ดันหุ้นส่งท้าย

* หากวิเคราะห์ตามตรรกศาสตร์การลงทุนที่เกิดขึ้นเป็นเวลานาน “โมนิก้า” ย่อมมีความเชื่อในใจลึก ๆ เกี่ยวกับการดันหุ้นเพื่อทำบัญชีส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ ซึ่งมันเป็นเรื่องที่ทำทุกฝ่ายเกิดอาการ win-win อย่างมีนัยสำคัญ และเมื่อนำประเด็นดังกล่าวมาผูกโยงเข้ากับแรงเทขายที่เริ่มเบาบางลง ย่อมเป็นจุดที่เหมาะต่อการดันหุ้นแบบสุดซอยแค่ระยะสั้น ๆ นะจะบอกให้


เจาะกระดาน : โมนิก้าและทีมงาน

* หากวิเคราะห์ตามตรรกศาสตร์การลงทุนที่เกิดขึ้นเป็นเวลานาน “โมนิก้า” ย่อมมีความเชื่อในใจลึก ๆ เกี่ยวกับการดันหุ้นเพื่อทำบัญชีส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ ซึ่งมันเป็นเรื่องที่ทำทุกฝ่ายเกิดอาการ win-win อย่างมีนัยสำคัญ และเมื่อนำประเด็นดังกล่าวมาผูกโยงเข้ากับแรงเทขายที่เริ่มเบาบางลง ย่อมเป็นจุดที่เหมาะต่อการดันหุ้นแบบสุดซอยแค่ระยะสั้น ๆ นะจะบอกให้

* ประเด็นดังกล่าวทำให้เดี๊ยนรู้สึกโล่งใจอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อนชั่วคราว เพราะในระหว่างนี้คงไม่มีเรื่องร้ายแรงเข้ามากระทบกับการลงทุนอย่างมีนัยสำคัญ ดัชนีถึงพยายามดันตัวเองขึ้นไปยืนเหนือแนวต้านสำคัญทางจิตวิทยา 1,600 จุดตลอดเวลา “โมนิก้า” ถึงมองการเล่นเที่ยวนี้เป็นลักษณะ “มือไว ใจกล้า” มากกว่ายุทธวิธีรอจังหวะงาม ๆ แล้วค่อยลุยไงละคะ

* ยิ่งเห็นดัชนีโรยตัวลงมาพร้อมกับมีแรงซื้อสวนเข้ามาเป็นระยะ จนสุดท้ายดัชนียืนปิดที่ระดับ 1,595.33 จุด ลบไป 0.77 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 4.69 หมื่นล้านบาท เท่ากับเป็นการสื่อความนัยให้รู้ว่า สัปดาห์นี้ยังมีโอกาสแก้มืออีกครั้งอย่างแน่นอน และเรื่องนี้เกี่ยวข้องกับท่าทีของกองทุนในประเทศและต่างประเทศโดยตรง “โมนิก้า” ถึงไม่รู้สึกกังวลอะไรอีกต่อไป เพราะใกล้ถึงเวลาที่นักเล่นเหล่านี้จะเข้ามาเก็บหุ้นอีกรอบ ส่งผลให้ความเสี่ยงของการเล่นลดลงไปเรื่อย ๆ พะยะค่ะ

* เหมือนกับในรายของ BEM ทุกคนรู้ถึงปัจจัยพื้นฐานที่แน่นเปรี๊ยะ แถมได้สัญญาทางด่วนต่อไปอีก 4 ทศวรรษ “โมนิก้า” ถึงไม่ค่อยวอร์รี่หุ้นตัวนี้มากสักเท่าไหร่ เพราะของมันเห็นกันทนโท่ว่า นี่คือบริษัทผลิตเงินสดใช้ทุกวัน และจะผลิตเงินสดต่อไปอีกนานแสนนาน หุ้นเลยพุ่งกระฉูดขึ้นมาปิดที่ 9.75 บาท บวกไป 0.50 บาท หรือขึ้นไป 5.40% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 1.58 พันล้านบาทอย่างง่ายดายไงละจ๊ะ

* เมื่อหุ้นลูกไปได้สวยงาม อานิสงส์ย่อมส่งตรงถึงหุ้นแม่ CK อย่างมีนัยสำคัญด้วยเช่นกัน และเป็นอีกครั้งที่หุ้นทะยานขึ้นมาปิดที่ 25.50 บาท บวกไป 0.90 บาท หรือขึ้นไป 3.65% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 440 ล้านบาท แต่เผอิญหุ้นเคลื่อนตัวในแบบ W-Shape ในกรอบราคา 24-26 บาทเป็นเวลานานถึง 5 เดือนครึ่ง “โมนิก้า” ถึงอยากให้นักเล่นพิจารณาถึงโอกาสในการลงทุนยังเปิดกว้างขนาดไหนพะยะค่ะ

* ประเด็นดังกล่าวทำให้ “โมนิก้า” ต้องหันไปมองหุ้น PTTGC เพื่อชี้ให้ทุกคนได้เห็นการเด้งกลับเมื่อหุ้นลงมาแตะแนวรับสำคัญบริเวณ 70 บาท ต่อจากนั้นค่อย ๆ กระดึ๊บขึ้นอย่างช้า ๆ ก่อนระเบิดฟอร์มด้วยการพุ่งขึ้นมาปิดที่ 74 บาท บวกไป 2 บาท หรือขึ้นไป 2.80% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 1.45 พันล้านบาท มันเป็นจังหวะที่ทำให้เดี๊ยนคิดถึงยอดเดิมบริเวณ 80 บาทขึ้นมาในทันทีเจ้าค่ะ

* เม้าท์ถึงเรื่องนี้ขึ้นมาทั้งที “โมนิก้า” ย่อมเล็งผลไปที่หุ้น SAWAD เพื่อทำให้นักเล่นได้เห็นจังหวะที่หุ้นกำลังถีบตัวขึ้นไปหายอดเก่าบริเวณราคา 50 บาท มันไม่ใช่เรื่องเพ้อฝันตอนกลางวันแสก ๆ หลังหุ้นวิ่งขึ้นมาปิดเสมอตัวที่ระดับ 47 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 323 ล้านบาท ก็เป็นอีกหนึ่งช็อตที่เดี๊ยนอยากให้แฟนคลับจับตาดูมากเป็นพิเศษ เพราะสัญญาณเทคนิคเริ่มดูดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัดไงละคะ

* หุ้นอีกหนึ่งตัวที่มีลักษณะคล้ายกัน “โมนิก้า” คงเทน้ำหนักไปที่ WHA เพื่อชี้ให้เห็นการฟื้นตัวอย่างช้า ๆ กำลังเกิดขึ้นอีกรอบ และรอบนี้ก็หวังได้ถึงระดับ 4.40-4.50 บาทเสียด้วย บวกกับวันนี้หุ้นเทรดบนค่า P/E 19 เท่า จึงเป็นจุดที่นักเล่นสามารถตะลุยเข้าไปได้ไม่ยั้ง เดี๊ยนถึงรู้สึกแฮปปี้เมื่อเห็นหุ้นขึ้นมาปิดที่ 4.26 บาท บวกไป 0.06 บาท หรือขึ้นไป 1.40% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 403 ล้านบาท เพราะมันหมายถึงจังหวะนี้ต้องใส่ไปเลยจ้า!

* ตรงกันข้ามกับในรายของ CBG นับวันยิ่งโรยราลงไปเรื่อย ๆ แถมเที่ยวนี้กระเด็นหลุดโผหุ้นเด่นในกลุ่ม SET50 เท่ากับเป็นการย้ำหัวหมุดให้นักเล่นได้รู้ว่า หมดเสน่ห์! แถมหุ้นอยู่ในทิศทางโค้งตัวลงอย่างต่อเนื่อง ยิ่งไม่ควรเข้าไปข้องเกี่ยวด้วยทุกประการ เมื่อวันศุกร์ถึงเห็นหุ้นลงมายืนอยู่ที่ 38 บาท ลบไป 2.25 บาท หรือลงไป 5.60% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 150 ล้านบาท พร้อมกับทำ new low ในรอบ 2 ปี 9 เดือนแบบนี้..หล่อนจะไปยุ่งอีกไหม ?

* เหมือนกับในรายของ TQM อุตส่าห์ประคองตัวเหมือนจะดีอยู่แล้วเชียว! สุดท้ายกลับโดนสาดหุ้นออกมาตลอดเวลา ก่อนจะพลิกตัวในช่วงครึ่งชั่วโมงสุดท้ายขึ้นมาปิดที่ระดับ 23 บาท บวกไป 0.20 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 657 ล้านบาท กลายเป็นอีกหนึ่งกรณีที่ทำให้แมงเม่าตั้งคำถามเกี่ยวกับการมีนักลงทุนสถาบันเข้ามาถือหุ้นนั้นดีจริงไหม ? เพราะสิ่งที่เห็นในเวลานี้..ไม่เหมือนกับที่มีการประเมินไว้เลย แถมธุรกิจถูกตีขนาบอย่างหนัก จึงมีการเม้าท์กันว่า เราควรอยู่เฉย ๆ ไปก่อนดีไหมจ๊ะ

 

Back to top button