จับตา! ตลาดหุ้นไทยผันผวน ลุ้นคดียุบพรรค “ไทยรักษาชาติ” บ่ายนี้

จับตา! ตลาดหุ้นไทยผันผวน ลุ้นคดียุบพรรค “ไทยรักษาชาติ” บ่ายนี้


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นักวิเคราะห์ประเมินสถานการณ์ตลาดหุ้นไทยวันนี้ (7 มี.ค.62) มีแนวโน้มแกว่งตัวผันผวน นักลงทุนบางส่วนยังคงปรับพอร์ตการลงทุนต่อเนื่อง หลังจากที่โบรกเกอร์ทยอยปรับลดคาดการณ์กำไรบริษัทจดทะเบียน (บจ.) ในปีนี้ หลังจากที่ประกาศผลประกอบการไตรมาส 4/61 ออกมาไม่สดใส โดยคาดว่าการปรับพอร์ตจะยังมีอยู่ต่อเนื่องในช่วง 1-2 สัปดาห์นี้

อย่างไรก็ตามมองว่าราคาหุ้นที่อ่อนตัวลงน่าจะยังสามารถทยอยสะสมได้เพื่อรอการฟื้นตัว จากปัจจัยบวกที่จะเข้ามาในช่วงปลายเดือนนี้ ทั้งจากการเลือกตั้งในประเทศ และการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐ-จีนที่น่าจะมีความคืบหน้ามากขึ้น พร้อมมองแนวรับ 1,615 และแนวต้านที่ 1,636 จุด

ขณะเดียวกัน ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลบติดต่อกันเป็นวันที่ 3 เมื่อคืนนี้ (6 มี.ค.) เนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มเศรษฐกิจสหรัฐ หลังจากตัวเลขจ้างงานภาคเอกชนของสหรัฐขยายตัวต่ำกว่าคาดในเดือนก.พ.

ขณะที่รายงานสรุปภาวะเศรษฐกิจ หรือ “Beige Book” ของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ระบุว่า ปัญหาชัตดาวน์ส่งผลให้กิจกรรมทางเศรษฐกิจชะลอตัวลง นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงกดดันจากการร่วงลงของหุ้นกลุ่มพลังงานและกลุ่มธุรกิจสุขภาพ และจากการที่นักลงทุนชะลอการซื้อขายเพื่อรอความชัดเจนของการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐและจีน

โดยดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 25,673.46 จุด ลดลง 133.17 จุด หรือ -0.52% ขณะที่ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,771.45 จุด ลดลง 18.20 จุด หรือ -0.65% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 7,505.92 จุด ลดลง 70.44 จุด หรือ -0.93%

ส่วนภาวะการซื้อขายในตลาดหุ้นนิวยอร์กได้รับแรงกดดันจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มเศรษฐกิจสหรัฐ หลังจากออโตเมติก ดาต้า โพรเซสซิ่ง อิงค์ (ADP) และมูดี้ส์ อนาลิติกส์ เปิดเผยว่า การจ้างงานของภาคเอกชนสหรัฐเพิ่มขึ้น 183,000 ตำแหน่งในเดือนก.พ. น้อยกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 185,000 ตำแหน่ง

อย่างไรก็ตาม ในช่วงบ่ายของวันนี้ (7 มี.ค.62) ศาลรัฐธรรมนูญ นัดอ่านคำวินิจฉัยกรณีที่ สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง หรือ กกต.ยื่นฟ้องยุบพรรคไทยรักษาชาติ (ทษช.)

โดยนักวิเคราะห์มีการคาดการณ์ว่า ดัชนีหุ้นไทยจะแกว่งตัวอยู่ในกรอบจำกัด เนื่องจากนักลงทุนระมัดระวังการเข้าลงทุน เพื่อรอฟังคำวินิจฉัยคดียุบพรรค

โดยบริษัทหลักทรัพย์ (บล.) หลายแห่ง ได้ออกบทวิเคราะห์ให้จับตาปัจจัยความเสี่ยงจากคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญในวันที่ 7 มีนาคมนี้ว่าจะมีคำสั่งยุบพรรคไทยรักษาชาติ (ทษช.) หรือไม่ โดยส่วนใหญ่ต่างมองว่าหากมีคำสั่งให้ยุบจริง กระทบเชิงลบต่อตลาดหุ้นไทยแน่นอน แต่เป็นเพียงระยะสั้นเท่านั้น

ด้านนายกรภัทร วรเชษฐ์ ผู้อำนวยการ ฝ่ายวิจัยและบริการการลงทุน จาก บล.โนมูระ พัฒนสิน กล่าวว่า หากศาลฯ มีคำตัดสินให้ยุบพรรคไทยรักษาชาติขึ้นมาจริง ๆ และมีความวุ่นวายตามมา จะส่งผลเชิงลบต่อตลาดหุ้นแน่นอน แต่หากไม่มีเหตุการณ์อะไร และยังเดินหน้าไปสู่การเลือกตั้งในวันที่ 24 มีนาคมนี้ ก็มั่นใจว่าตลาดหุ้นจะตอบรับกับข่าวนี้ และดัชนีจะวิ่งขึ้นไปได้ มีแนวต้านสำคัญที่ระดับ 1,670 จุด

“ช่วงนี้นักลงทุนต้องการรอความชัดเจนในเรื่องดังกล่าว บวกกับปัจจัยเรื่องการส่งออกที่ชะลอตัวทำให้ตลาดหุ้นดูซึม ๆ และดัชนีเคลื่อนไหวในกรอบแคบ” นายกรภัทร กล่าว

อย่างไรก็ตาม หากเกิดการยุบพรรคไทยรักษาชาติ (ทษช.) นั้น มั่นใจว่าจะไม่มีปัญหาความวุ่นวายตามมา เพราะกลุ่มคนที่สนับสนุน ทษช.ยังคงมีทางเลือกอื่น ๆ ซึ่งเป็นพรรคการเมืองที่ถูกมองว่าเป็นพันธมิตรกับ ทษช.

ขณะที่ นายกิจพณ ไพรไพศาลกิจ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์และนักกลยุทธ์ บล.ยูโอบี เคย์เฮียน (ประเทศไทย) กล่าวว่า กรณีพรรคไทยรักษาชาติจะถูกยุบหรือไม่นั้น ต้องดูว่าจะมีเหตุการณ์อะไรที่ไปกระทบ “วันเลือกตั้ง” หรือไม่ โดยหากทุกอย่างยังคงเดินหน้าไปสู่วันดังกล่าวก็เชื่อว่าจะเป็นแรงหนุนให้กับตลาดหุ้นได้

“ความวุ่นวายมันเป็นความเสี่ยง แต่หากวุ่นวายขึ้นมาจริง ๆ ก็จะกระทบกับตลาดหุ้น แต่จะเป็นระยะสั้นเท่านั้น เพราะตลาดหุ้นไทยผ่านวิกฤติทางการเมืองมาหลายครั้ง และสามารถผ่านไปได้ อย่างไรก็ดี ตลาดหุ้นไทยยังมีปัจจัยจากต่างประเทศเข้ามาหนุนอยู่ จึงเชื่อว่าจะทำให้ฟื้นตัวได้เร็ว” นายกิจพณ กล่าว

ทั้งนี้ หากสมมติวันที่ 7 มีนาคมนี้ ยังไม่มีคำวินิจฉัยใด ๆ ออกมา และเลื่อนไปตัดสินหลังวันเลือกตั้ง และหากคำตัดสินออกมาให้ยุบพรรคไทยรักษาชาติ ซึ่งหากออกมาแบบนี้ เชื่อว่าจะมีความวุ่นวายตามมา และเป็นปัจจัยกดดันต่อตลาดหุ้น

นายกิจพณ กล่าวด้วยว่า แม้ว่าการเมืองจะกลับมามีเสถียรภาพ แต่หากผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนในปี 2562 ชะลอตัว ก็อาจทำให้ดัชนีปีนี้จะขึ้นไปทำนิวไฮไม่ได้ โดยให้กรอบของปีนี้ไว้ระหว่าง 1,600-1,800 จุด

 

Back to top button