“โนมูระฯ”จ่ออัพคำแนะนำ PSTC หลังปลดล็อค EIA ชี้เป้า 1.03 บาทไม่รวมท่อส่งน้ำมันอีสาน!

"โนมูระฯ" จ่ออัพเป้า PSTC หลังปลดล็อค EIA เผยตัวเลข 1.03 บาทไม่รวมท่อส่งน้ำมันอีสาน!


สืบเนื่องจากกรณีที่ บริษัท เพาเวอร์ โซลูชั่น เทคโนโลยี จำกัด (มหาชน) หรือ PSTC ได้เข้าลงทุนในโครงการขยายระบบการส่งน้ำมันทางท่อไปยังภาคตะวันออกเฉียงเหนือ (โครงการระบบบ่อขนส่งน้ำมัน) ซึ่งดำเนินการโดยบริษัท ไทย ไปป์ไลน์ เน็ตเวิร์ค จำกัด (TPN) ที่ถือหุ้นร้อยละ 100 โดยบริษัทบิ๊กแก๊ส เทคโนโลยี จำกัด (บริษัทย่อย หรือ BIGGAS) ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของบริษัท

โดยโครงการดังกล่าวได้ผ่านการพิจารณารายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อม สำนักงานนโยบาย และแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม โดยได้มีมติให้ความเห็นชอบรายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อม (EIA) ของโครงการระบบท่อขนส่งน้ำมันเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

ล่าสุด บล.โนมูระ พัฒนสิน ได้ให้คำแนะนำเกี่ยวกับการลงทุนในหุ้น PSTC โดยระบุในบทวิเคราะห์ (9 ม.ค.2562) คาดกำไรสุทธิไตรมาส 4/2562 ของ PSTC จะ All-time high ที่ 73.97 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1,363% จากปีก่อน และเพิ่มขึ้น 1,050% จากไตรมาสก่อนแบ่งออกเป็น กำไรจากการดำเนินงาน 22.6 ล้านบาทที่ฟื้นตัวดีขึ้น 347%  จากปีก่อน และ 252% จากไตรมาสก่อนจากโรงไฟฟ้ากลับมาจ่ายไฟปกติ หลังปิดปรับปรุงในไตรมาส 3/2561 และรับรู้รายได้ขายอุปกรณ์ไฟฟ้าในปริมาณสูง

ขณะที่กำไรพิเศษ (งวดที่ 1, ธ.ค.61) ขายหุ้น TPN ให้กองทุนฮ่องกง คำนวณกำไรหลังภาษีเท่ากับ 51.4 ลบ. ในขณะที่ ประเมินรายได้รวมยังอยู่ในระดับสูงที่ 757.3 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 44% จากปีก่อน และ 5% จากไตรมาสก่อนจากรายได้ขายก๊าซของ BIGGAS ยังเติบโตได้ต่อเนื่อง เป็นสัดส่วนหลักของรายได้รวม หนุนให้ GPM ฟื้นตัวดีที่ 15.1% (ไตรมาส 3/2561 13%) และ NPM โดดเด่นมากที่ 9.80% (ไตรมาส 3/2561: 0.9%) จากอานิสงส์รับรู้กำไรพิเศษขายหุ้น TPN ในไตรมาสนี้

ขณะที่เมื่อวันที่ 7 ธ.ค.61 ทาง PSTC ขายหุ้น TPN ในสัดส่วน 8% ออกให้แก่กองทุนฮ่องกง โดยแบ่งบันทึก 2 ไตรมาส (ไตรมาส 4/2561/ไตรมาส 1/2562 บันทึกกำไร 51.4/64.8 ล้านบาท) ในปี 2562 คาดกำไรจะทำจุดสูงสุดใหม่อีกครั้งที่260.2 ล้านบาท เติบโตกว่า 77% จากปีก่อนจากโรงไฟฟ้าชีวภาพ COD เพิ่มขึ้นอีก 6MW

ขณะที่เปิดตลาดใหม่เริ่มขายก๊าซ LNG และรับรู้กำไรพิเศษขายหุ้น TPN (งวดที่ 2) ในเดือนม.ค.62 นอกจากนี้รายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อม (EIA) ผ่านการอนุมัติภายในระยะเวลาเพียง 6 เดือน ถือว่าน่าประทับใจมาก เนื่องจากเป็นโครงการขนาดใหญ่และท่อนำน้ำมันวิ่งผ่านเส้นทางกว่า 350 กม. ถือเป็นการปลดล็อคปัจจัยสุดท้ายของโครงการนี้

ทั้งนี้ ยังคงมูลค่าพื้นฐานที่ 1.03 บาท หลังจากได้รับการอนุมัติ EIA อย่างเป็นทางการแล้วเมื่อ 3 ม.ค.19 ที่ผ่านมา โดยมีแนวโน้มปรับมูลค่าพื้นฐานขึ้นในช่วงถัดไป เบื้องต้นคำนวณมูลค่าพื้นฐานของโครงการ บนสมมติฐาน PSTC ถือหุ้นใน TPN จำนวน 47% (แบ่งขายแล้ว 4%) เท่ากับมูลค่าส่วนเพิ่มอีก 0.67 บาท เป็น Upside risk ต่อประมาณการและ Target price

Back to top button