จัดระเบียบ IPO

*หากจำกันได้เมื่อต้นสัปดาห์ก่อน “โมนิก้า” ได้มีการพูดถึงการตั้งองค์กรลับที่ได้รับการสนับสนุนจากหน่วยงานทางการให้เข้ามาเทรนนิ่งที่ปรึกษาทางการเงิน เจ้าของกิจการ และโบรกเกอร์ เพื่อให้เข้าใจถึงแก่นแท้ของการทำหุ้น IPO ให้ปังแบบยั่งยืน ซึ่งพรายกระซิบแอบได้ยินข่าวแว่ว ๆ ตอนนี้มีสมาชิกที่เข้าร่วมมากถึง 100 ชีวิต และโต้โผหลักในการทำกิจกรรมดังกล่าวในอีก 1 เดือนข้างหน้า มีชื่อของ เฮีย ค. เป็นคนสั่งการทั้งหมด จึงเป็นเรื่องที่อยากให้แฟนคลับติดตามดูกันต่อไปว่า ไอพีโอต่อจากนี้จะปังแค่ไหน ?


เจาะกระดาน : โมนิก้าและทีมงาน

*หากจำกันได้เมื่อต้นสัปดาห์ก่อน “โมนิก้า” ได้มีการพูดถึงการตั้งองค์กรลับที่ได้รับการสนับสนุนจากหน่วยงานทางการให้เข้ามาเทรนนิ่งที่ปรึกษาทางการเงิน เจ้าของกิจการ และโบรกเกอร์ เพื่อให้เข้าใจถึงแก่นแท้ของการทำหุ้น IPO ให้ปังแบบยั่งยืน ซึ่งพรายกระซิบแอบได้ยินข่าวแว่ว ๆ ตอนนี้มีสมาชิกที่เข้าร่วมมากถึง 100 ชีวิต และโต้โผหลักในการทำกิจกรรมดังกล่าวในอีก 1 เดือนข้างหน้า มีชื่อของ เฮีย ค. เป็นคนสั่งการทั้งหมด จึงเป็นเรื่องที่อยากให้แฟนคลับติดตามดูกันต่อไปว่า ไอพีโอต่อจากนี้จะปังแค่ไหน ?

*ล่าสุดดูเหมือนว่า เรื่องดังกล่าวจะเริ่มเป็นรูปเป็นร่างมากขึ้น เมื่อตลาดหลักทรัพย์ฯ ออกมาตอกย้ำถึงแนวทางพัฒนา IPO ให้กลับมาโฉบเฉี่ยวไฉไลกว่าเดิมนั้น “โมนิก้า” มองเป็นเรื่องที่ทุกคนต้องทำความเข้าใจพร้อมกันก่อนว่า win-win ต้องมาลำดับแรก เพราะเป็นวิธีเดียวที่ทำให้แมงเม่าไม่รู้สึกโดนเอารัดเอาเปรียบ ซึ่งจะทำให้บรรยากาศการซื้อขายวันแรกสดใสซาบซ่านอีกครั้งไงล่ะคะ

*สถานการณ์ดังกล่าวทำให้คนในวงการตลาดทุนโฟกัสไปยังต้นทางอย่าง FA เป็นลำดับแรก เพราะเป็นคนหาสินค้าเข้ามาในตลาดหุ้น โดยสินค้าที่นำมาขายจะดีหรือไม่ดี ! ก็ขึ้นอยู่กับสายตาของที่ปรึกษาทางการเงินเฉียบคมเพียงใด และคนถัดมาคงเป็นเจ้าของกิจการอยากได้เงินมากขนาดไหน ? แถมที่ผ่านมามักมีการโยนความผิดให้กับเจ้าของกิจการเป็นประจำแบบนี้..ต้องเคลียร์กันยาวนะคะ

*เนื่องจากความขัดแย้งเรื่องการตั้งราคาที่เกิดขึ้นในช่วงหลัง ๆ เขาว่ากันว่า เกิดจากการเสนอราคาสูง ๆ ไว้ก่อนเป็นประจำ ต่อจากนั้นค่อยลดทอนราคาลงมาเมื่อมีการทักท้วงเกิดขึ้น (นับครั้งได้) ราคาขายถึงไม่สอดคล้องกับความเป็นจริง เพราะมัวแต่วาดฝันตัวเลขกำไรในอนาคตสูงเกินไป จนหลงลืมสถานการณ์รอบข้างเอื้อต่อการกำหนดราคาขนาดไหน ? เลยกลายเป็นเรื่องที่ต้องมีการปรับทัศนคติกันทั้งยวงนะจะบอกให้

*เรื่องนี้ยังครอบคลุมถึงคนที่เป็น Underwriter ก็ต้องมียุทธวิธีการกระจายที่เหมาะสมกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้น ซึ่งบ่อยครั้งเห็นได้ว่าคนรับประกันการจัดจำหน่ายหุ้นมักไม่เอาใจใส่กับจังหวะการลงทุนที่เปลี่ยนไป “โมนิก้า” ถึงคาดหวังกับการจัดระเบียบหุ้นไอพีโอเที่ยวนี้จะทำให้ทุกอย่างดีขึ้น เพราะผลลัพธ์ของเรื่องนี้มันเกี่ยวข้องกับ “ดีมานด์” และ “ซัพพลาย” ล้วน ๆ พะยะค่ะ

*เสร็จจากเรื่องดังกล่าวปุ๊บ “โมนิก้า” ขอหันมามองสถานการณ์ของตลาดหุ้นไทย หลังทะยานขึ้นมาปิดที่ 1,651.40 จุด บวกไป 9.67 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 4.80 หมื่นล้านบาท เท่ากับเป็นการย้ำหัวหมุดแรงซื้อจากนักลงทุนสถาบันยังมีเข้ามาอย่างต่อเนื่อง ผนวกกับประเมินสถานการณ์รอบด้านแล้วพบว่า ไม่มีอะไรต้องวอร์รี่ ! เดี๊ยนถึงมองเหตุการณ์ร้ายสุดของเที่ยวคงเป็นการ “ย่ำเพื่อขึ้น” ไงล่ะคะ

*คล้ายกับสถานการณ์ของ PTT เดี๋ยวโดนลากขึ้นแรง ๆ เดี๋ยวโดนทุบหนัก ๆ สุดท้ายก็อยู่ในรูปแบบ w-shape มันเป็นจังหวะที่ทำให้ “โมนิก้า” เชื่อว่าหุ้นจะขึ้นไปพลิกแนวต้านบริเวณ 49.50 บาทกลายเป็นแนวรับอันแข็งแกร่ง เพื่อเปิดโอกาสให้หุ้นวิ่งขึ้นไปหายอดแรกที่บริเวณ 52 บาท เดี๊ยนถึงอยากให้นักเล่นมองการปิดที่ 49.50 บาท บวกไป 1 บาท หรือขึ้นไป 2.06% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 2.24 พันล้านบาท น่าตามไปดูขนาดไหนนะจ๊ะ

*เช่นเดียวกับในรายของ KCE พุ่งขึ้นแบบพรวดพราดขึ้นมาปิดที่ 30 บาท บวกไป 3.75 บาท หรือขึ้นไป 14.29% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 687 ล้านบาท ทั้งที่ก่อนหน้านี้เพิ่งดันไปออกของแบบไม่ทันตั้งตัว “โมนิก้า” ย่อมมองเป็นความเสี่ยงที่นักเล่นต้องคิดดูให้ดีก่อนเคาะขวาตามน้ำ เพราะงานเลี้ยงโต๊ะจีนเที่ยวก่อนจบตรงบริเวณ 29.50 บาทแบบดื้อ ๆ จึงต้องเจียมเนื้อเจียมตัวกันไว้บ้างนะคะ

*อีกหนึ่งรายที่ต้องเฝ้าระวังให้ดี “โมนิก้า” กลับมองไปที่หุ้นปล่อยสินเชื่อสิบล้อ THANI กระชากขึ้นมาปิดที่ 7.45 บาท บวกไป 0.50 บาท หรือขึ้นไป 7.19% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 374.06 ล้านบาท มันเป็นจังหวะที่น่าไหลตามน้ำก็จริง แต่ถ้าดูไซเคิลของธุรกิจที่เริ่มเดินมาถึงจุดอิ่มตัว ผนวกกับทิศทางของหุ้นยังอยู่ในลักษณะลาดเอียง 45 องศา เดี๊ยนมองเป็นจังหวะของการตีหัวเข้าบ้านมากกว่าพะยะค่ะ

*ส่วนในรายของ GCAP อาจเป็นช็อตตื่นเต้นเร้าใจเมื่อหุ้นทะยานขึ้นมาปิดที่ระดับ 3.62 บาท บวกไป 0.42 บาท หรือขึ้นไป 13.12% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 109.62 ล้านบาท แต่เมื่อดูองค์รวมของธุรกิจที่กำไรไม่นิ่ง และราคาหุ้นทรุดตัวลงมากกว่าทะยานขึ้น “โมนิก้า” มองเป็นช็อตแค่การเล่นสั้น ๆ หลังราคาหุ้นขึ้นมายืนปิดเหนือเส้น 200 วันสำเร็จ จึงต้องเผื่อใจไว้บ้างสำหรับแอ็กซิเดนต์ในอนาคตนะคะ

 

Back to top button