“บล.เออีซี”ชี้ SET วันนี้ลุ้นรีบาวด์ต่อเนื่องแนะทยอยสะสม7หุ้น Domestic Play ขนาดกลาง-ใหญ่

“บล.เออีซี”ชี้ SET วันนี้ลุ้นรีบาวด์ต่อเนื่อง แนะทยอยสะสม 7 หุ้น Domestic Play ขนาดกลาง-ใหญ่


บล.เออีซี ประเมินดัชนีวันนี้ (2ม.ค.62) มองตลาดลุ้นรีบาวด์ต่อเนื่องจากปัจจัยค่าเงินบาทที่กลับมาแข็งค่าขึ้น อย่างไรก็ดี มองยังคงจำกัดที่ระดับแนวต้าน 1,574 จุด (Downtrend Line) และ 1,580 จุด (Horizontal Line) เนื่องจากภาพปัจจัยตปท.ทั้งจากตัวเลขเศรษฐกิจที่ชะลอตัว และความชัดเจนของ Government Shutdown

Investment Strategy

แม้ช่วงสัปดาห์แรกของปี 62 เราคาด SET Index จะรีบาวด์ขึ้นมายืนเหนือแนวรับ 1,550 จากนักลงทุนต่างชาติที่อาจกลับเข้ามาซื้อหุ้น หลังค่าเงินบาทเริ่มแข็งค่าขึ้นในช่วงวันที่     30-31 ธ.ค.61 แต่อย่างไรก็ดี Upside ยังค่อนข้างจำกัดโดยมีแนวต้าน Gap ที่ 1,591 จุด โดยนักลงทุนยังต้องระวังปัจจัยลบจากต่างประเทศ เช่น ตัวเลขเศรษฐกิจของจีนที่มีสัญญาณชะลอตัว ซึ่งสะท้อนผ่านภาวะอุปสงค์น้ำมันดิบในตลาดที่อาจปรับลงในช่วงสั้น อีกทั้งปัญหา Government Shutdown ของสหรัฐฯที่ยังไม่คลี่คลาย ดังนั้นในช่วงนี้แนะนำทยอยสะสมหุ้น Domestic Play ขนาดกลาง-ใหญ่ 3 กลุ่มที่มีปัจจัยหนุนเฉพาะกลุ่ม ดังนี้

กลุ่มสื่อ ซึ่งมีฐานต่ำในปีก่อน จากได้รับผลกระทบจากการขึ้นป้ายไว้อาลัยบวกกับคาดเม็ดเงินโฆษณามีทิศทางสดใสขึ้นรับผลบวกในช่วงเม็ดเงินโฆษณาภาคเอกชนยังโตต่อเนื่อง แนะนำ PLANB (แผนขยาย Media Capacity 15-20%YoY ให้ครอบคลุมพื้นที่มากขึ้น และสร้างจุดเด่นด้วย Engagement Marketing พร้อมแผนต่อยอดธุรกิจ Sport Marketing ด้วยการลงทุนในร้านนำเข้าสินค้ากีฬาภายใน้แบรนด์ ATMOS), VGI (รับรู้รายได้ป้ายโฆษณาบนสถานี BTS ที่เพิ่มขึ้นตามการเปิดให้บริการรถไฟฟ้าสายใหม่

ส่วน MACO ยังมีผลดำเนินงานดีต่อเนื่องจากแผนปรับปรุงจอโฆษณาจาก Static เป็น Digital ในหลายพื้นที่ บวกกับคาดมีแรงหนุนจากSynergy ในกลุ่มธุรกิจที่ชัดเจนขึ้น พร้อมแผน M&A อีก 2-3 บริษัทในปีหน้าเพื่อก้าวสู่การเป็น Marketing Solution), และ MAJOR (รายได้ธุรกิจโรงหนังที่มีแนวโน้มปรับตัวดีตามไลน์หนังฟอร์มยักษ์มีความน่าสนใจมากขึ้น สะท้อนได้ด้วยรายได้ Box Office เดือน ต.ค. โต 28.8%YoY บวกกับมีหนังไทยที่ทำเงินดีอย่าง นาคี 2 (441.2 ลบ.) ขณะที่ธุรกิจสื่อคาดได้แรงหนุนจากการเซ็นสัญญาให้บริการลูกค้าใหม่ที่เลื่อนมาจากช่วง 3Q61)

กลุ่มค้าปลีก มองช่วง 4Q61 กำลังซื้อจะดีกว่าช่วงเวลาเดียวกันในปีก่อนหน้าที่อยู่ในช่วงไว้อาลัยนอกจากนี้ปีหน้ายังมีอานิสงส์บวกจากมาตรการคืนVAT 5% ให้ประชาชนทุกคนที่ใช้จ่ายผ่านบัตรเดบิตผูกบัญชีพร้อมเพย์ ตั้งแต่ 1-15 ก.พ. 62 เพื่อกระตุ้นนโยบาย E-Payment เลือก ROBINS (คาดโตจากยอดขายที่เพิ่มขึ้นเพราะเปิดสาขาใหม่ และกลยุทธ์ปรับ Product Mixed มาเน้นขายสินค้าในกลุ่ม Private Brand มากขึ้น) และ CPN (คาดโตจากการเปิดศูนย์การค้าใหม่ และการปรับปรุงศูนย์การค้าที่เปิดดำเนินการอยู่แล้ว ควบคู่กับการบริหารต้นทุนการดำเนินงาน โดยปัจจุบัน CPN บริหารจัดการศูนย์การค้า 33 แห่ง มีพื้นที่ให้เช่าสุทธิรวม 1.7 ล้าน ตร.ม. เพิ่มจาก 1.6 ล้าน ตร.ม. ณ สิ้นช่วง 3Q60)

กลุ่มนิคม มองได้อานิสงส์บวกจากการเลือกตั้งที่มีความคืบหน้าชัดเจนขึ้นคาดหนุนทั้งราคาขายและยอดขายพื้นที่ในเขตEEC โตเด่นแนะนำAMATA (ปัจจุบันมีพื้นที่รอการขาย 2,777 ไร่ และพื้นที่รอการพัฒนาอีกราว8,172 ไร่), WHA (ปี 62 ตั้งเป้าขายที่ดินในนิคม ไม่ต่ำกว่า 1,000 ไร่พร้อมคาดได้รับลูกค้าคลังสินค้าเพิ่มขึ้นอีกกว่า1 แสน ตรม.)

 

Back to top button