สรุปภาวะตลาดต่างประเทศ ประจำวันที่ 7 พ.ค.62

สรุปภาวะตลาดต่างประเทศ ประจำวันที่ 7 พ.ค.62


ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (7 พ.ค.) เนื่องจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับผลกระทบของสงครามการค้า หลังจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์แห่งสหรัฐ ขู่ว่าจะปรับขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าจากจีน โดยความกังวลในเรื่องดังกล่าวได้ฉุดหุ้นกลุ่มอุตสาหกรรมร่วงลง รวมถึงหุ้นบริษัทโบอิ้งและแคทเธอร์พิลลาร์ซึ่งมีการลงทุนจำนวนมากในต่างประเทศ

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 25,965.09 จุด ร่วงลง 473.39 จุด หรือ -1.79% ขณะที่ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 7,963.76 จุด ลดลง 159.53 จุด หรือ -1.96% และดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,884.05 จุด ลดลง 48.42 จุด หรือ -1.65%

ตลาดหุ้นยุโรปปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (7 พ.ค.) โดยถูกกดดันจากความวิตกเกี่ยวกับความขัดแย้งทางการค้าระหว่างสหรัฐและจีน หลังจากที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ขู่ขึ้นภาษีสินค้านำเข้าจากจีน

ดัชนี Stoxx Europe 600 ร่วง 1.37% ปิดที่ 381.64 จุด

ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 5,395.75 จุด ลดลง 87.76 จุด หรือ -1.60% และ ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 12,092.74 จุด ลดลง 194.14 จุด หรือ -1.58% ส่วนดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,260.47 จุด ลดลง 120.17 จุด หรือ -1.63%

ตลาดหุ้นลอนดอนปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (7 พ.ค.) โดยถูกกดดันจากหุ้นกลุ่มธนาคารที่ร่วงลงจากความวิตกเกี่ยวกับความขัดแย้งทางการค้าระหว่างสหรัฐและจีน หลังจากที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ขู่ขึ้นภาษีสินค้าจีน

ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,260.47 จุด ร่วงลง 120.17 จุด หรือ -1.63%

สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวกติดต่อกันเป็นวันที่ 3 เมื่อคืนนี้ (7 พ.ค.) เนื่องจากนักลงทุนเข้าซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ที่ปลอดภัย หลังจากตลาดหุ้นสหรัฐและตลาดหุ้นทั่วโลกร่วงลงอย่างหนัก ท่ามกลางความวิตกกังวลเกี่ยวกับผลกระทบของสงครามการค้าระหว่างสหรัฐและจีน

สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนมิ.ย. เพิ่มขึ้น 1.80 ดอลลาร์ หรือ 0.1% ปิดที่ 1,285.60 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนก.ค. ลดลง 0.1 เซนต์ ปิดที่ 14.926 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนก.ค. ลดลง 7.5 ดอลลาร์ หรือ 0.9% ปิดที่ 873.4 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนมิ.ย. ลดลง 4.70 ดอลลาร์ หรือ 0.4% ปิดที่ 1323.40 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดปรับตัวลงเมื่อคืนนี้ (7 พ.ค.) เนื่องจากนักลงทุนกังวลว่า การทำสงครามการค้าระหว่างสหรัฐและจีนจะส่งผลกระทบต่อการขยายตัวของเศรษฐกิจโลก และทำให้ความต้องการใช้น้ำมันลดน้อยลงด้วย ขณะที่นักลงทุนจับตาการเปิดเผยสต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐในวันนี้

สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนมิ.ย. ลดลง 85 เซนต์ หรือ 1.4% ปิดที่ 61.40 ดอลลาร์/บาร์เรล

สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนก.ค. ร่วงลง 1.36 ดอลลาร์ หรือ 1.9% ปิดที่ 69.88 ดอลลาร์/บาร์เรล

ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (7 พ.ค.) โดยได้แรงหนุนจากข้อมูลของกระทรวงแรงงานสหรัฐซึ่งระบุว่า ตัวเลขการเปิดรับสมัครงานพุ่งขึ้นในเดือนมี.ค. ขณะที่ดอลลาร์ออสเตรเลียแข็งค่าขึ้นหลังจากธนาคารกลางออสเตรเลีย (RBA) มีมติคงอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเมื่อวานนี้ สวนทางกับที่ตลาดคาดว่าธนาคารกลางจะปรับลดดอกเบี้ยลง

ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ 1.0195 ฟรังก์ จากระดับ 1.0175 ฟรังก์ และแข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์แคนาดา ที่ระดับ 1.3480 ดอลลาร์แคนาดา จากระดับ 1.3437 ดอลลาร์แคนาดา แต่ดอลลาร์อ่อนค่าเมื่อเทียบกับเงินเยน ที่ระดับ 110.26 เยน จากระดับ 110.92 เยน

ยูโรอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.1183 ดอลลาร์ จากระดับ 1.1203 ดอลลาร์ ขณะที่เงินปอนด์อ่อนค่าลงแตะที่ระดับ 1.3063 ดอลลาร์ จากระดับ 1.3098 ดอลลาร์ ส่วนดอลลาร์ออสเตรเลียแข็งค่าขึ้นสู่ระดับ 0.7004 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.6999 ดอลลาร์สหรัฐ

Back to top button