สรุปภาวะตลาดหุ้นต่างประเทศ

สรุปภาวะตลาดหุ้นต่างประเทศประจำวันที่ 9 ม.ค. 2562


ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (9 ม.ค.) หลังจากมีรายงานว่า การเจรจาการค้าระหว่างเจ้าหน้าที่สหรัฐและจีนมีความคืบหน้า โดยทั้งสองฝ่ายสามารถลดช่องว่างของความคิดเห็นที่แตกต่างกันในประเด็นการค้า นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับปัจจัยหนุนจากรายงานการประชุมในเดือนธ.ค.ของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ซึ่งส่งสัญญาณว่า เฟดจะชะลอการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 23,879.12 จุด เพิ่มขึ้น 91.67 จุด หรือ +0.39% ขณะที่ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 6,957.08 จุด เพิ่มขึ้น 60.08 จุด หรือ +0.87% และดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,584.96 จุด เพิ่มขึ้น 10.55 จุด หรือ +0.41%

 

ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวกเมื่อคืนนี้ (9 ม.ค.) ขานรับรายงานที่ว่าการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐและจีนส่งสัญญาณในด้านบวก โดยปัจจัยดังกล่าวช่วยหนุนตลาดหุ้นยุโรปดีดตัวขึ้นปิดในแดนบวกติดต่อกันเป็นวันที่ 2 แม้มีรายงานว่าการส่งออกของเยอรมนีชะลอตัวลงก็ตาม

ดัชนี Stoxx Europe 600 เพิ่มขึ้น 0.53% ปิดที่ 347.70 จุด

ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 10,893.32 จุด เพิ่มขึ้น 89.34 จุด หรือ +0.83% ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,906.63 จุด เพิ่มขึ้น 45.03 จุด หรือ +0.66% และดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 4,813.58 จุด เพิ่มขึ้น 40.31 จุด หรือ +0.84%

 

ตลาดหุ้นลอนดอนปิดบวกเมื่อคืนนี้ (9 ม.ค.) หลังจากมีรายงานว่า การเจรจาการค้าระหว่างเจ้าหน้าที่สหรัฐและจีนมีความคืบหน้า โดยทั้งสองฝ่ายสามารถลดช่องว่างของความคิดเห็นที่แตกต่างกันในประเด็นการค้า

ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,906.63 จุด เพิ่มขึ้น 45.03 จุด หรือ +0.66%

 

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นกว่า 5% เมื่อคืนนี้ (9 ม.ค.) ทำสถิติปิดในแดนบวกติดต่อกันเป็นวันที่ 8 เนื่องจากนักลงทุนยังคงขานรับการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐและจีนที่ส่งสัญญาณคืบหน้า นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับปัจจัยหนุนการปรับลดกำลังการผลิตของกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) รวมทั้งสต็อกน้ำมันดิบที่ปรับตัวลดลงในสัปดาห์ที่ผ่านมา

สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนก.พ. พุ่งขึ้น 2.58 ดอลลาร์ หรือ 5.2% ปิดที่ 52.36 ดอลลาร์/บาร์เรล ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 13 ธ.ค. 2561

สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนมี.ค. เพิ่มขึ้น 2.72 ดอลลาร์ หรือ 4.6% ปิดที่ 61.44 ดอลลาร์/บาร์เรล ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่ช่วงกลางเดือนธ.ค. 2561

 

สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (9 ม.ค.) โดยได้ปัจจัยหนุนจากการอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์ รวมทั้งการที่เจ้าหน้าที่ของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ได้ออกมาส่งสัญญาณถึงการชะลอปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย ขณะที่นักลงทุนจับตารายงานการประชุมเฟดประจำเดือนธ.ค.ซึ่งจะมีการเปิดเผยหลังจากตลาดทองคำนิวยอร์กปิดทำการแล้ว

สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนก.พ. เพิ่มขึ้น 6.10 ดอลลาร์ หรือ 0.47% ปิดที่ 1,292.00 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนมี.ค. เพิ่มขึ้น 2.20 เซนต์ หรือ 0.14% ปิดที่ 15.735 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนเม.ย. เพิ่มขึ้น 3.50 ดอลลาร์ หรือ 0.43% ปิดที่ 825.30 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนมี.ค. เพิ่มขึ้น 8.00 ดอลลาร์ หรือ 0.6% ปิดที่ 1269.40 ดอลลาร์/ออนซ์

 

ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (9 ม.ค.) หลังจากธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ได้ส่งสัญญาณในรายงานการประชุมประจำเดือนธ.ค.ว่า เฟดจะชะลอการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย

ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับเงินเยน ที่ระดับ 108.26 เยน จากระดับ 108.63 เยน และอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ 0.9750 ฟรังก์ จากระดับ 0.9812 ฟรังก์ นอกจากนี้ ดอลลาร์สหรัฐยังอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์แคนาดา ที่ระดับ 1.3221 ดอลลาร์แคนาดา จากระดับ 1.3282 ดอลลาร์แคนาดา

ยูโรแข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.1544 ดอลลาร์ จากระดับ 1.1442 ดอลลาร์ ขณะที่เงินปอนด์แข็งค่าขึ้นสู่ระดับ 1.2794 ดอลลาร์ จากระดับ 1.2719 ดอลลาร์ และดอลลาร์ออสเตรเลียแข็งค่าขึ้นแตะที่ระดับ 0.7180 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.7139 ดอลลาร์สหรัฐ

 

Back to top button