ลุ้นหุ้นแบงก์ SCC-PTTEP

ตลาดหุ้นไทยเมื่อวานนี้ปิด -3.50 จุด มาที่ 1,590.50 จุด สวนตลาดหุ้นในภูมิภาค


ลูบคมตลาดทุน : ธนะชัย ณ นคร

ตลาดหุ้นไทยเมื่อวานนี้ปิด -3.50 จุด มาที่ 1,590.50 จุด สวนตลาดหุ้นในภูมิภาค

ดัชนีวิ่งขึ้นไปสูงสุด 1,609.39 จุด(+15.39%)

และต่ำสุด 1,587.53 จุด(-6.47%)

ช่วงเช้าที่ดัชนีถูกลากขึ้นไปเหนือ 1,600 จุด ก็คาดไว้อยู่แล้วว่า ภาคบ่ายจะ “แผ่วปลาย” แน่นอน

และก็เป็นเช่นนั้นจริง ๆ

ว่ากันว่าดัชนีตลาดหุ้นไทยแถว ๆ 1,600 จุด ไม่ได้ถือว่าแพงมาก แต่ก็ไม่ใช่ว่าจะถูก

ระดับ 1,600 จุด จึงยังถือเป็นแนวต้านสำคัญ

ดัชนีที่ร่วงมาปิดลบสะท้อนให้เห็นถึง “ความเชื่อมั่น” ของนักลงทุนที่ไม่ค่อยดีซักเท่าไหร่ คือ มีกำไร 1-3 ช่อง ก็พากันรีบออกแล้ว ไม่เช่นนั้นอาจจะ “จ่ายรอบวง” ได้

ดัชนีหุ้นไทยในช่วงปลายปี 2561 ลงไปลึกถึง 1,548 จุด

ดังนั้น เมื่อดัชนีวิ่งขึ้นมาระดับ 1,600 จุด จึงสบช่องขายทำกำไร เพราะปัจจัยบวกที่เข้ามาหนุนตลาด (เทรดวอร์) ไม่รู้ว่าจะพลิกกลับไปเป็นปัจจัยลบหรือเปล่า

เห็นว่าปัจจัยบวกลบที่มีผลต่อตลาดหุ้นไทยจะมาจากต่างประเทศ 60-70%

เช่น การเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐฯ กับจีน ที่สามวันดีสี่วันไข้

การออกจากสหภาพยุโรปของประเทศอังกฤษ

ตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญ เช่น PMI (Purchasing Manager Index) ที่เป็นการเซอร์เวย์จากผู้ประกอบการเอกชนของประเทศมหาอำนาจทางยุโรป เช่น ฝรั่งเศส อิตาลี เยอรมนี เริ่มมีแนวโน้มลดลง

ตัวเลขจีดีพีบางประเทศในกลุ่มยุโรปก็เริ่มลดลงด้วย

แล้วปัจจัยในประเทศล่ะ

หลัก ๆ ถูกจับตาอยู่ 2 เรื่อง

เริ่มจากการเลือกตั้ง และผลประกอบการไตรมาส 4/2561

ข่าวการเลือกตั้งการประเมินว่า หากต้อง “เลื่อน” เลือกตั้งจริง หุ้นอาจเกิดการ “แพนิก” และถูกขายออกมา (เพราะมีนักลงทุนพร้อมขายอยู่เพื่อลดความเสี่ยง)

แต่ประเด็นที่สำคัญกว่าคือ ผลประกอบการไตรมาส 4/2561 ของบริษัทจดทะเบียน (บจ.) ต่าง ๆ

เริ่มจากหุ้นในกลุ่มธนาคาร

TISCO จะเป็นหุ้นแรกที่แจ้งงบไตรมาส 4/2561 ในวันที่ 14 ม.ค.นี้

นักวิเคราะห์มองว่า กำไรเพิ่มขึ้นเล็กน้อย 4-5% และส่วนใหญ่ยังคงแนะนำซื้อ

หากผลประกอบการออกมาเป็นไปตามที่ตลาดคาดการณ์กัน ก็น่าจะเป็น “จิตวิทยา” ที่ดีต่อนักลงทุน

ทว่าไฮไลต์จริง ๆ ของหุ้นในกลุ่มธนาคารจะไปอยู่กับธนาคารขนาดใหญ่ นำโดย BBL, KBANK, KTB และ SCB

หาก 4 หุ้น “จตุรเทพ” ที่ว่านี้ มีหุ้นใดหุ้นหนึ่งหรือมากกว่านั้น งบการเงินต่ำกว่าคาดการณ์ ก็จะเป็นเซนติเมนต์เชิงลบทันที โดยเฉพาะหนี้เอ็นพีแอลจะเพิ่มหรือไม่

หากเพิ่มขึ้น! นักลงทุนก็ “วงแตก” เลยล่ะ

เพราะจะสะท้อนไปยังผลประกอบการของ บจ. ว่าจะออกมาดีหรือไม่ดี

แต่หากกลุ่มแบงก์ออกมาเป็นไปตามคาด หรือดีกว่าคาด ตลาดก็น่าจะตอบรับเชิงบวก หรือมีแรงขายทำกำไรออกมาบ้าง

หลังจากกลุ่มธนาคารแล้ว

ก็ต้องติดตามงบปูนใหญ่ หรือ SCC ที่นักวิเคราะห์ดีดลูกคิดกันมาก่อนแล้วว่า “ไม่ค่อยดี” นัก

ที่ว่าไม่ค่อยดีนี้ และหากงบ SCC ออกมาต่ำกว่าที่คาดไว้อีก

วงแตกอีกรอบแน่นอน

เช่นเดียวกับหุ้น “พี่เทพ” PTTEP ที่จะแจ้งงบในช่วงเวลาเดียวกัน ก็ต้องลุ้นกันว่า เป็นไปตามคาดการณ์อีกหรือไม่

งบไตรมาส 4/2561 จึงมีความสำคัญต่อภาวะตลาดครับ

และถูกให้น้ำหนักที่ต้องจับตามากกว่าการเลื่อน หรือไม่เลื่อนเรื่องเลือกตั้งเสียอีก

Back to top button