4 โบรกฯประสานเสียง! 27 หุ้นเด่นลงทุนเดือนก.พ.เน้นธีมปันผลสูง-ท่องเที่ยว-เลือกตั้งหนุน

4 โบรกฯประสานเสียง! 27 หุ้นเด่นลงทุนเดือนก.พ.เน้นธีมปันผลสูง-ท่องเที่ยว-เลือกตั้งหนุน


เข้าสู่การลงทุนเดือนกุมภาพันธ์ปี 2562 “ข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์” ทำการรวบรวมกลยุทธ์การลงทุนพร้อมปัจจัยที่ต้องจับตาในการลงทุนมานำเสนอ โดยอาศัยบทวิเคราะห์จากบล.ทรีนีตี้,บล.ดีบีเอส วิคเคอร์ส,บล.เอเซีย พลัส และบล.โนมูระ พัฒนสิน

โดยโบรกเกอร์ส่วนใหญ่มีมุมมองว่าการลงทุนในเดือนนี้น่าจะขึ้นต่อขณะเดียวกันค่าเงินบาทแข็งขึ้นต่อเนื่องจะช่วยหนุนให้กระแสเงินทุนไหลเข้ามาในหุ้นไทยเพิ่มขึ้น อีกทั้งความชัดเจนทางการเมืองน่าจะช่วยขับเคลื่อนแรงซื้อในประเทศก่อนการเลือกตั้ง

สำหรับธีมหุ้นเน้นที่ขนาดใหญ่ปันผลสูงราคายัง Laggard ตลาด และมี Valuation ถูก และกลุ่มที่มีพัฒนาการเชิงบวกทางตัวเลขเศรษฐกิจ ได้แก่ กลุ่มท่องเที่ยว  อาทิ QH,MAJOR,PTTEP,INTUCH, DTAC,CENTEL,AMATA, GUNKUL,BWG,CK,WHA,BBL,HMPRO,GLOBAL,ERW,TKN,TISCO,ANAN,HANA, KTB,TCAP, AOT,AAV, ERW,SPA,BEAUTY,DDD

 

บล.ทรีนีตี้ ประเมิน SET Index เดือนก.พ. 62 แกว่งตัว Sideways ในกรอบแนวรับแรกที่ 1,600 จุด และแนวรับสำคัญที่ 1,570 จุด ส่วนแนวต้านสำคัญประเมินที่ 1,670 จุด แนะนำนักลงทุนระยะสั้นที่ขายทำกำไรไปแล้วรอการเข้าซื้อตามกรอบแนวรับ ส่วนนักลงทุนระยะยาวสามารถแบ่งถือหุ้นขนาดใหญ่ปันผลสูงได้ เลือกกลุ่มธนาคาร โรงกลั่นและท่องเที่ยว เป็นกลุ่มที่น่าสนใจสำหรับการลงทุน

ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ ทรีนีตี้ จำกัด ประเมิน SET Index เดือนกุมภาพันธ์ 2562 แกว่งตัว Sideways โดยมองกรอบแนวรับแรกที่ 1,600 จุด และแนวรับสำคัญที่ 1,570 จุด ส่วนแนวต้านสำคัญประเมินที่ 1,670 จุด

ปัจจัยบวก ประกอบด้วย 1. กระแสเงินทุนต่างชาติที่เริ่มมีสัญญาณดีขึ้น ส่งผลให้เงินบาทปรับตัวแข็งค่ามากที่สุดในเอเชียนับตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา และ 2.นักท่องเที่ยวต่างชาติกลับมาฟื้นตัวแล้ว นำโดยชาติที่เป็นฐานนักท่องเที่ยวหลักทั้งหมด

ส่วนปัจจัยลบ ประกอบด้วย 1.ประมาณการกำไรของบริษัทจดทะเบียนที่ยังคงถูกปรับลดลง จนส่งผลให้ Valuation ปรับตัวสูงขึ้นในมิติของ PE และ 2.ประเด็น Brexit ที่อาจมีความวุ่นวายเกิดขึ้นได้ทุกเมื่อ

ทั้งนี้ยังมีปัจจัยที่เป็นได้ทั้งบวกและลบ ประกอบด้วย 1.การเจรจาการค้าระหว่างจีนและสหรัฐฯ ซึ่งทางปธน.โดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐฯ และปธน.สี จิ้นผิงของจีนมีโอกาสเปิดโต๊ะเจรจากันในเดือนนี้ และ 2. ทิศทางตัวเลข PMI ภาคการผลิตของประเทศสำคัญ เช่น จีน ยูโรโซน และสหรัฐฯ ซึ่งจะเป็นตัวแปรกำหนดทิศทางตลาดหุ้นเกิดใหม่ในช่วง 3 เดือนข้างหน้าได้

สำหรับกลุ่มหุ้นแนะนำประจำเดือนนี้ ได้แก่ 1.กลุ่มหุ้นขนาดใหญ่ปันผลสูง ที่ราคายังคงปรับตัว Laggard ตลาดอยู่ และมี Valuation ถูก ได้แก่ กลุ่มธนาคาร เช่น BBL, KTB, TCAP และกลุ่มโรงกลั่น เช่น TOP, SPRC, PTTGC และ 2.กลุ่มที่มีพัฒนาการเชิงบวกทางตัวเลขเศรษฐกิจ ได้แก่ กลุ่มท่องเที่ยว ซึ่งล่าสุดเดือนธันวาคมที่ผ่านมา นักท่องเที่ยวต่างชาติกลับมาเติบโตสูงสุดในรอบ 6 เดือน มองตัวหุ้นที่ได้ประโยชน์ ได้แก่ AOT, AAV, ERW, SPA, BEAUTY, DDD, TKN

 

บล.ดีบีเอส วิคเคอร์ส ระบุว่า  ธีมการลงทุนและหุ้นเด่นเดือนก.พ.62 ซึ่งเราเลือกมาทั้งหมด 4 ธีม คือ

1.ธีมการเลือกตั้ง & การลงทุน -เชื่อว่ารัฐบาลใหม่จะยังเดินหน้าโครงการลงทุนขนาดใหญ่ โดยเฉพาะในพื้นที่ EEC เพราะเป็น Key growth สำคัญของเศรษฐกิจไทย หุ้นเด่นเดือนก.พ.เป็น CK, WHA, BBL, HMPRO, GLOBAL

2.ธีมท่องเที่ยวฟื้นตัว – ตัวเลขนักท่องเที่ยวจีนกลับมาบวกในเดือนธ.ค.61 และมีโมเมนตัมดีต่อใน 1Q62 กลุ่มที่ได้ประโยชน์เป็นสนามบิน สายการบิน โรงแรม ค้าปลีก หุ้นเด่นเดือนนี้เป็น ERW, TKN

3.ธีมแนวโน้มกำไรไตรมาส1/62 – คาดกลุ่มพลังงานจะมีกำไรดีขึ้นใน 1Q62 เพราะราคาน้ำมันดิบรีบาวด์จากสิ้นปี 61 ทำให้จะมีกำไรจากสต๊อก (จากขาดทุนสต๊อกในไตรมาส4/61 อย่างไรก็ดี ค่ากลั่นในไตรมาส1/62 ลดลงโดยเฉพาะค่าการกลั่นน้ำมันเบนซิน ดังนั้นหุ้นเด่นจึงเป็นกลุ่มผลิตและสำรวจฯ แนะนำซื้อเก็งกำไรจังหวะราคาอ่อนตัวใน  PTTEP

4.ธีมปันผลสูง – หลังประกาศงบปี 61 บจ.จะประกาศปันผลด้วย ซึ่งหุ้นปันผลสูงที่น่าสนใจเป็น TISCO (Yield 6% จ่ายปีละ 1 ครั้ง), ANAN (Yield 6.5% จ่ายปีละ 2 ครั้ง), QH (Yield 6.5% จ่ายปีละ 2 ครั้ง), HANA (Yield 6% จ่ายปีละ 2 ครั้ง), HREIT (Yield 10% จ่ายปีละ 4 ครั้ง), WHART (Yield 6.5% จ่ายปีละ 4 ครั้ง)

ปัจจัยเสี่ยง/ไม่แน่นอน ได้แก่ ราคาน้ำมันที่อ่อนแอกว่าคาด, ผลการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐกับจีนแย่กว่าที่ตลาดประเมินไว้, ปัญหาการเมืองโลก, NPL กลุ่มธนาคารปรับขึ้นเกินคาด, โครงการลงทุนขนาดใหญ่ล่าช้า และเม็ดเงินลงทุนเข้าตลาดเงินแทนตลาดหุ้น และแรงขาย Sell on fact

 

บล.เอเซีย พลัส ระบุว่ากลยุทธ์การลงทุน คาด SET ยังแกว่งตัวขึ้นในกรอบ 1630-1650 จุด มีแรงหนุนจากกลุ่มน้ำมันตราบที่ยังยืนเหนือ 60 เหรียญฯ ตามด้วยกลุ่ม ธ.พ. จากสัญญาณการขึ้นดอกเบี้ยเงินกู้ยืมชัดขึ้น หลัง CIMBT นำร่องขึ้นดอกเบี้ยเงินกู้รายย่อย และการรายงานงบไตรมาส4/61 ของบริษัทจดทะเบียนฯ แม้อาจมีแรงขายรับงบ แต่จะตามด้วยการประกาศจ่ายเงินปันผล ซึ่งเป็นหุ้นที่ควรสะสม 1 เดือนล่วงหน้า ก่อนขึ้นเครื่องหมาย XD 1 เดือน คือ QH (FV@4.48), MAJOR (FV@B29) และ PTTEP (FV@B168)  เลือกเป็น Top picks

 

บล.โนมูระ พัฒนสิน แนวโน้มตลาดเดือน ก.พ. 2019 คาด “ขึ้น” จากสัญญาณบวกของทิศทางการลงทุนโลกโน้มเอียงกลับมาตลาด EM-ASIA จากปัจจัยหนุน 1) ทิศทางนโยบายการเงินโลกมีสัญญาณผ่อนคลาย หลัง FED ส่งสัญญาณอดทนต่อการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย และชะลอการปรับลดงบดุล ทำให้ Nomura ประเมิน FED จะขึ้นดอกเบี้ยอีกเพียง 1 ครั้ง ในช่วงครึ่งหลังของปี (จากเดิมคาด 2 ครั้งในเดือน มี.ค.,  ก.ย. 2019) และ ECB คาดดอกเบี้ยขึ้น มี.ค. ปี 2020 จากเดิม ก.ย. 2019

2) การเจรจาการค้ามีสัญญาณบวก หลังนายมนูชิน รัฐมนตรีคลังสหรัฐฯ ส่งสัญญาณ พร้อมยกเลิกภาษี หากจีนนำเข้าสินค้าสหรัฐฯ เพิ่มเติมและทำตามเงื่อนไขของสหรัฐฯ

3) การเมืองไทยเดินหน้าเลือกตั้ง 24 มี.ค. 2019 เป็นการเลือกตั้งทั่วไป ครั้งแรกในรอบกว่า 5 ปีเศษ หนุนความเชื่อมั่นการลงทุน และ SET มักจะมี “Pre-Post Election Rally” 2-3 เดือนก่อน และ 1 เดือนหลังการเลือกตั้ง เฉลี่ย 5.35% , 4.95% หนุนดัชนี

4) Upside Risk จากการแก้กฎเกณฑ์ MSCI ซึ่งจะสรุปเดือน มี.ค. 2019 หากมีมติเห็นชอบจะหนุนเงินจาก Passive Fund เข้าไทยราว 3.5 หมื่นล้านบาท(แบ่งเป็น 1หมื่นล้านบาทใน INTUCH, DTAC, CENTEL, RATCH และที่เหลือจะกระจายในหุ้น MSCI Thailand ตัวอื่นๆ) น้ำหนัก EM-ASIA ของไทยจะเพิ่มจาก 2.5% เป็น 3% มีผล พ.ค. 2019

ดังนั้นคาดว่า Active-Fund จะเข้าไทยก่อน และน่าจะเห็นแรงซื้อเข้ามาเพื่อปรับสถานะต่อเนื่องในเดือน ก.พ. 2019  หนุน SET แกว่งขึ้นในกรอบแนวต้าน 1721/1747จุด และแนวรับ 1626/1617จุด

ส่วนประเด็นที่ต้องติดตาม 1) MSCI Rebalance รอบเดือน ก.พ. คาดไม่มีหุ้นไทยเข้าออกใหม่ ใน MSCI Global Standard 2) รายงาน GDP 4Q18 ของไทย ในวันที่ 18 ก.พ.  3) การเจรจาการค้าเพิ่มเติมของ US-China ก่อน 1 มี.ค. และ 4) บทสรุปของการแก้ร่าง SOFTER BREXIT ให้เสร็จ 26 ก.พ. เพื่อขอยืดการออกจากสหภาพยุโรปจากเดิม 29 มี.ค. 2019

กลยุทธ์ลงทุน: คาดตลาด UP  รับกระแสเงินไหลเข้าไทย จากความเชื่อมั่นเรื่องการเมือง และ Upside Risk ของการแก้กฎเกณฑ์ของ MSCI ที่จะหนุนน้ำหนักไทยเพิ่มขึ้น

แนวต้าน 1721/1747จุด แนะนำถือหุ้น 82.5% ของพอร์ต เดือนนี้เน้น Election Rally : COMM  : ถือ-Trading CPALL-ROBINS ซื้อใหม่ แนะนำ BJC , BANK : ถือ-Trading BBL ซื้อเพิ่ม KBANK ซื้อใหม่ SCB, อิงการลงทุน : ถือ-Trading TOA-WHA  ซื้อเพิ่ม STEC, AMATA, CK, รฟฟ : ถือ GULF ซื้อเพิ่ม BGRIM-GUNKUL, ENERG : ถือ-Trading PTT ซื้อใหม่ TOP-IRPC, ESSO, MEDIA : ซื้อเพิ่ม PLANB, HEALTH : ถือลงทุน BDMS-BH, TOURISM : ถือ-Trading  AOT ซื้อเพิ่ม MINT, ERW และ Mid- Small Cap(GUNKUL, BWG, PLANB, XO)

สำหรับ Portfolio Top Picks FEB 2019 แนะนำ INTUCH, DTAC, CENTEL, AMATA, GUNKUL, BWG ส่วน Dark House : BJC, AAV, STEC, SCB

*ทั้งนี้ข้อมูลที่มีการนำเสนอข้างต้น เป็นเพียงข้อแนะนำจากข้อมูลพื้นฐานเพื่อประกอบการตัดสินใจของนักลงทุนเท่านั้น และมิได้เป็นการชี้นำ หรือเสนอแนะให้ซื้อหรือขายหลักทรัพย์ใดๆการตัดสินใจซื้อหรือขายหลักทรัพย์ใดๆ ของผู้อ่าน ไม่ว่าจะเกิดจากการอ่านบทความในเอกสารนี้หรือไม่ก็ตาม ล้วนเป็นผลจากการใช้วิจารณญาณของผู้อ่าน

Back to top button