ส่อง 4 หุ้นพร้อมเด้งรับคลังกระตุ้นท่องเที่ยว-พร้อมโผ 4 หุ้นเด่นผลงานไตรมาส 1 ปัง!

ส่อง 4 หุ้นพร้อมเด้งรับคลังกระตุ้นท่องเที่ยว-พร้อมโผ 4 หุ้นเด่นผลงานไตรมาส 1 ปัง!


“ข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์” ได้ทำการสำรวจและรวบรวมข้อมูลบทวิเคราะห์ที่เกี่ยวกับหุ้นในกลุ่มโรงแรม และค้าปลีกที่คาดว่าจะได้รับปัจจัยบวกจากการที่รัฐบาลได้ออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ คือภาคการท่องเที่ยว และการบริโภค

โดย บริษัทหลักทรัพย์เอเซีย พลัส ระบุในบทวิเคราะห์ (24 เม.ย.62) เศรษฐกิจไทยปี 2562 ส่งสัญญาณชะลอตัวจากภาคการค้าต่างประเทศที่ได้รับผลกระทบของสงครามการค้า เห็นได้จากยอดส่งออกเฉลี่ยไตรมาส 1/62 หดตัว 1.6%และประเด็นการเมืองที่ยังไม่มีความชัดเจนกระทบต่อความเชื่อมั่นจากการลงทุนเอกชนและการบริโภคครัวเรือน ทำให้ล่าสุด กระทรวงการคลังเตรียมออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในช่วงไตรมาส 2/62 คาดจะเสนอ ครม. ในวันอังคารหน้า 30 เม.ย.

สำหรับรายละเอียดความชัดเจนมากขึ้นกว่าเดิม คือ มุ่งไปที่ภาคการท่องเที่ยวและภาคการบริโภค ขณะที่มาตรการกระตุ้นอสังหาฯ  ล่าสุดมีความชัดเจนน้อยที่สุด  รายละเอียดแต่ละมาตรการดังนี้

– มาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยว ผ่านการนำค่าใช้จ่ายในการท่องเที่ยวทั่วประเทศมาลดหย่อนภาษีได้ไม่เกิน 1.5 หมื่นบาท  และอัดฉีดเงินผ่านระบบ E-payment หรือ Prompt pay ให้กับผู้มีรายได้น้อยที่อายุ 18 ปีขึ้นไปราว 10 ล้านคนทั่วประเทศ  1.5 พันบาทต่อคน วงเงินรวมราว 1.5 หมื่นล้านบาท เพื่อนำไปท่องเที่ยวเมืองรอง 55 จังหวัด คาดกลุ่มท่องเที่ยว-โรงแรมจะได้ Sentiment บวก โดยเฉพาะ ERW(FV@B9) ได้ประโยชน์มากที่สุด เพราะมีเครือโรงแรมกระจายอยู่ต่างจังหวัดมากที่สุด

– มาตรการกระตุ้นการบริโภค คือ เพิ่มเงินในบัตรสวัสดิการผู้มีรายได้น้อย คือ  เพิ่มเงิน 500 บาท/คนให้กับผู้ปกครองของนักเรียนตั้งแต่ชั้นอนุบาล-มัธยมราว 4 ล้านคนทั่วประเทศ เพื่อนำไปซื้อสินค้าอุปกรณ์การศึกษา,อุปกรณ์กีฬา เป็นต้น  และเพิ่มเงินอีก 200 บาท/คนให้กับผู้พิการ (จากปัจจุบันผู้ถือบัตรสวัสดิการจะได้เงินอยู่แล้วราว 300-500 บาท/เดือน (ระยะเวลา 1 ม.ค. 2561 – 30 ก.ย. 2562) เพื่อนำไปซื้อสินค้าอุปโภคบริโภคที่ร้านธงฟ้า) โดยรวมเชื่อว่าดีต่อหุ้นกลุ่มค้าปลีก ROBINS(FV@B70),  BJC(FV@B61) โดยเลือก ROBINS(FV@B70) เป็น Top Pick เพราะมี PER62F ต่ำสุดในกลุ่มฯ เพียง 20.4 เท่า  และยังได้ Sentiment เชิงบวกจากมาตรการดังกล่าว นอกจากนี้สภาพอากาศที่แปรปรวน ทั้งฝุ่น PM2.5 และอากาศที่ร้อนผิดปกติ หนุนยอดขายเครื่องฟอกอากาศ, แอร์, พัดลม เพิ่มขึ้น ดีต่อ Power Buy ที่สร้างกำไรให้ ROBINS ราว 5% ต่อปี

 

ส่องหุ้นงบดีงวดไตรมาส 1/62 ยามตลาดซึมๆ

ตลาดหุ้นไทยยังดูซึมๆ และขาดยังไม่มีปัจจัยต่างประเทศใหม่หนุน ขณะที่ในประเทศมีความคลุมเครือทางด้านการเมือง รวมถึงตั้งแต่ต้นปี 2562 SET Index เดินหน้าปรับตัวเพิ่มขึ้น มาแล้วกว่า 6.87% (ytd) และยังติดแนวต้าน 1680 จุด ดังนั้นการลงทุนต้องพิถีพิถันในการคัดเลือกมากขึ้น ซึ่งหนึ่งในกลยุทธ์ที่น่าสนใจ คือ เลือกลงทุนในหุ้นพื้นฐานแข็งแกร่ง ที่ผลประกอบการ เติบโตได้ดีในงวดไตรมาส 1/62

ทั้งนี้ เอเซียพลัส จึงทำการศึกษา คัดกรองหุ้นที่คาดว่าจะมีการเติบโตในงวดงวดไตรมาส 1/62 โดยมีทั้งการเติบโตแบบ จากปีก่อน และจากไตรมาสก่อน

วันนี้นำเสนอ 4 บริษัทที่เติบโตได้ดีในงวด งวดไตรมาส 1/62  มีรายละเอียดพื้นฐานดังนี้

CPALL(FV@B80) คาดกำไรงวด 1Q62 เติบโต 2.8% จากไตรมาสก่อน และ 5.4% จากปีก่อน อยู่ที่ 5.7 พันล้านบาท หนุนจากธุรกิจในประเทศ ทั้งร้านสะดวกซื้อคาด การเติบโตยอดขายสาขาเดิม (SSSG) ที่ 3% ในไตรมาส 1/62 บวกกับการขยายสาขาราว 705 แห่ง (+7.5% yoy) และ MAKRO ในประเทศที่เติบโตดีขึ้น หนุนยอดขายรวมเติบโต 7.9% แต่หักล้างบางส่วนจาก SG&A/Sales ที่สูงขึ้น จากการเปิดสาขา MAKRO ในต่างประเทศ 2 แห่ง ขณะที่ในงวดไตรมาส 2/62 คาดอากาศร้อน จะหนุนยอดขายสินค้าเครื่องดื่ม (คิดเป็นราว 18% ของยอดขาย CPALL) และหนุน SSSG เติบโตเด่นขึ้น อย่างไรก็ตามราคาหุ้นใกล้เต็มมูลค่าแล้ว จึงยังคงแนะนำ Switch แต่ในช่วงสั้นอาจได้กระแสจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ

MTC (FV@B57)คาดกำไรสุทธิงวดไตรมาส 1/62 ทำ New high ได้อีกไตรมาส เท่ากับ 1.04 พันล้านบาท  เติบโต3.9% จากไตรมาสก่อน และ 24.8% จากปีก่อน หนุนจากการเติบโตของสินเชื่อสุทธิด้วยแรงส่งของสินเชื่อจากสาขาที่ทยอยเปิดเพิ่มเติมในช่วงที่ผ่านมา ในส่วนของ spread คาดลดลงเล็กน้อยจากไตรมาส 4/61 ผลกระทบจากต้นทุนดอกเบี้ยจ่ายที่ยังเร่งตัวขึ้นจากการออกหุ้นกู้ใหม่ๆ เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ด้านคุณภาพสินทรัพย์ไม่ได้มีประเด็นที่น่ากังวล แม้เห็น NPL เพิ่มขึ้นบ้าง มาอยู่ที่ 1.15% จาก 1.12% ของสินเชื่อรวม ณ สิ้น ไตรมาส 4/61 แต่เป็นปกติ หลังพ้นช่วงฤดูกาลตัดหนี้สูญ/ขายหนี้ จึงยังคงคำแนะนำซื้อ

TPIPP ([email protected]) คาดกำไรสุทธิงวดงวดไตรมาส 1/62 เท่ากับ 1.2 พันล้านบาท ปรับตัวเพิ่มขึ้น 24.4% จากไตรมาสก่อน (และ 60.8% จากปีก่อน) หนุนจากโรงไฟฟ้า TG8 เริ่มผลิตเชิงพาณิชย์ ถึงแม้โรง TG7 และ boiler B2 ของ TG5 ปิดซ่อม แต่โดยรวมปริมาณไฟฟ้าที่ผลิตได้ยังสูง 22% จากไตรมาสก่อนมาอยู่ที่ 478.9 ล้านหน่วย นอกจากนี้ยังมีปัจจัยบวกจาก SG&A ที่คาดจะลดลงสู่ระดับปกติ ส่วนไตรมาส 2/62 จะเติบโตได้ต่อเนื่องจากไตรมาสก่อนจากการกลับมาเดินเครื่องของโรง TG7 และ boiler B2 ของ TG5 คาดทิศทางกำไรจะทำ New High ต่อในปี 2562 และยังคาดหวังจะได้โรงไฟฟ้าขยะใหม่ๆเข้ามาในอนาคต จึงยังคงแนะนำซื้อ

EASTW ([email protected]) คาดกำไรสุทธิงวดงวดไตรมาส 1/62  เท่ากับ 357.7 ล้านบาท เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยฯ ถึง 51.3% จากไตรมาสก่อน (และ 18.3% จากปีก่อน) หนุนจากภัยแล้งเอลนีโญ ทำให้ลูกค้าซื้อน้ำดิบเพิ่มขึ้น นอกจากนี้ ยังได้รับผลบวกจาก SG&A ที่ลดลงตามฤดูกาล โดยรวมแล้วคาดกำไรสุทธิงวดไตรมาส 1/62 เท่ากับ 357.7 ล้านบาท คิดเป็น 30.7% ของประมาณการปี 2562 ที่ประเมินไว้ ขณะที่ไตรมาส 2/62 คาดกำไรยังเติบโตได้ต่อเนื่องจากไตรมาสก่อนจากผลของฤดูร้อน ส่วนภาพระยะยาวมีปัจจัยบวกจากโครงการ EEC และการเปลี่ยนสูตรคิดราคาขายน้ำดิบ จึงยังคงแนะนำซื้อ

Back to top button