สังคมข่าวหุ้น

* ตลาดหุ้นไทยล่าสุดปิดการซื้อขายที่ระดับ 1,592.72 จุด ปรับเพิ่มขึ้น 17.59 จุด มูลค่าการซื้อขายรวมเฉียด 4.5 หมื่นล้านบาท


นิวส์เวฟ

* ตลาดหุ้นไทยล่าสุดปิดการซื้อขายที่ระดับ 1,592.72 จุด ปรับเพิ่มขึ้น 17.59 จุด มูลค่าการซื้อขายรวมเฉียด 4.5 หมื่นล้านบาท

* ตลาดหุ้นไทยวันแรกของสัปดาห์ปิดบวกสวยงามไปเกิน 17 จุด ด้วยแรงหนุนของกองทัพหุ้นพลังงานที่พาเหรดกันวิ่งบวกถ้วนหน้า โดยเฉพาะกลุ่มหุ้นตระกูลปอ ปิดบวกแข็งแกร่งชนิดยกแผง หวังว่าสถานการณ์ตลาดหุ้นไทยวันนี้จะไปได้ดีต่อเนื่องนะ เพื่อให้พี่ SET ของเราได้ลุ้นกลับไปยืนเหนือระดับ 1,600 จุดกันสักที

* หุ้น PTTEP ถือว่าปลดล็อกคลายกังวล หลังจากสถานการณ์ “พายุโซนร้อนปาบึก” คลี่คลายไปในทางที่ดี ส่งผลให้แหล่งบงกชซึ่งมีความสำคัญต่อตัวบริษัทเป็นอย่างมากทั้งในเชิงพื้นฐานและสัญลักษณ์ (ความเชื่อมั่น) หวนกลับมาผลิตได้ตามปกติหลังจากช่วงที่ผ่านมาต้องหยุดดำเนินการไปชั่วคราว

* สำหรับหุ้น PTTEP ในระยะสั้นแล้วยังมีปัจจัยบวกช่วยหนุน คือ งบไตรมาส 4/61 ที่ปิดจบไปเรียบร้อยแล้ว ซึ่งตามที่นักวิเคราะห์คาดการณ์กันไว้ทางบริษัทน่าจะฟันกำไรสูง 1.1-1.2 หมื่นล้านบาท พร้อมกับหนุนให้งบปี 61 ทั้งปีโตเฉียด 4 หมื่นล้านบาท (ย้ำอีกครั้งว่าตามที่โบรกฯคาด) หากทุกอย่างเป็นไปตามนี้จริงเชื่อได้เลยว่า นี่จะกลายเป็นปัจจัยบวกสำคัญสนับสนุนฐานราคาหุ้นต่อไปพร้อมกับช่วยคานแรงกดดันหุ้นจากตัวราคาน้ำมันที่ชะลอตัว

* โดยแม้ในปัจจุบันหุ้น PTTEP หลายคนอาจไม่ได้ร่วมถือหุ้น แต่ก็พร้อมเอาใจช่วยเหมือนกัน เนื่องจาก PTTEP มีฐานะเป็นเหมือนลูกคนโตที่ส่งผ่านส่วนแบ่งกำไรให้หุ้นแม่ PTT ซึ่งถือหุ้น PTTEP ด้วยสัดส่วน 65% ถ้างบ PTTEP ออกมาดีนั่นหมายความว่า PTT จะได้กำไรเข้ามาผลักดันฐานรวมของบริษัท และหากอยากเห็น SET ไปยืนเหนือ 1,600 จุด (ไม่ต้องรีบพูดถึง 1,700 จุดกันหรอก) จึงควรต้องลุ้นเอาใจช่วยทั้ง PTT และ PTTEP เพราะทุกราคาที่สองแม่ลูกนี้ขยับขึ้นล้วนมีเอฟเฟกต์ต่อ SET เป็นอย่างมาก

* ไหน ๆ ก็ว่ามาถึงหุ้นพลังงานแล้ว ขอเชื่อมต่อไปที่หุ้นโรงกลั่นวันนี้วิ่งบวกกันแบบยกแผงไม่ว่าจะเป็น TOP-IRPC-SPRC-ESSO หรือจะเป็น BCP ถ้าให้ว่ากันตรงราคาที่ดีดบวกแรงขึ้นมาได้ ไม่ใช่เพราะว่าพื้นฐานมีข่าวดีใหม่หนุน แต่มีสาเหตุมาจากช่วงที่ผ่านมาราคาไหลลงไปลึกมากและหวนเด้งกลับมาตามภาวะตลาดเท่านั้นเอง โดยจุดที่น่ากังวลหุ้นโรงกลั่นนั่นคืองบไตรมาส 4/61 ที่ผ่านมา ซึ่งภายใต้สถานการณ์ราคาน้ำมันดิบในตลาดที่ถดถอยลงไปมาก ทำให้มีความเสี่ยงเกิดสต๊อกลอสมากถึงระดับ 5-6 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล

* หุ้นโรงกลั่นจึงโดนแรงฉุดนี้เข้าไปเต็ม ๆ แบบทุกหุ้นและมีสิทธิที่งบไตรมาส 4/61 จะพลิกขาดทุนสุทธิสูง ที่น่าห่วงอีกอย่างคือฐานตัวเลขค่าการกลั่นน่าจะอ่อนตัวลงมาตามภาวะตลาดด้วยเช่นกัน จึงเท่ากับโดนปัจจัยลบไปเต็ม ๆ ถึงสองส่วน ทำให้ภาพของกลุ่มหุ้นโรงกลั่นยังคงเปราะบางและผันผวนสูงมาก ดังนั้น จังหวะดีดตัวแรงจึงเหมาะแก่การ ขายทำกำไร มากกว่า

* BEM ด้วยความเป็นหุ้น “Defensive stock” ระดับแนวหน้า จึงดึงดูดแรงซื้อเข้ามาในช่วงนี้ได้เป็นอย่างดี โดยเมื่อวานขยับขึ้นไปปะทะแนวต้านสำคัญแถว 10.10 บาท แต่ยังไม่สามารถผ่านไปได้  ที่จริงนับเป็นหุ้นหนึ่งตัวที่มีคำแนะนำขึ้นอยู่กับต้นทุนของแต่ละคน โดยกรณีที่มีหุ้นในมือด้วยต้นทุนต่ำกว่ากระดาน ถ้ายังไม่มีแผนรีบร้อนอะไร ยังคงสามารถถือเพื่อลุ้นรับกำไรหุ้นต่อไปได้หรืออาจจะขายส่วนหนึ่งเพื่อดึงต้นทุนและกำไรกลับมาอยู่ในมือให้อุ่นใจกันบ้าง

* สำหรับคนไม่มีแนะนำรอจังหวะย่อตัวสถานเดียวแล้วค่อยพิจารณากันอีกที (ขึ้นอยู่กับราคาในกระดานด้วย) แน่นอนในเชิงพื้นฐานน่ะดีไม่เถียงอยู่แล้วและเป็นหุ้นที่แนะนำกับนักลงทุนมาตลอด แต่การจะเข้าไปตามไล่เก็บหุ้นที่บริเวณใกล้ยอดภูเขาแบบนี้มันดูก็เสี่ยงเกินไปเหมือนกัน

Back to top button