พาราสาวะถี

จะบอกว่าชัดเจนขึ้นเรื่อย ๆ ก็ใช่ที เพราะมันแจ่มแจ้งตั้งแต่ต้นอยู่แล้วกับการเดินต่อไปบนถนนสายอำนาจของ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา เพียงแต่จะเปลี่ยนบริบทจากหัวหน้าเผด็จการ มาแต่งองค์ทรงเครื่องเป็นผู้ผ่านการยกมือหนุนทั้งจากส.ส.ที่ผ่านการเลือกตั้งและส.ว.ลากตั้ง 250 เสียงเท่านั้นเอง เวลานี้รอเพียงแค่จะมาในรูปแบบของการเป็นแคนดิเดตนายกฯสังกัดพรรคพลังประชารัฐหรือนายกฯคนนอกเท่านั้นเอง


อรชุน

จะบอกว่าชัดเจนขึ้นเรื่อย ๆ ก็ใช่ที เพราะมันแจ่มแจ้งตั้งแต่ต้นอยู่แล้วกับการเดินต่อไปบนถนนสายอำนาจของ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา เพียงแต่จะเปลี่ยนบริบทจากหัวหน้าเผด็จการ มาแต่งองค์ทรงเครื่องเป็นผู้ผ่านการยกมือหนุนทั้งจากส.ส.ที่ผ่านการเลือกตั้งและส.ว.ลากตั้ง 250 เสียงเท่านั้นเอง เวลานี้รอเพียงแค่จะมาในรูปแบบของการเป็นแคนดิเดตนายกฯสังกัดพรรคพลังประชารัฐหรือนายกฯคนนอกเท่านั้นเอง

แน่นอนว่าต้องเลือกวิธีการแรก เพราะมาอย่างหลังแนวโน้มที่จะนำไปสู่การนองเลือดมีสูง การเป็นแคนดิเดตของพรรคการเมือง ขนาดพวกแทงกั๊กยังถูไถยอมรับได้ว่ามาตามครรลองของระบอบประชาธิปไตย และทำให้ตัดสินใจไม่ยากหากจะต้องร่วมรัฐบาลกับพวกสืบทอดอำนาจ ส่วนวาทกรรมของท่านผู้นำเรื่องยังไม่มีพรรคไหนเชิญและตัวเองตอบตกลงไปแล้วหรือยัง เป็นแค่ละครฉากหนึ่งเท่านั้น

หากไม่เล่นการเมืองต่อคงบอกให้ชัดกันไปตั้งนานแล้ว และหากไม่สังกัดพรรคไหน จะคอยมาดักคอเวลาพรรคการเมืองโน้นพรรคการเมืองนี้นำเสนอนโยบายว่าทำไม่ได้หรือระวังผิดกฎหมายให้ตัวเองถูกนักการเมืองด่าแบบสาดเสียเทเสียไปทำไม ท่าทีที่แสดงออกเด่นชัดยิ่งคือการบอกเป็นนัยอย่างไรเสียก็ตกร่องปล่องชิ้นกับพลังประชารัฐนี่แหละ

ไม่เพียงเท่านั้น สิ่งที่ฉันคิดและพวกฉันจะทำเป็นสิ่งวิเศษ เลิศเลอกว่าใครเพราะทำได้ และไม่ผิดกฎหมาย ดูเหมือนปากจะอ้างประชาธิปไตย แต่วิธีการยังไม่ต่างจากพวกเผด็จการ เพราะคนอื่นทำไม่ได้และไม่ดี มีแต่ฉันและพวกฉันเท่านั้นที่ทำได้ทำดี ทั้ง ๆ ที่เมื่อเข้าสู่โหมดเลือกตั้งทุกอย่างขึ้นอยู่กับเสียงของประชาชน การบอกว่าต้องเป็นอย่างนั้นอย่างนี้ โดยที่ประชาชนยังไม่ได้ตัดสินใจเลือก ตามมารยาททางการเมืองแล้ว ถือเป็นการดูถูกประชาชน

ขณะเดียวกัน สิ่งที่ทุกคนจับตามองและค่อนขอดท่านผู้นำก็คือ ปากบอกว่าสร้างความปรองดอง ต้องไม่เกิดความขัดแย้งทั้งก่อน ระหว่างและหลังเลือกตั้ง พร้อมเตือนพรรคการเมืองให้หาเสียงกันอย่างสร้างสรรค์ ประทานโทษ ลองหันไปมองกระบอกเสียงหรือแม้แต่แกนนำพรรคที่ท่านจะไปเป็นแคนดิเดตนายกฯหน่อยว่า ทำอย่างที่หัวหน้าเผด็จการพล่ามบอกกับประชาชนหรือไม่

วัน ๆ นอกจากคุยโม้โอ้อวดเรื่องตัวเลขส.ส.ที่จะได้ เป็นการปั่นกระแสสร้างราคาให้กับตัวเองและพรรคพวกแล้ว ยังมีการสาดโคลน กล่าวหาคนของพรรคการเมืองอื่นอยู่ตลอดเวลา นี่หรือคือการเมืองรูปแบบใหม่ ไหนที่หัวหน้าเผด็จการบอกว่า อย่าเลือกแบบเดิม พวกนิสัยแบบเดิม เช่นนี้เข้าทำนองว่าแต่เขาอิเหนาทำเอง(ทั้งหมด) แล้วมันจะเป็นการเมืองรูปแบบใหม่ได้อย่างไร ดีไม่ดีถ้ามีคนค่อนขอดว่าท่านผู้นำเป็นพวกปากว่าตาขยิบก็อย่าไปโกรธคนที่พูดก็แล้วกัน

ทางด้านความเคลื่อนไหวของพรรคการเมืองอื่น เพื่อไทยแม้จะพยายามทำให้สังคมเห็นว่าทำงานกันเป็นทีม โดยวันนี้มี คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ควง ชัชชาติ สิทธิพันธุ์ เดินสายหาเสียงและสยบข่าวเกาเหลากันเนื่องมาจากการแย่งชิงเป็นแคนดิเดตนายกฯอันดับ 1 ของพรรคนายใหญ่ แต่นั่นเป็นภาพเบื้องหน้า เบื้องหลังยังเต็มไปด้วยปัญหาที่ต้องเก็บกวาดกันให้หมดก่อนเข้าสู่โหมดเลือกตั้งเต็มตัว

เจ๊หน่อยคงต้องยอมรับชะตากรรม เพราะแม้มีความอยากจะเป็นใหญ่เพียงใด แต่สถานการณ์การยอมรับของส.ส.โดยเฉพาะจากต่างจังหวัดถือเป็นสิ่งที่เจ้าตัวปฏิเสธไม่ได้ พอมีชัชชาติเข้ามาประกบทำให้ทีมงานของหัวหน้ากลุ่มกทม.เข้าใจได้ทันทีว่าอะไรกำลังจะเกิดขึ้น แม้ภาพกว้างในระดับประเทศอดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมผู้ทรงพลังยังดูเป็นรอง แต่โมเดล 45 วันขึ้นเป็นนายกฯของ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ถือเป็นต้นแบบที่จะถูกนำมาใช้อีกครั้ง

เวลานี้สิ่งที่จะได้เห็นจึงจะเป็นภาพของเจ๊หน่อย-ชัชชาติเดินสายพร้อมกันเพื่อขจัดข่าวเสี้ยมเรื่องความขัดแย้ง ขณะเดียวกันก็จะมีหลายพื้นที่ที่ชัชชาติฉายเดี่ยวพร้อมทีมผู้สมัครส.ส.ในพื้นที่ นี่คือแนวทางที่ถูกเคาะมาแล้ว กับกติกาและระยะเวลาที่เหลือหากการเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันที่ 24 มีนาคมนี้จริง เนื่องจากตัวเลือกที่จะสร้างเซอร์ไพรส์สำหรับนายใหญ่รอบนี้ไม่เหลือแล้วจริง ๆ ประกอบกับชัชชาติเองก็มีแรงหนุนชั้นดีอย่างอดีตนายกฯหญิงนั่นเอง

ฟากประชาธิปัตย์หนนี้คู่ต่อสู้สำคัญไม่ได้มีแค่เพื่อไทยเท่านั้น ซึ่งหากวัดกันตามหน้าเสื่อชัยชนะหนีไม่พ้นตกเป็นของพรรคนายใหญ่ ดังนั้น ไฮไลต์สำคัญจึงอยู่ที่การแย่งชิงกันอันดับสอง โดย อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ จะต้องนำทีมห้ำหั่นกับพรรคของเผด็จการคสช. แม้ว่าปลายทางจะหนีไม่พ้นได้ร่วมกันจัดตั้งรัฐบาลก็ตาม แต่เมื่อเข้าสู่สนามเลือกตั้งแล้วไม่มีใครยอมใคร

ทางเลือกที่ 3 นอกเหนือจากฝ่ายประชาธิปไตยกับเผด็จการ จึงยังเป็นความพยายามที่พรรคเก่าแก่ต้องการเกิดขึ้นให้ได้ แต่ด้วยสถานการณ์ที่เห็นและเป็นไปมันไม่เอื้อที่จะให้เกิดภาพเช่นนั้น งานนี้จึงถือเป็นเรื่องเหนื่อยและหนัก เดิมพันของอภิสิทธิ์คือต้องได้ส.ส.ไม่ต่ำกว่าหลักร้อยคน หากพลาดเป้าเท่ากับว่าเจ้าตัวต้องแสดงมารยาททางการเมืองให้พรรคอื่นได้เห็นด้วยการลาออกจากหัวหน้าพรรคทันที

การเลือกตั้งครั้งนี้จึงจะเป็นบทพิสูจน์อะไรหลายอย่าง ส่วนที่ประมาทไม่ได้อย่าง “เสี่ยหนู”อนุทิน ชาญวีรกูล ซึ่งล่าสุดชูนโยบายแบ่งปันกำไรข้าว จนถูกปรามาสว่าขายฝันทำไม่ได้ เจ้าตัวถึงกับออกมาประกาศท้าชนมาเฟียไม่กลัวตาย พร้อมสวนไปยังผู้นำว่าอย่าดูแคลน แม้จะไม่ใช่พรรคใหญ่ที่โกยเก้าอี้ได้เป็นกอบเป็นกำ แต่ดูจากแนวทางและอดีตส.ส.ที่ไหลมาสังกัด ถือเป็นพรรคตัวแปรสำคัญ มิหนำซ้ำ ยังมีบางปัจจัยที่เอื้อให้พรรคการเมืองนี้เป็นพรรคที่ใครก็มองข้ามไม่ได้

อย่างไรก็ตาม เสียงเตือนจาก แสวง บุญมี รองเลขาธิการกกต.เรื่องพรรคเก่าที่มีคุณสมบัติพร้อมเลือกตั้งเวลานี้มีแค่ 2 พรรคอาจกระตุกความคึกคักของพรรคการเมืองต่าง ๆ แต่คงไม่มีอะไรให้สะดุด พรรคระดับเก๋าทั้งหลายคงไม่มีใครตายน้ำตื้น เราจึงได้ยินเสียงตอบกลับไปยังกกต.ดัง ๆ จากหลายพรรคการเมืองว่า ไม่ต้องห่วงพรรคการเมือง ห่วงกกต.นั่นแหละ ขอให้ทำหน้าที่ให้โปร่งใส ตรงไปตรงมา แค่เท่านี้ทุกอย่างก็จะราบรื่น เรียบร้อย แต่ถ้าไม่ใช่ ใครก็ไม่อาจคาดเดาได้ว่าจะเกิดอะไรขึ้น

Back to top button