ขาดสตอรี่ !

*หากเม้าท์กันตามความเป็นจริงที่เกิดขึ้นกับตลาดหุ้นไทยในยามนี้ “โมนิก้า” ต้องพูดให้ทุกคนเข้าใจก่อนเลยว่า ปัจจัยบวกที่คาดว่าจะเกิดขึ้นในไม่ช้า ! เอาเข้าจริงกลับไม่มีอะไรเป็นชิ้นเป็นอัน ผนวกกับตัวเลขกำไรที่พูดกันนัก..พูดกันหนา ในช่วงไตรมาส 1 ปี 2562 จะเริ่มเป็นรูปเป็นร่างมากขึ้นกว่าเดิม สุดท้ายก็ว่าวไปหมดทุกอย่างแบบนี้ ! หุ้นบลูชิพถึงถูกขายออกมาตลอดเวลาไงล่ะคะ


เจาะกระดานหุ้น : โมนิก้าและทีมงาน

*หากเม้าท์กันตามความเป็นจริงที่เกิดขึ้นกับตลาดหุ้นไทยในยามนี้ “โมนิก้า” ต้องพูดให้ทุกคนเข้าใจก่อนเลยว่า ปัจจัยบวกที่คาดว่าจะเกิดขึ้นในไม่ช้า ! เอาเข้าจริงกลับไม่มีอะไรเป็นชิ้นเป็นอัน ผนวกกับตัวเลขกำไรที่พูดกันนัก..พูดกันหนา ในช่วงไตรมาส 1 ปี 2562 จะเริ่มเป็นรูปเป็นร่างมากขึ้นกว่าเดิม สุดท้ายก็ว่าวไปหมดทุกอย่างแบบนี้ ! หุ้นบลูชิพถึงถูกขายออกมาตลอดเวลาไงล่ะคะ

*สถานการณ์ดังกล่าวทำให้ดัชนีรูดลงมาปิดที่ 1,625.51 จุด ลบไป 13.49 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 4.43 หมื่นล้านบาท หลังนักเล่นมองไม่เห็นโอกาสที่ดัชนีจะวิ่งขึ้นไปสร้างแนวรับใหม่ที่สูงกว่าเดิม ภาพของตลาดหุ้นไทยถึงออกไปในแนว “ทรุดตัว” มากกว่า “ทรงตัว” ส่งผลให้บรรดาขาลุยเริ่มถอยทัพเพื่อไปตั้งหลักดูสถานการณ์กันเป็นแถว ภาพของการเล่นเที่ยวนี้ถึงออกไปในโทนอึมครึมอีกครั้งเจ้าค่ะ

*วันนี้ถึงไม่ต้องไปตามหาว่าหุ้นตัวไหนแจ๋วสุด ? เพราะสิ่งที่เห็นเที่ยวนี้เต็มไปด้วยหุ้นที่สุดแสนระทึกใจ เพราะบางตัวทำท่าลงมาลึกสุด ๆ แต่ยังมีราคาที่ลึกกว่าให้เห็นเป็นระยะแบบนี้ “โมนิก้า” ถึงรู้สึกห่อเหี่ยวเมื่อเห็นแรงเทขายไหลออกมาไม่หยุดหย่อน เพราะมันตีความได้อย่างเดียวว่า ดัชนีกำลังมุดหัวลงไปหาฐานเก่าบริเวณ 1,600 จุด จึงคาดหวังกับการรีบาวด์เพื่อเป็นการกลับทิศได้ไม่เต็มที่พะยะค่ะ

*เหมือนกับในรายของพี่เบิ้ม PTT ทิ้งตัวลงแรงพร้อมกับเปิดแก๊ปให้เห็นคาตาแบบนี้ “โมนิก้า” มองเป็นจังหวะที่นักเล่นต้องเผื่อใจว่า หุ้นจะลงไปถึงฐานเก่าบริเวณราคา 45 บาทหรือเปล่า ? แต่ในขณะเดียวกันก็คิดต่อไปว่า หุ้นจะเด้งกลับขึ้นมาปิดแก๊ปที่เปิดไว้บริเวณ 49 บาทได้ไหม ? เดี๊ยนถึงอยากให้นักเล่นมองราคาปิดที่ 47.50 บาท ลบไป 1.25 บาท หรือลงไป 2.55% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 1.88 พันล้านบาท มันคือจังหวะวัดใจของแท้ใช่ไหมเอ่ย ?

*คล้ายกับกรณีของ SPRC เด้งขึ้นมายืนปิดที่ระดับ 11 บาท บวกไป 0.40 บาท หรือขึ้นไป 3.80% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 740 ล้านบาท มันเป็นการดันหุ้นขึ้นแล้วปล่อยให้ร่วงเหมือนก่อนหน้านี้ใช่หรือเปล่า ? เพราะเมื่อดูตามแพตเทิร์นที่เกิดขึ้นเที่ยวนี้ มันไม่มีสตอรี่ไหนเข้ามาช่วยเสริมให้หุ้นตัวนี้น่าสนใจเลยพับผ่าสิ ! เดี๊ยนถึงอยากให้นักเล่นนำเอาหุ้นตัวนี้กลับไปคิดเป็นการบ้านก่อนเคาะขวารัว ๆ ด้วยนะจ๊ะ

*เช่นเดียวกับหุ้น CHG กระชากสวนภาวะตลาดหุ้นขึ้นมาปิดที่ 1.87 บาท บวกไป 0.03 บาท หรือขึ้นไป 1.63% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 161 ล้านบาท ทั้งที่สตอรี่ของหุ้นไม่โดนใจกรรมการสักอย่าง แถมตัวเลขกำไรในช่วงหลายปีไม่โตเหมือนที่นักเล่นคาดหวัง เดี๊ยนถึงมองการเล่นเที่ยวนี้อาจเป็นสงครามวันเดียว หรือมองให้ดีขึ้นมานิดหนึ่งคงขึ้นไปยืนย่ำฐานเก่าบริเวณ 2 บาทสักอาทิตย์สองอาทิตย์นะคะ

*ส่วนหุ้นที่ทำให้ “โมนิก้า” รู้สึกใจหายแว้บสุด ๆ คงมองไปที่หุ้นยางมะตอย TASCO เพราะเอาสตอรี่ราคาน้ำมันดิบลดลงเป็นตัวปั่นราคาหุ้น อีกทั้งมีการปล่อยข่าวถึงฤดูซ่อมสร้างถนนทั่วประเทศ เลยมีพวกกล้าเสี่ยงตายเข้ามาตะลุมบอนแบบไม่ยั้งมือ วานนี้ถึงเห็นหุ้นขึ้นมายืนปิดที่ 16.40 บาท บวกไป 0.60 บาท หรือขึ้นไป 3.80% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 520 ล้านบาทนั้น เดี๊ยนเลยอยากให้ชำเลืองตามองหน่อยว่า P/E 44 เท่ายังตามเข้าไปเล่นกันอีกเหรอ ?

*สำหรับรายที่ “ไปไม่กลับ หลับไม่ตื่น ฟื้นไม่มี” อย่างเช่นทะเลเลือด OCEAN กลายเป็นมหากาพย์ที่แมงเม่าซุบซิบนินทากันสนุกสนาน หลังกลุ่มผู้ถือหุ้นใหญ่ไปจ๊ะเอ๋รายชื่อขาใหญ่ที่ทิ้งหุ้นแบบไม่ดูดำดูดีกลายเป็นคนใกล้ตัว (เขาว่าอย่างนั้น) สตอรี่ของหุ้นและธุรกิจเลยพังพาบไม่เป็นท่า เพราะไม่มีใครกล้าเสี่ยงเข้าไปรับของ วานนี้ถึงเห็นหุ้นไหลลงมากองอยู่ที่ 1.57 บาท ลบไป 0.11 บาท หรือลบไป 6.55% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 304 ล้านบาทไงล่ะคะ

*เหมือนกับในรายของ FOCUS ไหลลงแบบไม่มีดิสก์เบรก ก่อนจะลงเอยที่ระดับ 1.75 บาท ลบไป 0.43 บาท หรือลงไป 19.70% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 93 ล้านบาท จนแมงลือเม้าท์เป็นเสียงเดียวกันว่า “เสร็จนา ฆ่าโคถึก” เดี๊ยนถึงไม่มีความจำเป็นต้องสาธยายอะไรเพิ่มเติมจากที่ทุกคนเห็นกันอยู่ เพราะเขาปั่นราคากันมาสักพักหนึ่งแล้ว หากจะเลิกเล่นอย่างเป็นทางการ ก็มีความจำเป็นต้องสาดหุ้นทิ้งหนัก ๆ แบบนี้เจ้าค่ะ

*ส่วนรายที่ชอบดันหุ้นแบบแรง ๆ ต่อจากนั้นปล่อยให้หุ้นแกว่งตัวออกด้านข้าง ก่อนจะย้อนกลับเข้ามาดันใหม่อย่างหุ้น CAZ เดี๊ยนถือเป็นเกมที่นักเล่นต้องวิ่งตามให้ทัน เพราะเมื่อเทียบเคียงการเทรดของหุ้นบนค่า P/E 24.50 เท่า กับราคาหุ้นในกระดานที่ระดับ 4.80 บาท บวกไป 0.18 บาท หรือขึ้นไป 3.90% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 75 ล้านบาท มันคือจังหวะการเล่นของพวกที่คิดเร็วเป็นหลักนะจะบอกให้

Back to top button