สังคมข่าวหุ้น

นิวส์เวฟ

* ตลาดหุ้นไทยล่าสุดปิดการซื้อขายที่ระดับ 1,658.71 จุด ปรับเพิ่มขึ้น 5.62 จุด มูลค่าการซื้อขายรวม 3.8 หมื่นล้านบาท

* เมื่อวานแรงซื้อเริ่มกลับมาหนาแน่นขึ้นตามลำดับและหุ้นบลูชิพหลายตัวเริ่มตั้งหลักวิ่งขึ้นได้อีกครั้ง แต่ที่มาโดดเด่นเหนือกว่าใครก็คือหุ้น EA เพราะตุนปัจจัยบวกมาเพียบจนสปอร์ตไลต์ฉายส่องที่ตัวหุ้นชัดเจน

*   ในเชิงพื้นฐานแล้วนอกจากประเด็นงบปี 2561 ที่มีโอกาสเติบโตและฟันกำไรเกินกว่า 5 พันล้านบาท (ตามที่โบรกฯ คาดไว้) อีกจุดน่าสนใจ คือ การปลดล็อกความกังวลโครงการหนุมาน เพราะสามารถ COD แบบเป็นทางการได้เสียที (หลังจากเลื่อนมาหลายรอบ) แม้จะประเดิมเริ่มต้นด้วยการ COD จำนวน 90 MW แต่ก็ถือว่ามีนัยสำคัญต่อฐานกำไรบริษัทไม่เบาเช่นกันนะ เพราะเท่ากับส่งผลให้ขณะนี้ EA มีกำลังผลิตไฟฟ้าในมือสูงทุบสถิติเฉียด 500 MW กันไปแล้ว

*  นั่นหมายความว่างวดไตรมาสแรกปี 2562 ฐานกำไรปกติจะมีโอกาสโตโดดเด่นได้ทันทีทั้งแบบเทียบช่วงปีก่อนหรืองวดไตรมาส 4/2561 ที่ผ่านมา เพราะสามารถบุ๊กผลตอบแทนโรงไฟฟ้าหนุมานเข้ามาได้ครั้งแรก และจะบันทึกแบบเต็มไตรมาสตั้งแต่งวดไตรมาส 2/2562 เป็นต้นไป ส่วนกำลังผลิตที่เหลือของหนุมาน โดยตามแผนที่บริษัทวางไว้จะไล่ทยอย COD เพิ่มเติมต่อเนื่อง (ภายในปี 2562) และเมื่อจ่ายไฟฟ้าครบ 260 MW แล้วจะส่งผลให้ EA มีกำลังผลิตไฟฟ้าในมือขยับขึ้นเป็น 664 MW

*  อีกประเด็นที่กลายเป็นปัจจัยบวกแบบเซอร์ไพรส์ต่อ EA และนอกเหนือจากที่ตลาดคาดไว้ คือ กรณีวิกฤติปัญหาฝุ่น PM 2.5 ที่ส่งผลให้ภาครัฐเร่งเดินหน้าลงมือแก้ปัญหา ซึ่งหนึ่งในแนวทางที่ภาครัฐลงมือทำ คือ ผลักดันให้เกิดการใช้น้ำมัน B20 พร้อมกับป้อนเข้าสู่ตลาดทันที เพื่อช่วยแก้ปัญหาด้านมลพิษที่เกิดขึ้นจากการเผาไหม้เชื้อเพลิงของเครื่องยนต์ดีเซล ซึ่งแม้ตลาด B20 ในปัจจุบันอาจจะยังอยู่ในวงจำกัด (เน้นใช้กับรถขนาดใหญ่) แต่นี่ก็ถือเป็นสัญญาณที่ดีต่อตลาดไบโอดีเซลเช่นกัน เพราะเท่ากับมีผลิตภัณฑ์ตัวใหม่เข้ามาช่วยสร้างเสถียรภาพทางราคามากยิ่งขึ้น จากเดิมวนเวียนกันอยู่แค่ B5 และ B7 สลับกันไปมาเท่านั้น

*  ดังนั้น EA ในฐานะผู้ประกอบการไบโอดีเซลรายใหญ่ของไทยเช่นกัน ย่อมได้รับผลบวกในส่วนนี้เข้าไปด้วยเหมือนกัน ส่งผลให้ในปัจจุบันทั้งสายธุรกิจไบโอดีเซลและพลังงานไฟฟ้าเข้าสู่ช่วงขาขึ้นแบบยกแผง แล้วถ้าหากในอนาคตภาครัฐยังคงจริงจังกับการแก้ปัญหามลพิษให้ได้ต่อเนื่อง (ไม่ได้เป็นเพียงแค่นโยบายทางการเมือง) โครงการรถยนต์ไฟฟ้าและแบตเตอรี่กักเก็บพลังงานของ EA อาจจะได้รับการผลักดันจากภาครัฐแบบเป็นรูปธรรมมากยิ่งขึ้น และถือเป็นหนึ่งในอัพไซด์ต่อหุ้น EA ในอนาคตเลยทีเดียว

*  หุ้น TRC วิ่งบวกแรงกว่า 4% รับกรณีบริษัทลูก “สหการวิศวกร” คว้างานใหญ่นำสายไฟฟ้าลงใต้ดินมูลค่าสูงกว่า 2 พันล้านบาท เอาจริง ๆ ถือว่านานมากแล้วนะที่ไม่ได้เห็น TRC ประกาศข่าวดีเรื่องการคว้างานใหญ่มาแจ้งให้นักลงทุนได้รับทราบกัน โดยตามข้อมูลที่โบรกฯ รายงานออกมา ณ ปัจจุบัน ทางบริษัทมีแบ็กล็อกในมือประมาณ 5 พันล้านบาท ถ้าบวกกับงานล่าสุดด้านย้ายสายไฟฟ้าลงใต้ดินอีก 2 พันล้านบาท เท่ากับ TRC ในตอนนี้มีแบ็กล็อกเพิ่มขึ้นกว่า 7 พันล้านบาทไปแล้ว

*  จึงถือเป็นปัจจัยบวกสำคัญที่ส่งผลต่อเชิงพื้นฐานเป็นอย่างมาก แต่ยังคงต้องติดตามดูกันต่อไปว่าภายใต้แบ็กล็อกที่มีทั้งหมดนั้นทางบริษัทจะบุ๊กเข้ามาในงบปี 2562 เป็นจำนวนมากน้อยเพียงใด เพราะถือเป็นหนึ่งในประเด็นที่จะชี้วัดโอกาสเทิร์นอะราวด์ในงวดปี 2562

*  ส่งท้ายด้วยหุ้น AMATA ดิ่งลงสวนทางภาวะตลาดหุ้นไทยพร้อมกับปิดลบไปกว่า 2% เข้าใจว่าวิตกกังวลเรื่องบไตรมาส 4/2561 ที่มีโอกาสจะทำกำไรต่ำกว่าที่ตลาดเคยคาดไว้ เพราะอาจต้องบันทึกค่าใช้จ่ายในเวียดนามประมาณ 200 ล้านบาท ซึ่งภายใต้วอลุ่มการซื้อขายหุ้น AMATA เมื่อวานนี้ที่หนาแน่นเฉียด 1.2 พันล้านบาท ดูทรงแล้วยังมีความเสี่ยงที่ราคาหุ้น AMATA อาจปรับตัวลงต่อได้อีก ในเบื้องต้นหากจะลงทุนในหุ้นนิคมอุตสาหกรรมและเล่นอิงกับประเด็น EEC (เป็นหลัก) อาจจะสลับย้ายมาที่ตัวหุ้น WHA แทนก่อนชั่วคราว เพราะในเชิงภาพรวมแล้วยังมีปัจจัยบวกในมือมากกว่านั่นเอง