ฝุ่น-หมอกควัน “ภาคเหนือ” วิกฤตหนัก! ยกเลิกแล้ว 40 เที่ยวบิน จับตาสงกรานต์ส่อวุ่นหนัก

ฝุ่น-หมอกควัน “ภาคเหนือ” วิกฤตหนัก! ยกเลิกแล้ว 40 เที่ยวบิน จับตาสงกรานต์ส่อวุ่นหนัก


นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า สถานการณ์หมอกควันและฝุ่นละอองในพื้นที่จังหวัดภาคเหนือนั้น ได้ส่งผลกระทบต่อการบินโดยเฉพาะสนามบินแม่ฮ่องสอนที่กระทบมากที่สุด ช่วงระหว่างวันที่ 23 ก.พ. – 2 เม.ย. 2562 มีการยกเลิกเที่ยวบินจำนวน 40 เที่ยวบิน จากปริมาณเที่ยวบินทั้งหมดในช่วงดังกล่าว 200 เที่ยวบิน หรือคิดเป็น 20% โดยสนามบินแม่ฮ่องสอนมี 3 สายการบินทำการบิน ได้แก่ สายการบินบางกอกแอร์แอร์เวย์ส มี 72 เที่ยวบิน ยกเลิก 28 เที่ยวบิน ล่าช้า 1 เที่ยวบิน, นกแอร์ มี 21 เที่ยวบิน ยกเลิก 3 เที่ยวบิน, วิสดอม แอร์เวย์ (RPS) มี 98 เที่ยวบิน ยกเลิก 9 เที่ยวบิน ล่าช้า 4 เที่ยวบิน

ทั้งนี้ ภาพรวมถือว่ายังกระทบในระดับที่ไม่มากนัก เนื่องจากที่ตั้งของสนามบินแม่ฮ่องสอนโดยปกติจะมีปัญหาหมอกอยู่แล้ว ประกอบกับช่วงนี้มีปัญหาหมอกควันเพิ่มเข้ามา ซึ่งตามค่ามาตรฐานความปลอดภัยทางการบินสนามบินแม่ฮ่องสอน กำหนดทัศนวิสัยในด้านการบินที่ระยะ 5 กม. ขณะที่สนามบินเชียงใหม่ และสนามบินเชียงราย กำหนดทัศนวิสัยการบินที่ระยะ 896 เมตร มีเครื่องช่วยเดินอากาศที่สมบูรณ์ทำให้ผลกระทบต่อเที่ยวบินน้อยกว่า โดยจะมีเที่ยวบินล่าช้า 10-15 นาที และมีการ Divert ในบางเที่ยวบิน

นาวาอากาศโท สุธีรวัฒน์ สุวรรณวัฒน์ ผู้อำนวยการท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทอท. กล่าวว่า ปัญหาหมอกควันในภาคเหนือส่งผลกระทบต่อเที่ยวบินที่ทำการบินจากสนามบินสุวรรณภูมิไปยังสนามบินเชียงใหม่ และแม่ฮ่องสอนพอสมควร โดยคิดเป็นจำนวนนักท่องเที่ยวที่ลดลงในช่วงนี้ประมาณ วันละ10,000 คน เมื่อเทียบกับช่วงก่อนหน้านี้

โดยเปรียบเทียบกับช่วงปีใหม่ 2562 สนามบินสุวรรณภูมิมีผู้โดยสาร 203,000 คนต่อวัน เดือน ก.พ.มีผู้โดยสาร 197,000 ส่วนเดือน มี.ค.ต่อเนื่อง เม.ย. ผู้โดยสารบางวันเหลือ 170,000 คนต่อวัน และประเมินวันช่วงสงกรานต์จะมีผู้โดยสารเฉลี่ย 195,000 คนต่อวัน โดยส่วนใหญ่เป็นการลดลงของผู้โดยสารที่เดินทางขึ้นไปยังภาคเหนือ

ด้านนางเนตรนภางค์ ธีระวาส ประธานเจ้าหน้าที่สายการบริการลูกค้า สายการบินไทยสมายล์ กล่าวว่า ในส่วนเที่ยวบินของการบินไทยและไทยสมายล์ ที่มีเส้นทางไปยังสนามบินเชียงใหม่ เชียงราย ยังไม่มีการยกเลิกเที่ยวบิน สามารถทำการบินตามตารางบินปกติ โดยก่อนทำการบินจะมีการตรวจสอบสภาพอากาศปลายทางก่อน และหากมีปัญหาหมอกควันที่กระทบต่อการขึ้นลงจะมีแผนความปลอดภัยการบินที่ต้องปฏิบัติตามขั้นตอนที่เป็นมาตรฐาน เช่น การเปลี่ยนจุดบินหรือปรับเวลา

อย่างไรก็ตาม ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ ระหว่างวันที่ 11-17 เม.ย. 2562 ไทยสมายล์ได้เพิ่มเที่ยวบิน รวม 20 เที่ยวบิน จากกรุงเทพฯ ไปยังอุบลราชธานี อุดรธานี และขอนแก่น และเชียงใหม่ และเชียงราย

ล่าสุด พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคสช. ให้สัมภาษณ์ที่จังหวัดเชียงใหม่ ภายหลังเป็นประธานการประชุมติดตามสถานการณ์การจัดการและแก้ไขปัญหาหมอกควัน และไฟป่าในพื้นที่ภาคเหนือว่า การแก้ไขปัญหาเหล่านี้ไม่ใช่แค่ 7 วันจะแก้เสร็จทั้งหมด เพราะมีหลายปัญหาทับซ้อนกัน แต่ตนได้สั่งการให้เห็นผล 7 วัน ในเรื่องการลดฮอตสปอตหรือจุดความร้อน นี่เป็นการแก้ไขปัญหาระยะสั้น ทันที เร่งด่วน

“ท่านอย่าใจร้อน นี่คือการแก้ปัญหาระยะแรก แต่ในระยะยาวต้องมีการปลูกจิตสำนึก สร้างความจูงใจด้านเกษตรกรรม การปรับเปลี่ยนการปลูกพืช การปรับพฤติกรรมการกิน ทั้งหมดต้องใช้เวลา เพราะคนเรามหาศาลเป็นสิบๆล้านคน ทำอะไรก็ตามมีผลกระทบทั้งสิ้น รัฐบาลไม่ต้องการให้เกิดความสับสนอลหม่าน วุ่นวายตรงนี้ รัฐบาลต้องเอาแต่ละปัญหามาแก้ มาเคลียร์ ปัญหาในเชิงซ้อนไปแก้ระยะปานกลาง ระยะยาว ทั้งหมดถึงต้องมีแผนแม่บท แผนยุทธศาสตร์ชาติ มันทำตามใจอะไรมากไม่ได้ กฎหมายมีทุกตัว การใช้เงินและงบประมาณมีกฎหมายหมด” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว

นายกฯ กล่าวอีกว่า วันนี้สิ่งที่ตนย้ำใน 7 วัน ต้องแก้ปัญหาจุดที่เผาไหม้ ที่มีการจุดเผาวัชพืชบ้าง การจุดเพื่อหาสัตว์ป่าบ้าง เราจึงแบ่งออกเป็น 3 พื้นที่คือ 1.พื้นที่เขตเมืองจะทำอย่างไรในเรื่องสุขภาพของประชาชน 2.พื้นที่ทำกิน ซึ่งมีทั้งพื้นที่ถูกกฎหมายและผิดกฎหมายที่มีการบุกรุก และ3.พื้นที่ป่าภูเขา ซึ่งมีความสูงไม่เหมือนกับภาคอื่นๆ บางครั้งมีการเผาบนยอดเขา ขึ้นเครื่องบินเราเห็นหมด ตนเห็นแบบนี้มาหลายปีแล้ว ดังนั้นเราต้องแก้ด้วยจิตสำนึก ทุกคนจะต้องไม่เผาป่า วันนี้ก็มีรายงานว่า มีการจุดธูปในป่าด้วย จุดเพื่อไหวหรือเพื่ออะไรก็ไม่รู้

อย่างไรก็ตามเรื่องของงบประมาณเรามีความพร้อม ขอให้เสนอขึ้นมา มีงบประมาณของกระทรวงต่างๆ งบท้องถิ่น งบกลาง เงินสนับสนุนผู้ว่าฯ มีอยู่ทุกอัน ใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุดแล้วกัน ขอให้ทุกคนช่วยกันดูแล ไม่ใช่การทำร้ายประชาชน เดี๋ยวจะหาว่าทหารไปทำร้ายประชาชนอีก สื่อก็เขียนกันแบบนี้ทุกที พอทหารไปสื่อก็เขียนว่าใช้เผด็จการต่างๆ ฉันว่าฉันทำดีที่สุดแล้ว

ทั้งนี้ เมื่อถามว่าการลงพื้นที่มาครั้งนี้ เนื่องจากยังไม่พอใจการดำเนินการแก้ไขปัญหาใช่หรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า มันยังไม่อยู่ในอันดับที่พอใจ ยังมีจุดความร้อนมากขึ้นก็เท่านั้น แต่วันนี้การจุดไฟก็ลดลง ต้องแก้ปัญหาที่คน เราก็พยายามหาที่อยู่ที่กินให้เขา แต่เขาก็ไม่อยากออกมา นั่นคือปัญหา ในส่วนการทำงานของเจ้าหน้าที่ก็ต้องปรับปรุงประสิทธิภาพให้มากขึ้น และขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดูแลทั้งเด็กและผู้สูงอายุ ซึ่งมีความอ่อนไหว ซึ่งขณะนี้การแจกจ่ายหน้ากากอนามัยให้กับประชาชนไปแล้ว 1.7 ล้านชิ้น.

Back to top button