“เครดิตสวิส” มองดัชนีฟื้นตัวระยะสั้น เคาะ 7 หุ้นเด่น-พื้นฐานแน่นพ่วงอานิสงค์เลือกตั้ง

“เครดิตสวิส” มองดัชนีฟื้นตัวระยะสั้น เคาะ 7 หุ้นเด่น-พื้นฐานแน่นพ่วงอานิสงค์เลือกตั้ง


บริษัทหลักทรัพย์ เครดิต สวิส จำกัด ระบุในบทวิเคราะห์ ประเมินสถานการณ์หลังการเลือกตั้งเมื่อวันที่ 24 มีนาคม 2562 โดยระบุว่า พรรคพลังประชารัฐได้รับคะแนนเสียงดีกว่าที่คาด ถึงแม้จะได้จำนวนที่นั่งของ ส.ส. น้อยกว่าพรรคเพื่อไทยก็ตาม ด้านพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ก็มีโอกาสที่จะได้กลับเข้ามาทำงานเป็นนายกรัฐมนตรีอีกครั้งจากการโหวตของ ส.ว. อีก 250 เสียง ที่จะนำมาคำนวณกับเสียงจาก ส.ส. ในการเลือกนายกรัฐมนตรี ซึ่งมีความเป็นไปได้ว่าทั้ง 250 เสียงนั้นจะลงชื่อสนับสนุนพลเอกประยุทธ์

อย่างไรก็ตาม แม้ว่า ส.ว. ที่เลือกมานั้นจะส่ง พลเอกประยุทธ์ กลับเข้าตำแหน่งเดิมได้ แต่ก็ต้องพยายามหาเสียงข้างมากในสภาผู้แทนราษฎรด้วยเช่นกัน ดังนั้นจึงต้องร่วมมือกับพรรคเล็กเพื่อให้ได้มาซึ่งเสียงในสภาล่าง มิเช่นนั้นอาจเผชิญกับการโหวตอภิปรายไม่ไว้วางใจได้ โดยคาดว่าการโหวตชื่อนายกรัฐมนตรีนั้นจะมีขึ้นหลังพระราชพิธีบรมราชาภิเษกของสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร ที่จะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 4-6 พ.ค.2562 ซึ่งจะอยู่ในกรอบระยะเวลา 60 วันหลังเลือกตั้งตามกฎหมายกำหนด

ส่วนของเรื่องนโยบายจากพรรคการเมืองนั้น หากพรรคพลังประชารัฐได้จัดตั้งรัฐบาลอีกสมัยหนึ่ง ตามนโยบายแล้วจะให้ความสำคัญกับเรื่องการขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ ปรับเพิ่มเงินเดือนขั้นต่ำของนิสิต/นักศึกษาจบใหม่ เงินอุดหนุนเกษตรกร และการปรับลดภาษีบุคคลธรรมดา 10% โดยนโยบายทั้งหลายเหล่านี้จะช่วยเพิ่มการบริโภคของประชาชน และในทางกลับกันจะทำให้มีการขาดดุลงบประมาณมากขึ้นด้วยเช่นกัน

ทั้งนี้ ตลาดหุ้นไทยมีแนวโน้มที่จะฟื้นตัวในช่วงระยะเวลาสั้นๆ หลังจากการเลือกตั้ง ซึ่งเป็นผลจากแรงผลักดันจากความคาดหวังว่าจะได้รัฐบาลเดิมดำรงตำแหน่ง ทำให้มีความต่อเนื่องของการดำเนินงาน แต่ว่าในเรื่องของปัจจัยพื้นฐานของประเทศไทยนั้นยังไม่มีอะไรที่น่าสนใจ หรือเป็นตัวกระตุ้น

อย่างไรก็ตามค่า P/E ของตลาดหุ้นไทยนั้นยังยืนอยู่เหนือตัวเลขในอดีตที่ผ่านมา และยังมีมูลค่าส่วนเกินอยู่ที่ 10% ของตลาดเพื่อนบ้าน ในขณะที่ผลการเลือกตั้งอาจส่งผลในเชิงบวกต่อนักลงทุน ทางด้าน นายกรัฐมนตรี ซึ่งคาดว่าน่าจะเป็น พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นั้นจะต้องบริษัทงานด้วยรัฐบาลที่มีเสถียรภาพน้อยกว่าชุดที่เคยมี จากการวิเคราะห์แล้ว การฟื้นตัวของตลาดหุ้นนั้นจะเป็นเพียงระยะสั้นๆ กินเวลาไม่กี่อาทิตย์ และหลังจากนั้นจะหยุดชะงักลง

ทั้งนี้ เครดิตสวิส จึงแนะนำหุ้นที่เป็นปัจจัยพื้นฐานด้านการบริโภคเป็นหลัก เช่น CPALL, หุ้นอสังหาริมทรัพย์ เช่น LH และ SPALI, หุ้นที่ปล่อยกู้ เช่น SAWAD, MTC, TISCO และ SCB ในส่วนของหุ้นกลุ่มก่อสร้างก็จะยังได้แรงบวกในระยะสั้นจากการคาดการณ์ว่านโยบายจากรัฐบาลชุดที่แล้ว จะสานต่อมายังรัฐบาลชุดใหม่ ซึ่งจะเป็นผลดีต่อระบบโครงสร้างพื้นฐานของประเทศ แต่ทาง เครดิต สวิส มองว่าหากราคาหุ้นในกลุ่มก่อสร้างนี้มีการปรับขึ้นมาในระดับหนึ่งแล้ว ควรที่จะขายออกเพื่อป้องกันเหตุต่างๆ จากการดำเนินงาน

Back to top button