ร่วงเพราะการเมือง

ลูบคมตลาดทุน : ธนะชัย ณ นคร 

วานนี้ตลาดหุ้นร่วง 20.38 จุด (ปิด 1,625.91 จุด) มาจากปัจจัยการเมืองเป็นหลัก

ส่วนปัจจัยต่างประเทศก็มีส่วนบ้าง จากความกังวลเศรษฐกิจโลกถดถอย

ทั้ง ตัวเลข PMI ภาคการผลิตของสหรัฐฯ และยุโรป ออกมาไม่ดี โดยเฉพาะของเยอรมนี และฝรั่งเศสแย่มาก ๆ

ทว่า ภาพรวมนั้น มองกันว่าตลาดฯ น่าจะยังเป็นบวกอยู่ เพราะการดำเนินนโยบายของธนาคารกลางหลายแห่งที่ผ่อนคลายทำให้ดัชนีไม่ปรับตัวลงมาก

ย้อนกลับมาที่การเมืองในประเทศ ที่กำลังชวนให้ปวดหัวกันทั้งประเทศ

ผลการเลือกตั้งที่ออกมาแบบนี้ไม่ได้อยู่นอกเหนือการคาดหมายของบรรดานักวิเคราะห์เลย

เพราะรัฐธรรมนูญเขาออกแบบมาให้ผลเป็นอย่างที่เห็นกันอยู่นั่นแหละ

ปัญหาก็คือ จะไม่มีพรรคการเมืองใดได้เสียงแบบถล่มทลายเหมือนผลเลือกตั้งหลายครั้งก่อนหน้านี้ จนจัดตั้งรัฐบาลได้

พรรคที่ได้รับคะแนนมาเป็นอันดับ 1 จึงต้องไปหาแนวร่วมพรรคเล็กมา

แน่นอนว่า กว่าจะต่อรองกันได้ คาดว่าจะใช้เวลาอีกสักระยะ

ปัญหาคือ อะไรก็ตามที่มันยังไม่มีความชัดเจน นักลงทุนจะไม่ชอบ โดยเฉพาะนักลงทุนในตลาดหุ้น ทำให้พวกเขาต้องขายหุ้น ปรับพอร์ตลดความเสี่ยงกันไปก่อน

อย่างเมื่อวานนี้เปิดตลาดมา นักลงทุนชิงขายหุ้นกันก่อนเลย

ก่อนที่จะมีแรงซื้อกลับ ทำให้ดัชนียังทรงตัวอยู่บริเวณ 1,630 จุด เพราะรอผลคะแนนจาก กกต. ตอนบ่าย 2 โมง

แต่พอบ่าย 2 ผลยังไม่ได้ออกมาเป็นทางการ และกกต. บอกว่า ให้รอบ่าย 4 โมง

เพียงเท่านี้แหละ หุ้นดิ่งหนักลงไปอีก ก่อนจะเด้งกลับมาได้เล็กน้อย

ความอึมครึมเช่นนี้ ไม่มีใครบอกได้ว่า จะกินเวลามากน้อยแค่ไหน

เพราะสถานการณ์การเมืองแบบนี้ต่างจากหลาย ๆ ครั้งก่อนหน้านี้จริง ๆ

ขณะที่นักลงทุนเอง ก็เฝ้ารอดูหน้าตารัฐบาลใหม่ และนโยบายต่าง ๆ ว่าจะออกมาอย่างไร เพื่อตัดสินใจให้ถูกต้อง

นักลงทุนต่างชาติ ที่ว่ากันว่า จะเข้ามาหลังจากการเลือกตั้งแล้วเสร็จ ก็ยังไม่แน่นอน เพราะยังไม่รู้ว่าเสถียรภาพของรัฐบาลจะเป็นอย่างไร อยู่ได้นานแค่ไหน

หรือว่าจะมีอะไรวุ่น ๆ ฝุ่นตลบตามมาหรือไม่

ทว่า แม้ภาวะตลาดหุ้นจะไม่ค่อยดีจากปัจจัยลบในประเทศ

นักวิเคราะห์ต่างยังมองว่า ตลาดหุ้นมีโอกาสรีบาวด์ได้

แต่ก็คงไปได้ไม่ไกลมาก

ส่วนแนวรับบริเวณ 1,600 จุด น่าจะรับอยู่

ส่วนหุ้นที่เกี่ยวกับโครงสร้างพื้นฐาน อาจจะยังต้องชะลอการลงทุนออกไปก่อน เพราะหากได้รัฐบาลหน้าตาใหม่ แล้วไม่สานต่อโครงการเก่า

หุ้นที่เกี่ยวกับโครงการต่าง ๆ เหล่านี้อาจจะได้รับผลกระทบ

แม้สถานการณ์ทางการเมืองที่ออกมาแบบนี้ ไม่ได้อยู่นอกเหนือความคาดหมายมากนัก

และตลาดหุ้นก็ดูเหมือนจะคาดเดาไว้แล้ว

พอมาเจอสถานการณ์จริง ๆ บางครั้งก็ไปกันไม่ถูก ตัดสินใจกันไม่ได้ ความมั่นใจหาย

ล่าสุด เย็นวานนี้ “ภากร ปีตธวัชชัย” กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์ฯ ต้องออกมาย้ำถึงเศรษฐกิจไทย และความเข้มแข็งของ บจ. ว่ายังมีศักยภาพการเติบโตที่ดี

ส่วนนักวิเคราะห์แนะนำเพิ่มว่า เลือกเล่นหุ้นเป็นรายตัว ที่มีปัจจัยบวกเฉพาะตัว

น่าจะเป็นหนทางปลอดภัยสุด