พาราสาวะถี

คงต้องยกให้เป็นวาทะแห่งปีกันทีเดียวกับคำพูดของ พลเอกอภิรัชต์ คงสมพงษ์ ผู้บัญชาการทหารบก ที่ไล่คนซึ่งเสนอนโยบายปรับลดงบประมาณกระทรวงกลาโหมไปฟังเพลง “หนักแผ่นดิน” ไม่เพียงเท่านั้นยังมีคำสั่งให้กองทัพบกเปิดเพลงดังกล่าวเช้า เที่ยง เย็น และให้เปิดผ่านสถานีวิทยุกองทัพบกทั่วประเทศด้วย ก่อนที่จะมีคำสั่งยกเลิกการเปิดผ่านวิทยุในเวลาต่อมา


อรชุน

คงต้องยกให้เป็นวาทะแห่งปีกันทีเดียวกับคำพูดของ พลเอกอภิรัชต์ คงสมพงษ์ ผู้บัญชาการทหารบก ที่ไล่คนซึ่งเสนอนโยบายปรับลดงบประมาณกระทรวงกลาโหมไปฟังเพลง “หนักแผ่นดิน” ไม่เพียงเท่านั้นยังมีคำสั่งให้กองทัพบกเปิดเพลงดังกล่าวเช้า เที่ยง เย็น และให้เปิดผ่านสถานีวิทยุกองทัพบกทั่วประเทศด้วย ก่อนที่จะมีคำสั่งยกเลิกการเปิดผ่านวิทยุในเวลาต่อมา

สถานการณ์เช่นนี้ มันสะท้อนอะไรได้หลายอย่าง อย่างแรกคือทำไมผบ.ทบ.ต้องปรี๊ดแตกขนาดนั้น หรือว่าเพราะใจที่ไม่เป็นกลาง มีธงอยู่ในใจแล้วว่าหลังการเลือกตั้งอยากจะให้พรรคไหนมาเป็นรัฐบาล และพรรคการเมืองนั้นคงจะสัญญาอะไรกันไว้เป็นมั่นเหมาะโดยเฉพาะการเพิ่มงบให้กองทัพหรืออย่างไร มันจึงแสดงออกอย่างดุเดือดเช่นนี้

คนที่ปราศรัยนำเสนอนโยบายอย่าง คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ คงไม่ต้องไปถามความรู้สึกเพราะนิสัยนางเอกคงไม่ติดใจเอาความ แต่เสียงวิจารณ์อื้ออึงจากนักการเมืองและคนซีกประชาธิปไตยสะท้อนไปยังท่วงทำนองของผบ.ทบ.ดุเดือดไม่แพ้สิ่งที่ท่านได้แสดงความรู้สึกเหมือนกัน ภาวการณ์แบบนี้มันทำให้หลายคนเริ่มจะหวั่นใจแล้วว่า นอกจากเลือกตั้งจะไม่เกิดขึ้น ยังจะเกิดการรัฐประหารซ้ำหรือไม่

น่าชื่นชมคนรุ่นใหม่อย่างพิธีกรดัง จอห์น วิญญู ที่แสดงความเห็นอย่างตรงไปตรงมาต่อท่าทีของผบ.ทบ. เป็นการยืนยันอีกครั้งว่าทหารไทยไม่รู้จักหน้าที่ของตัวเอง ไม่สนใจสถานะและความรับผิดชอบของตัวเอง เป็นเหตุของความพินาศของประเทศไทยจนทุกวันนี้ ท่วงทำนองดังว่าคงเข้าใจได้เพราะเจ้าตัวย้ำมาตลอดว่า เผด็จการคือหายนะทางเศรษฐกิจและปากท้องของประชาชน

ขณะที่ จาตุรนต์ ฉายแสง ในฐานะอดีตคนเดือนตุลาที่น่าจะสัมผัสถึงกลิ่นอายของเพลงดังว่าได้ดีไม่แพ้ใคร ระบุว่า ผบ.ทบ.พูดอย่างนี้ไม่ได้ เท่ากับแสดงความไม่เป็นกลางทางการเมือง ถือว่าผิดกฎหมาย ผิดระเบียบข้าราชการ โดยข้าราชการจะแสดงความไม่เป็นกลางทางการเมืองไม่ได้ มาพูดให้ร้าย พูดไม่ดีต่อพรรคการเมืองที่เสนอลดงบประมาณกระทรวงกลาโหม มากกว่านั้นคือความไม่เข้าใจในกติกาต่อระบอบการเลือกตั้ง ผบ.ทบ.ควรประพฤติตนเสียใหม่

ไม่เพียงเท่านั้นเดอะอ๋อยยังฉายภาพให้คนรุ่นหลังได้ฟังอีกว่า ตนอยู่ในเหตุการณ์ตอนปี 2519 ไม่รู้ว่าตอนนั้นผบ.ทบ.เข้าโรงเรียนเตรียมทหารหรือยัง เพลงนี้เป็นเพลงปลุกระดมให้คนไทยฆ่ากัน ตนฟังหลายเดือนในปี 2519 สุดท้ายจบลงที่รัฐประหาร เกิดการสังหารหมู่นักศึกษา ประชาชน เป็นเหตุการณ์สร้างความเจ็บปวดให้กับสังคมไทย

การหยิบเพลงนี้ขึ้นมาทำให้เกิดความแตกแยก อาจจะทำให้คนเข่นฆ่ากัน ผบ.ทบ.ควรปกป้องประเทศ ไม่ใช่สั่งให้คนไปเปิดเพลง จะทำให้คนไทยฆ่ากันเองหรืออย่างไร จากกรณีนี้มีคนถามว่า แล้วนักการเมืองจะกลัวจะหงอหรือไม่ เมื่อพูดไม่ถูกต้อง นักการเมืองก็ต้องกล้าที่จะพูดว่าผบ.ทบ.พูดอย่างนี้ไม่ได้ ควรไปปรับปรุงตัวเสียใหม่

เป็นการตอกย้ำถึงเรื่องการวางตนและประพฤติตนเสียใหม่ของผบ.ทบ. ขณะที่ ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ที่ร่วมโต๊ะแถลงข่าวกับจาตุรนต์ก็ชี้ว่า ในฐานะที่เป็นประชาชน จะสนับสนุนใครหรือรักคนใดคนหนึ่งเป็นสิทธิโดยชอบธรรมในวันลงคะแนน จะเป็นหนึ่งคะแนนเสียงเท่ากับผู้มีสิทธิเลือกตั้งทุกคน แต่ในฐานะผบ.ทบ.ขอให้รักษาความเป็นกลาง ความสง่างาม ความน่าเชื่อถือของกองทัพบกไว้ให้มั่นคง

การที่แสดงออกอย่างหนึ่งอย่างใดให้คนเข้าใจว่าเป็นการส่งสัญญาณสนับสนุนว่าที่นายกฯหรือผู้สมัครจากบางพรรคการเมืองนั้น อาจทำให้คนสับสน เป็นการส่งสัญญาณไปยังกำลังพลหรือไม่ ตามสไตล์ณัฐวุฒิมีการแซะแบบเจ็บ ๆ คัน ๆ ว่า หลายปีที่ผ่านมางบกระทรวงกลาโหมเพิ่มขึ้นตลอดเวลา ชาวบ้านเลยถามว่า งบเพิ่มขนาดนี้ไม่มีช่วงโปรโมชั่นลด 10 เปอร์เซ็นต์บ้างหรือ พอมีคนพูดขึ้นมา ผบ.ทบ.ถึงโมโหโกรธา

เห็นด้วยกับความเห็นของแกนนำนปช.ที่ไปสังกัดพรรคไทยรักษาชาติว่า ใครจะหนักแผ่นดินหรือไม่ พูดกันไปกันมาไม่จบ การตัดสินใจของประชาชนวันที่ 24 มีนาคมนี้ น่าจะตอบอะไรได้บ้าง การเลือกตั้งไม่ได้ชี้ว่าฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งชนะเบ็ดเสร็จ แต่ต้องทำให้บ้านเมืองเดินไปสู่ประชาธิปไตย แก้ไขปัญหาปากท้องให้ประชาชนได้อย่างแท้จริง ถึงจะเรียกได้ว่าเป็นชัยชนะของทุกฝ่าย

บรรยากาศที่เป็นไปในลักษณะนี้ ย่อมหนีไม่พ้นคำถามอันสำคัญคือจะได้เลือกตั้งกันไหม ไม่เลื่อนก็อาจเลิกกันไปเลยก็เป็นได้ เพราะด้วยปัจจัยหลายอย่างมันเอื้อให้ผู้มีอำนาจเบ็ดเสร็จสามารถที่จะตัดสินใจใช้มาตรา 44 ที่มีอยู่ในมือจัดการทุกอย่างเพื่อให้ตัวเองได้ไปต่อ อย่างน้อยก็สร้างความสบายใจให้กับคนที่ไล่ให้ไปฟังเพลงหนักแผ่นดิน ไม่ต้องลากรถถังขนกองกำลังมายึดอำนาจกันอีกกระทอก

แต่หากพิจารณาจากสิ่งที่ท่านผู้นำพูดหลังการประชุมครม.เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา ก็ทำให้เห็นภาพแรงกดดันอันชัดเจนจากนานาประเทศได้ แม้ผู้นำเผด็จการจะอ้างว่าสิ่งรัฐบาลชุดนี้ได้ทำมาตลอด 5 ปีได้รับการยอมรับจากต่างประเทศ เพียงแต่ติดตรงที่ที่มาของตัวเอง หากมาจากเลือกตั้งได้จะดีกว่านี้ ดังนั้น หากมีคนสนับสนุนให้ได้ทำต่อต้องขอบคุณ

แหม! ช่างเป็นการเข้าข้างตัวเองได้แบบเนียน ๆ แต่คงคิดในมุมที่มองประชาชนและคนทั่วไปโง่ดักดาน ไม่มีทางที่ประเทศประชาธิปไตยจะยอมรับสิ่งที่เผด็จการกระทำ คงลืมไปกระมังว่าทุกอย่างที่มันเดินได้มาเกือบ 5 ปีนั้น เพราะใช้อำนาจกดทับ มีกฎหมายพิเศษมีมาตรายาวิเศษ ถ้ากลับมาใหม่โดยไม่มีเครื่องไม้เครื่องมือเหล่านี้ ยังนึกภาพไม่ออกเหมือนกันว่าผู้นำเผด็จการจะก้าวเดินอย่างไร

ลำพังแค่การเป็นรัฐบาลผสมโดยที่พรรคของตัวเองมีเสียงที่ไม่ชนะการเลือกตั้ง และต้องพึ่งพิงเสียงส่วนใหญ่จากพรรคการเมืองอื่น เท่านี้ก็เห็นหายนะรออยู่ข้างหน้าแล้ว ประเภทที่เคยทุบโต๊ะต้องทำตามฉันสั่งเท่านั้นจะทำไม่ได้อีกต่อไป เว้นเสียแต่จะใช้อภินิหารทางกฎหมายพกอำนาจวิเศษติดตัวไปด้วยนั่นก็อีกเรื่อง แค่คิดก็เห็นแล้วว่าการจะกลับมาสืบทอดอำนาจโดยไร้เหตุวุ่นวายมันไม่น่าจะเป็นไปได้

Back to top button