“ศรีสุวรรณ” เตรียมเปิดหลักฐานใหม่! มัด “ธนาธร” ปมถือหุ้นสื่อ 7 พ.ค.นี้

"ศรีสุวรรณ" เตรียมเปิดหลักฐานใหม่! มัด "ธนาธร" ปมถือหุ้นสื่อ 7 พ.ค.นี้


วันนี้(3 พ.ค. 62) นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย เผยพบหลักฐานใหม่ปมการถือหุ้นสื่อของนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ โดยขณะนี้อยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐาน ซึ่งคาดว่าจะสามารถยื่นเรื่องให้คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.)ตรวจสอบได้หลังวันที่ 7 พ.ค.นี้ และมั่นใจจะเอาผิดได้ 100%

“หลังวันที่ 7 พ.ค.นี้จะมีอะไรมันๆ ดีๆ เกี่ยวกับนายธนาธรอีก ประเภทช็อคไปเลย บอกแล้วว่าอย่ามาทะเลาะกับศรีสุวรรณ” นายศรีสุวรรณ กล่าว

นายศรีสุวรรณ กล่าวว่า สำหรับวันนี้ตนเองได้มายื่นเอกสารหลักฐานเพิ่มเติมเป็นครั้งที่ 5 กรณีคำร้องตรวจสอบการถือหุ้นบริษัท วี-ลัค มีเดีย จำกัด ของนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ หลังฟังการชี้แจงของนายธนาธรผ่านสื่อแล้วยังมีข้อสงสัยเรื่องการนำเช็คธนาคารเข้าบัญชีที่อาจเป็นการจงใจหลีกเลี่ยงการทำนิติกรรมการโอนหุ้นหรือไม่

“ผมตั้งประเด็นเสนอให้ กกต.ตรวจสอบเพื่อแสวงหาข้อเท็จจริงว่าเป็นการหลีกเลี่ยงนิติกรรมการโอนหุ้นหรือไม่ หากหลักฐานที่ผมนำเสนอไม่มีน้ำหนักเพียงพอก็ยกคำร้องได้ แต่ที่มายื่นเพิ่มเติมนั้นเพื่อต้องการให้เนื้อหาครบถ้วนสมบูรณ์” นายศรีสุวรรณ กล่าว

ส่วนกรณีมีรายงานข่าวว่า กกต.จะมีการประกาศรับรองผลนายธนาธรไปก่อนนั้น นายศรีสุวรรณ กล่าวว่า กรณีดังกล่าวเป็นสิทธิของ กกต.ที่จะดำเนินการได้ตามกฎหมาย ซึ่งหากตรวจสอบพบการกระทำผิดภายหลังการประกาศผลไปแล้วก็สามารถร้องศาลรัฐธรรมนูญได้ ซึ่งเรื่องนี้ยังมีเวลาที่จะดำเนินการได้อีกนานเป็นปี

สำหรับกรณีนายคารม พลพรกลาง ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคอนาคตใหม่ และพวก แจ้งความดำเนินคดีในข้อหายื่นคำร้องเท็จต่อพนักงานสอบสวน สน.ทุ่งสองห้องนั้น นายศรีสุวรรณ กล่าวว่า เป็นสิทธิที่สามารถทำได้ ซึ่งตนเองก็จะรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อนำไปชี้แจงต่อพนักงานสอบสวน แต่หากอัยการมีความเห็นว่าสั่งไม่ฟ้อง ตนเองก็จะฟ้องกลับตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 172 และมาตรา 174 เอาผิดผู้ไปแจ้งความ

“คนที่เป็นนักการเมืองจะต้องพร้อมได้รับการตรวจสอบ โดยเฉพาะคนที่อ้างว่าเป็นฝั่งประชาธิปไตย ถ้ากลัวการตรวจสอบจะมั่นใจได้อย่างไรว่าจะทำหน้าที่โปร่งใส และสามารถทำหน้าที่เป็นปากเป็นเสียงแทนประชาชนตามที่เขาโฆษณาไว้” นายศรีสุวรรณ กล่าว

 

Back to top button