ลือ! “ภัทร”แหวกแนวซื้อรฟฟ. ปั๊มดีล GPSC ฮุบ GLOW เสี่ยงคอนฟลิค-กลบรายการเกี่ยวโยง

สะพัด!วงการเงิน “บล.ภัทร” รับหน้าเสื่อรับซื้อโรงไฟฟ้า SPP1 จากโกลว์พลังงาน เก็บไว้ในมือตัวเองก่อน เพื่อแก้ปมเงื่อนไขกกพ. หวังปิดเกม GPSC ซื้อ GLOW มูลค่าแสนล้านบาท ด้วยสัญญาขายคืนกลุ่ม Engie หลังดีลจบ ฟันค่ารับซื้อฝากหุ้นชั่วคราวเกือบ 100 ล้านบาท แถมค่าที่ปรึกษาการเงินพุงปลิ้น.! จับตาท่าทีกกพ.-ก.ล.ต.คิดอย่างไร เข้าข่ายช่วยเหลือ Engie หลีกเลี่ยงทำรายการเกี่ยวโยงหรือไม่


สืบเนื่องจากกรณีที่สำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (สำนักงาน กกพ.) มีมติเห็นชอบในหลักการให้บริษัทบริษัท โกลบอล เพาเวอร์ ซินเนอร์ยี่ จำกัด (มหาชน) หรือ GPSC กับบริษัท โกลว์ พลังงาน จำกัด (มหาชน) หรือ GLOW ควบรวมกิจการ ตามที่บริษัทได้ยื่นคำขออนุญาตต่อ กกพ. เพื่อเข้าทำธุรกรรมการซื้อขายหุ้นของ GLOW ทั้งทางตรงและทางอ้อมจำนวนทั้งสิ้น 1,010,976,033 หุ้น คิดเป็นร้อยละ 69.11 คิดเป็นมูลค่า 9.59 หมื่นล้านบาท

โดย กกพ. กำหนดเงื่อนไขบังคับให้ GLOW ต้องขายกิจการของบริษัท โกลว์ เอสพีพี 1 จำกัด (SPP1) ให้แล้วเสร็จก่อนหรือในเวลาเดียวกับที่บริษัทรวมกิจการ และอยู่ระหว่างรอผลการอนุมัติอย่างเป็นทางการจาก กกพ. กล่าวคือ จะเกิดการซื้อขายและดำเนินการทำคำเสนอซื้อหุ้นที่เหลือทั้งหมดของ GLOW ก็ต่อเมื่อการขายกิจการของ SPP1 ได้ดำเนินการแล้วเสร็จ ทั้งนี้ เพื่อไม่ให้เป็นการลดการแข่งขันอย่างมีนัยสำคัญ

ล่าสุด วันนี้ (31 ม.ค.2562) ผู้สื่อข่าวรายงาน อ้างอิงการเปิดเผยข้อมูลของแหล่งข่าวซึ่งเป็นที่ปรึกษาทางการเงินแห่งหนึ่งว่า บริษัทหลักทรัพย์ ภัทร จำกัด (มหาชน) ในฐานะผู้จัดหาแหล่งเงินกู้สำหรับการทำรายการระหว่าง GPSC และ Engie Group (ผู้จะขายหุ้น GLOW) มีการจัดทำร่างสัญญา เพื่อเข้าซื้อโรงไฟฟ้า SPP1 จาก GLOW เพื่อให้เป็นไปตามเงื่อนไขของ กกพ. ที่กำหนดให้ต้องดำเนินการจำหน่ายโรงไฟฟ้าดังกล่าวให้แล้วเสร็จ ก่อนที่จะสามารถควบรวมกิจการได้

จากการตรวจสอบเพิ่มเติม พบว่า นอกเหนือจากการที่ บล.ภัทร จะดำเนินการซื้อโรงไฟฟ้าแห่งนี้ไว้ชั่วคราว เพื่อให้การทำรายการระหว่าง GPSC และ Engie เกิดขึ้นได้สำเร็จ รายละเอียดของสัญญายังกำหนดให้กลุ่ม Engie ต้องกลับมาซื้อโรงไฟฟ้า SPP1 คืนจาก บล.ภัทร เมื่อ กกพ. อนุมัติให้สามารถควบรวมกิจการในขั้นตอนสุดท้ายแล้ว

ทั้งนี้ มีรายงานว่า บล.ภัทร จะได้รับค่าตอบแทนจากการทำรายการดังกล่าว จำนวนราว 3 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือคิดเป็นเงินไทยประมาณ 93 ล้านบาท ขณะเดียวกัน ยังทำหน้าที่เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน (FA) ให้กับ GPSC สำหรับการเข้าซื้อกิจการ GLOW ในครั้งนี้ด้วย

ดังนั้น บล.ภัทร จะได้รับค่าตอบแทนจากทั้ง 2 ส่วน คือ 1.การรับซื้อโรงไฟฟ้า SPP1 ไว้ชั่วคราว และ 2.การเป็นที่ปรึกษาฯให้กับ GPSC เมื่อรายการควบรวมแล้วเสร็จ

อย่างไรก็ดี แหล่งข่าวไม่ยืนยันว่า บล.ภัทร ได้ดำเนินการลงนามในสัญญาดังกล่าวแล้วหรือไม่ แต่ตั้งเป็นข้อสังเกตว่า การทำรายการในลักษณะนี้ หากว่าเกิดขึ้นจริงนั้น ทาง กกพ.จะยอมรับว่าเป็นการทำธุรกรรมที่แท้จริง ซึ่งจะส่งผลให้ไม่เกิดการลดการแข่งขัน หรือสร้างความได้เปรียบเสียเปรียบหรือไม่

ขณะเดียวกัน การที่บล.ภัทร ซึ่งเป็นผู้ให้บริการทางการเงิน แต่มีการลงทุนในธุรกิจไฟฟ้า รวมถึงการเป็นที่ปรึกษาฯให้กับ GPSC ในฐานะ “ผู้จะซื้อ” แต่ได้รับค่าตอบแทนจาก Engie ในฐานะ “ผู้จะขาย” นั้นถือว่าเหมาะสม และเป็นไปตามวัตถุประสงค์ หรือข้อกำหนดในการเก็บรักษาข้อมูลความลับของคู่สัญญาด้วยหรือไม่

“ดีลซื้อขาย SPP1 น่าจะมีปัญหา เพราะจะไปขายให้เจ้าอื่นอย่าง BGRIM WHA หรือ AMATA ก็ขายยาก เพราะว่าโรงนี้เป็นโรงเก่า แถมเรื่องร้อนแบบนี้คงถูกกดราคาจนแทบไม่เหลืออะไรแน่ ส่วนที่ว่าจะไปขายฝากไว้ที่ภัทร ก็เท่ากับเป็นการเอาสินทรัพย์ที่มีปัญหาไปพักไว้ชั่วคราว แล้วมีสัญญาซื้อคืน แบบนี้กกพ.และก.ล.ต.ไม่น่ายอม แถมเรื่องนี้เท่ากับเป็นการทำรายการเกี่ยวโยงของ Engie ด้วย” แหล่งข่าวกล่าว

อนึ่ง SPP1 เป็นโรงไฟฟ้าที่มีกำลังการผลิตไฟฟ้า 124 เมกะวัตต์ และไอน้ำ 90 ตันต่อชั่วโมง ตั้งอยู่ในนิคมอุตสาหกรรมดับบลิวเอชเอ ตะวันออก จังหวัดระยอง ทุนจดทะเบียน 2.15 พันล้านบาท

โดยก่อนหน้านี้มีการรายงานข่าวโดยเป็นการประเมินว่า หากมีการตัดโรงไฟฟ้าดังกล่าวออกจากสินทรัพย์ของ GLOW มีโอกาสจะทำให้มูลค่าการซื้อกิจการของทาง GPSC ลดลง ซึ่งจะส่งผลให้ราคาหุ้น GLOW ที่จะรับซื้อปรับตัวลดลงเหลือราว 90 บาทต่อหุ้น จากเดิมหุ้นละ 94.89 บาท

Back to top button