โดนทุบ (อีกแล้ว)

*ดัชนีท้ายสัปดาห์ที่ผ่านมาปรับตัวลดลงอย่างหนักอีกครั้ง ด้วยการเคลื่อนตัวแบบสุดสวิง “โมนิก้า” มองว่านักเล่นคงได้เห็นภาพการแกว่งตัวขึ้น ๆ ลง ๆ ไปอีกสักระยะ จึงต้องพยายามที่จะปรับพอร์ตให้รับกับสถานการณ์มากขึ้น เพราะอาจจะยังมีควันหลงจากการขายเข้ามาอีกระลอก สังเกตได้จากแรงขายออกมาหนัก ๆ ทำให้ดัชนีดิ่งพสุธาลงไปทำจุดต่ำสุดที่ 1,625.41 จุด ปรับตัวลดลงถึง 10 จุด  มาปิดที่ระดับ 1,625.57  จุด ลบไป 10.31 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย  4.98 หมื่นล้านบาท


เจาะกระดาน : โมนิก้าและทีมงาน

*ดัชนีท้ายสัปดาห์ที่ผ่านมาปรับตัวลดลงอย่างหนักอีกครั้ง ด้วยการเคลื่อนตัวแบบสุดสวิง “โมนิก้า” มองว่านักเล่นคงได้เห็นภาพการแกว่งตัวขึ้น ๆ ลง ๆ ไปอีกสักระยะ จึงต้องพยายามที่จะปรับพอร์ตให้รับกับสถานการณ์มากขึ้น เพราะอาจจะยังมีควันหลงจากการขายเข้ามาอีกระลอก สังเกตได้จากแรงขายออกมาหนัก ๆ ทำให้ดัชนีดิ่งพสุธาลงไปทำจุดต่ำสุดที่ 1,625.41 จุด ปรับตัวลดลงถึง 10 จุด  มาปิดที่ระดับ 1,625.57  จุด ลบไป 10.31 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย  4.98 หมื่นล้านบาท

*การเคลื่อนไหวในลักษณะดังกล่าว มีสาเหตุมาจากการที่สถานการณ์โดยรอบยังไม่มีปัจจัยบวกหนุนโดดเด่น อีกทั้งยังต้องคอยโก่งคอรอประเด็นหลักในสัปดาห์นี้ ทั้งเรื่องของการประชุมเฟด 19-20 มีนาคม รวมถึงกนง.ที่จะคงหรือขึ้นดอกเบี้ยนโยบายที่คาดว่าจะเป็นตัวบ่งชี้ว่าเม็ดเงินต่างชาติที่ดูเหมือนจะเป็นผู้ชี้ชะตาหลักในช่วงดัชนีปรับฐานว่าจะมีทิศทางกลับมาบวกหรือจะยังอยู่ในแดนลบ

*ทำให้ต้องคิดต่อไปว่าการที่ดัชนีหลุด 1,630 จุดลงไปนอนแอ้งแม้งที่ 1,625.57  จุด จะไหลยาวไปถึง 1,620 จุดหรือไม่ ? สิ่งที่ทำให้ “โมนิก้า” ต้องตั้งคำถามเช่นนี้ เป็นเพราะดัชนีพร้อมจะหลุดลงไปได้ทุกเมื่อหากมีปัจจัยลบเข้ามาสะกิด หุ้นหลายตัวที่ถูกทิ้งหุ้นออกมาหลังประกาศผลการดำเนินงานก็ยังไม่มีโอกาสได้ฟื้นตัวรอบใหม่ ซึ่งคงต้องอาศัยภาวะที่ดัชนีฟื้นตัว (จริง ๆ) อีกรอบเพื่อที่จะบิลต์อารมณ์ให้ฮึกเหิมและปรับโพสิชั่นเป็นบวก

*อย่างในรายของพี่เบิ้ม PTT ยังคงได้เห็นการบวกสวนตลาดขึ้นมาได้อย่างโดดเด่น มาปิดที่ระดับ 48.25 บาท ปรับตัวขึ้น 0.25 บาท หรือ 0.52% ด้วยมูลค่าการซื้อขายอัดแน่น 3.24 พันล้านบาท การปรับตัวขึ้นของหุ้นตัวหลักถือเป็นสิ่งที่ทำให้ทรงดัชนีไม่แย่เกินไปจากที่เป็นอยู่ เพราะหากพี่ใหญ่ใจดีทรุดลงไปกับเขาด้วย ดัชนีคงจะรูดระเนระนาดมากกว่าเดิมเป็นแน่ “โมนิก้า” ถึงยืนยันคำเดิมว่าเป้าหมายเที่ยวนี้อยู่แถว 50 บาทเจ้าค่ะ

*ส่วนในรายของ ROBINS ยังคงดำดิ่ง จนมีสิทธิ์ลงไปทดสอบโลว์เดิมที่ 55 บาท เลยทำให้น่าคิดว่าผลงานปีนี้คงไม่น่าพิสมัยสักเท่าไหร่นัก แถมกูรูหลายเจ้ายังออกมาปรับลดประมาณการกันให้วุ่น การที่ราคาทรุดลงมากองที่ระดับ 59.50 บาท ลบ 3.25 บาท หรือลบไป 5.18% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 468  ล้านบาท ถึงยังไม่มีวี่แววว่าจะกระเตื้องขึ้นมาได้อีกรอบนะซี !

*ด้าน CENTEL ทำตัวเป็นชาวสวนได้ครึ่งวัน ราคาก็กลับมาล้มคอพับคออ่อนไปอีกรอบ เพราะการฟื้นตัวภาคเช้าดูเหมือนจะเป็นเพียงการฟื้นตัวทางเทคนิคสั้น ๆ หากว่ากันในเชิงพื้นฐานแล้ว หุ้นยังไม่ได้มีปัจจัยโดดเด่น อีกทั้งรับผลงานไตรมาส 1 ของปีนี้ ส่อแววว่าจะยังซึม ๆ “โมนิก้า” ถึงไม่แปลกใจที่เห็นหุ้นโดนทิ้งท้ายตลาดมาปิดที่ระดับ 43 บาท ลบไป 0.50 บาท หรือ 1.15% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 275.28 ล้านบาท

*กรณีของ TKN ปรับตัวลดลงมาปิดที่ระดับ 10 บาท ลบไป 0.30 บาท หรือลบไป  2.91% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย  194.55 ล้านบาท การปรับตัวลดลงตลอดทั้งสัปดาห์ของหุ้นที่ผ่านมา มองเป็นโอกาสทยอยสะสมสำหรับนักเล่นระยะกลางเพื่อรอขายรอบใหญ่ในจังหวะที่หุ้นปรับตัวขึ้นอีกครั้งเมื่อภาวะเป็นใจ เพราะจากลักษณะการเคลื่อนไหวของหุ้นถ้ายังไม่หลุดแนวรับ 10 บาท ก็ยังมีโอกาสกลับขึ้นไปยอดเดิมได้ทุกเมื่อเจ้าค่ะ

*มาที่หุ้นนอกกระแสอย่าง SIAM ที่ได้เห็นราคาดีดตัวขึ้นมาโชว์อยู่ใน Most Active หลายต่อหลายครั้ง ล่าสุดราคาหุ้นขึ้นมาปิดที่ 2.34 บาท บวกไป 0.16 บาท หรือขึ้นไป 7.34% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 37.40 ล้านบาท ด้วยมูลค่าการซื้อขายที่ไม่ได้เห็นกันบ่อย ๆ หลังจากปี 2561 เทิร์นอะราวด์ได้สำเร็จ แม้ในสถานการณ์ที่หลาย ๆ บจ.ผลงานไม่เป็นที่น่าพอใจ ทำให้หุ้นมีความน่าสนใจขึ้นมาได้นะเจ้าค่ะ…อิอิ

*คล้ายกับกรณีของ SAPPE ราคาวิ่งแรงแซงทางโค้งไม่สนดัชนี ต้อนรับยุคทองไฮซีซั่นด้วยการกระชากขึ้นรวดเดียว 4 วันติด ช่วยดับร้อนให้เหล่าแฟนคลับได้เป็นอย่างดี ทุกอย่างเลยดูลงตัวแบบพอดิบพอดี สิ่งที่ยิ่งกระตุ้นให้บรรยากาศของหุ้นติดลมบนคงเป็นการขึ้นมาปิดที่ 19.50 บาท บวกไป 1 บาท หรือขึ้นไป 5.41% มูลค่าการซื้อขาย 48.32 ล้านบาท เป็นบันไดช่วยไต่เต้าสู่เป้า 22 บาทได้ไม่ยากเจ้าค่ะ

*ปิดท้ายที่หุ้น OTO ราคาหุ้นปิดส่งท้ายสัปดาห์ก่อนไม่สวยเหมือนอย่างที่เม่าวาดฝัน เพราะราคาหุ้นเปิดด้วยการทะยานขึ้นไปสูงสุดของวันที่ระดับ  3.14 บาท แต่สุดท้ายฝันก็ต้องสลาย เพราะราคาหุ้นดันรูดมาปิดต่ำสุดของวันที่ระดับ 2.74 บาท ลบ 0.08 บาท หรือลดลง 2.84% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 61.71 ล้านบาท คิดเป็นการสวิงตัวเฉียด 13% แบบนี่ไงที่เขาเรียกว่าลากไปเชือดของจริง !

 

Back to top button