ธุรกิจสื่อ ยังต้องกลืนเลือด.!?

ผลประกอบการกลุ่มสื่อและสิ่งพิมพ์ปี 2561 ที่เพิ่งประกาศออกมา จะเห็นว่าส่วนใหญ่อาการยังน่าห่วง !!


สำนักข่าวรัชดา

ผลประกอบการกลุ่มสื่อและสิ่งพิมพ์ปี 2561 ที่เพิ่งประกาศออกมา จะเห็นว่าส่วนใหญ่อาการยังน่าห่วง !!

ภาพรวมสื่อสิ่งพิมพ์ ที่ยังพอประคองตัวได้เห็นจะเป็นบริษัท มติชน จำกัด (มหาชน) หรือ MATI แม้มีกำไรอยู่ที่ 19 ล้านบาท แต่ก็ลดลงค่อนข้างเยอะ จากปีก่อนมีกำไร 89.78 ล้านบาท เนื่องจากในปี 2560 มีกำไรพิเศษจากการลงทุน 80.88 ล้านบาท ส่วนปี 2561 กำไรพิเศษจากการลงทุนหายไปเหลือแค่ 34.39 ล้านบาท

ข้ามมาที่บริษัท อมรินทร์พริ้นติ้ง แอนด์ พับลิชชิ่ง จำกัด (มหาชน)  หรือ AMARIN พลิกกลับมามีกำไรในรอบ 4 ปี โดยมีกำไร 173 ล้านบาท จากช่วงปีก่อนขาดทุน 163 ล้านบาท เป็นผลมาจากการเติบโตของธุรกิจทีวีดิจิทัล (ช่อง AMARIN 34) มีรายได้เพิ่มขึ้น 84.72% รายได้ธุรกิจสื่อออนไลน์เพิ่มขึ้น 95.04% ธุรกิจงานแฟร์เพิ่มขึ้น 12.24% และธุรกิจจัดจำหน่ายเพิ่มขึ้น 145.44%

ส่วนบริษัท บางกอก โพสต์ จำกัด (มหาชน) หรือ POST ยังประสบปัญหาขาดทุนต่อเนื่อง โดยขาดทุน 167.7 ล้านบาท ลดลง 53.3% จากปีก่อนที่ขาดทุน 358.8 ล้านบาท เนื่องจากต้นทุนขายและบริการลดลงอยู่ที่ 991.3 ล้านบาท ลดลง 165 ล้านบาท หรือ 14.3% จากปีก่อนต้นทุนอยู่ที่ 1,156.3 ล้านบาท

แม้จะขาดทุนลดลง แต่สถานการณ์ POST ยังน่าห่วง…ถึงขั้นต้องปิดหนังสือพิมพ์โพสต์ทูเดย์ และหนังสือพิมพ์แจกฟรี M2F

หันไปดูกลุ่มทีวีดิจิทัล ที่โตโดดเด่น ต้องยกให้บริษัท อาร์เอส จำกัด (มหาชน) หรือ RS ซึ่งฟาดกำไรไป 516 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 55% จากปีก่อนมีกำไร 332 ล้านบาท เนื่องจากมีการปรับตัวหันไปรุกธุรกิจพาณิชย์หลายช่องทาง (Multi-platform Commerce หรือ MPC) มากขึ้น โดยเติบโตสูงถึง 51.3%

ส่วนบริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ จำกัด (มหาชน) หรือ GRAMMY ปี 2561 ถือว่าทำได้ดี พลิกกลับมามีกำไร 15.43 ล้านบาท จากปีก่อนขาดทุน 384.26 ล้านบาท เนื่องจากบริหารต้นทุนได้ดี มีค่าใช้จ่ายรวมอยู่ที่ 6,578.96 ล้านบาท ลดลง 21.4% จากปีก่อนค่าใช้จ่ายรวมอยู่ที่ 8,372.21 ล้านบาท

ฟากบริษัท เวิร์คพอยท์ เอ็นเทอร์เทนเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ WORK กำไรลดลงอย่างน่าใจหาย เหลือกำไรแค่ 345.30 ล้านบาท ลดลง 558.78 ล้านบาท หรือ 62% จากปีก่อนที่มีกำไร 904.09 ล้านบาท สาเหตุหลัก ๆ มาจากรายได้จากการขายโฆษณาและโปรโมตช่วงเวลาต่าง ๆ ของช่อง WORKPOINT23 เหลือแค่ 2,968.24 ล้านบาท ลดลง 510.11 ล้านบาท หรือ 15% จากปี 2560 เคยทำรายได้อยู่ที่ 3,478.35 ล้านบาท

ชะตากรรมไม่ต่างจากบริษัท บีอีซี เวิลด์ จำกัด (มหาชน) หรือ BEC ที่พลิกมาขาดทุน 330 ล้านบาท จากปีก่อนมีกำไรอยู่ที่ 61 ล้านบาท สาเหตุมาจากรายได้หาย….ต้นทุนเพิ่ม

โดยรายได้จากการขายเวลาโฆษณาอยู่ที่ 8,878.8 ล้านบาท ลดลง 10.2% จากปีก่อนที่ 9,890.2 ล้านบาท ส่วนรายได้จากการจัดคอนเสิร์ตและแสดงโชว์อยู่ที่ 368.5 ล้านบาท ลดลง 85.7 ล้านบาท หรือ 18.9% จากปีก่อนที่ 454.2 ล้านบาท ขณะเดียวกันมีค่าใช้จ่ายพิเศษจากการตั้งสำรองโครงการเออร์ลี่รีไทร์พนักงาน 140.6 ล้านบาท และค่าใช้จ่ายสำรองผลประโยชน์ระยะยาวของพนักงานตามร่างพ.ร.บ. คุ้มครองแรงงานอีก 134.8 ล้านบาท

ส่วนปีนี้น่าจะกลับมามีกำไรได้ จากต้นทุนที่ลดลง !!

บริษัท โมโน เทคโนโลยี จำกัด (มหาชน) หรือ MONO ออกอาการไม่ค่อยสู้ดี !! พลิกกลับมาขาดทุน 193.27 ล้านบาท ลดลง 251.44 ล้านบาท หรือ 432.25% จากปีก่อนที่มีกำไร 58 ล้านบาท เนื่องจากยังติดกับดักเรื่องของค่าลิขสิทธิ์ ส่งผลให้ต้นทุนรวมเพิ่มขึ้นอยู่ที่  2,558 ล้านบาท จากปีก่อนอยู่ที่ 2,427 ล้านบาท

ส่วนบริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) หรือ MCOT ขาดทุนลดลงอยู่ที่ 378 ล้านบาท ลดลง 85% จากปีก่อนขาดทุน 2,543 ล้านบาท โดยมีค่าใช้จ่ายรวมอยู่ที่ 2,892 ล้านบาท ลดลง 48% จากปี 2560 ที่มีค่าใช้จ่ายรวมอยู่ที่ 5,549 ล้านบาท

ด้านบริษัท นิวส์ เน็ตเวิร์ค คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ NEWS ทำผลงานได้ดีขึ้น ขาดทุนลดลงอยู่ที่ 271.92 ล้านบาท ลดลง 298.47 ล้านบาท หรือ 52.33% จากปีก่อนขาดทุนที่ 570.39 ล้านบาท โดยมีรายได้รวม 592.34 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 217.85 ล้านบาท หรือ 58.17% จากปีก่อนที่ 374.49 ล้านบาท

ส่วนต้นทุนและค่าใช้จ่ายลดลง โดยอยู่ที่ 930.46 ล้านบาท ลดลง 50.27 ล้านบาท หรือ 5.13% จากปีก่อนที่ 980.74 ล้านบาท

จะเห็นว่าบางค่ายแม้ทำผลงานได้ดีขึ้น แต่ยังไม่ดีพอที่จะสะกดคำว่า “กำไร”

ขณะที่บางค่ายยังต้อง “กลืนเลือด” เผชิญภาวะ “ขาดทุน” กันต่อไป !!

ก็หวังว่าปี 2562 นี้ จะเป็นปีที่ดีสำหรับกลุ่มสื่อซะที…

…อิ อิ อิ…

Back to top button