YoY บวกกับมีหนังไทยที่ทำเงินดีอย่าง นาคี 2 (441.2 ลบ.) ขณะที่ธุรกิจสื่อคาดได้แรงหนุนจากการเซ็นสัญญาให้บริการลูกค้าใหม่ที่เลื่อนมาจากช่วง 3Q61)

กลุ่มค้าปลีก มองช่วง 4Q61 กำลังซื้อจะดีกว่าช่วงเวลาเดียวกันในปีก่อนหน้าที่อยู่ในช่วงไว้อาลัยนอกจากนี้ปีหน้ายังมีอานิสงส์บวกจากมาตรการคืนVAT 5% ให้ประชาชนทุกคนที่ใช้จ่ายผ่านบัตรเดบิตผูกบัญชีพร้อมเพย์ ตั้งแต่ 1-15 ก.พ. 62 เพื่อกระตุ้นนโยบาย E-Payment เลือก ROBINS (คาดโตจากยอดขายที่เพิ่มขึ้นเพราะเปิดสาขาใหม่ และกลยุทธ์ปรับ Product Mixed มาเน้นขายสินค้าในกลุ่ม Private Brand มากขึ้น) CPN (คาดโตจากการเปิดศูนย์การค้าใหม่ และการปรับปรุงศูนย์การค้าที่เปิดดำเนินการอยู่แล้ว ควบคู่กับการบริหารต้นทุนการดำเนินงาน โดยปัจจุบัน CPN บริหารจัดการศูนย์การค้า 33 แห่ง มีพื้นที่ให้เช่าสุทธิรวม 1.7 ล้าน ตร.ม. เพิ่มจาก 1.6 ล้าน ตร.ม. ณ สิ้นช่วง 3Q60) และ COL (มีแผนขายสิทธิแฟรนไชส์เพื่อเปิดสาขาได้ราว 3-4 สาขาสำหรับปีนี้ และปีหน้าตั้งเป้าขยายอีก 15-20 สาขาและแผนเพิ่มกลุ่มสินค้าใหม่ เจาะลูกค้ากลุ่มโรงแรม ร้านกาแฟ และร้านอาหาร ซึ่งแผนงานนี้จะทำให้บริษัทมีรายการสินค้าเพิ่มเข้ามาอีก 4,000 SKU)

กลุ่มนิคม มองได้อานิสงส์บวกจากการเลือกตั้งที่มีความคืบหน้าชัดเจนขึ้นคาดหนุนทั้งราคาขายและยอดขายพื้นที่ในเขต EEC โตเด่นแนะนำAMATA (ปัจจุบันมีพื้นที่รอการขาย 2,777 ไร่ และพื้นที่รอการพัฒนาอีกราว8,172 ไร่), WHA (ปี 62 ตั้งเป้าขายที่ดินในนิคมไม่ต่ำกว่า1,000 ไร่พร้อมคาดได้รับลูกค้าคลังสินค้าเพิ่มขึ้นอีกกว่า1 แสน ตรม.)

Back to top button