สรุปภาวะตลาดต่างประเทศ ประจำวันที่ 8 พ.ค.62

สรุปภาวะตลาดต่างประเทศ ประจำวันที่ 8 พ.ค.62


ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดขยับขึ้นเล็กน้อยเมื่อคืนนี้ (8 พ.ค.) ขณะที่นักลงทุนยังคงวิตกกังวลเกี่ยวกับผลกระทบของสงครามการค้า โดยรายงานล่าสุดระบุว่า จีนยืนยันว่าจะใช้มาตรการตอบโต้หากสหรัฐประกาศขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าจีนในวันศุกร์นี้

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 25,967.33 จุด เพิ่มขึ้น 2.24 จุด หรือ +0.01% ขณะที่ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,879.42 จุด ลดลง 4.63 จุด หรือ -0.16% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 7,943.32 จุด ลดลง 20.44 จุด หรือ -0.26%

 

ตลาดหุ้นยุโรปปิดปรับตัวขึ้นเมื่อคืนนี้ (8 พ.ค.) เนื่องจากนักลงทุนขานรับข่าวที่ว่า เจ้าหน้าที่จีนมีความต้องการทำข้อตกลงทางการค้ากับสหรัฐ และตลาดยังได้แรงหนุนจากการที่เยอรมนีเปิดเผยข้อมูลการผลิตภาคอุตสาหกรรมดีดตัวขึ้น รวมถึงการที่บริษัทจดทะเบียนของเยอรมนีเปิดเผยผลประกอบการไตรมาสแรกที่แข็งแกร่ง

ดัชนี Stoxx Europe 600 บวก 0.15% ปิดที่ 382.23 จุด

ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 5,417.59 จุด เพิ่มขึ้น 21.85 จุด หรือ +0.40% และ ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 12,179.93 จุด เพิ่มขึ้น 87.19 จุด หรือ +0.72% ส่วนดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,271.00 จุด เพิ่มขึ้น 10.53 จุด หรือ +0.15%

 

ตลาดหุ้นลอนดอนปิดปรับตัวขึ้นเมื่อคืนนี้ (8 พ.ค.) โดยได้แรงหนุนจากข่าวที่ว่า เจ้าหน้าที่จีนมีความต้องการทำข้อตกลงทางการค้ากับสหรัฐ ขณะที่การปรับตัวขึ้นของหุ้นกลุ่มน้ำมันตามราคาน้ำมันที่ดีดตัวขึ้น หลังสหรัฐเปิดเผยข้อมูลสต็อกน้ำมันลดลงเกินคาดนั้น ได้ช่วยดันตลาดขึ้นด้วย

ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,271.00 จุด เพิ่มขึ้น 10.53 จุด หรือ +0.15%

 

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (8 พ.ค.) หลังจากสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) เปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐร่วงลงในสัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งสวนทางกับที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้น นอกจากนี้ สัญญาน้ำมันดิบยังได้แรงหนุนจากการคาดการณ์ที่ว่า สถานการณ์ตึงเครียดระหว่างสหรัฐและอิหร่านอาจส่งผลให้อุปทานน้ำมันในตลาดโลกอยู่ในภาวะตึงตัว

สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนมิ.ย. เพิ่มขึ้น 72 เซนต์ หรือ 1.2% ปิดที่ 62.12 ดอลลาร์/บาร์เรล

สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนก.ค. เพิ่มขึ้น 49 เซนต์ หรือ 0.7% ปิดที่ 70.37 ดอลลาร์/บาร์เรล

 

สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (8 พ.ค.) เนื่องจากนักลงทุนลดการถือครองทองคำในฐานะสินทรัพย์ที่ปลอดภัย หลังจากตลาดหุ้นสหรัฐเริ่มฟื้นตัวขึ้น ภายหลังจากที่ร่วงลงอย่างหนักเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา อันเนื่องมาจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับผลกระทบของการทำสงครามการค้าระหว่างสหรัฐและจีน

สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนมิ.ย. ลดลง 4.2 ดอลลาร์ หรือ 0.33% ปิดที่ 1,281.40 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนก.ค. ลดลง 6.4 เซนต์ หรือ 0.43% ปิดที่ 14.862 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนก.ค. ลดลง 9 ดอลลาร์ หรือ 1.03% ปิดที่ 864.40 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนมิ.ย. ร่วงลง 17.00 ดอลลาร์ หรือ 1.3% ปิดที่ 1,306.40 ดอลลาร์/ออนซ์

 

ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (8 พ.ค.) เนื่องจากนักลงทุนยังคงวิตกกังวลเกี่ยวกับผลกระทบของการทำสงครามการค้าระหว่างสหรัฐและจีน ขณะที่เงินเยนได้รับแรงซื้อส่งเข้าหนุนในฐานะสินทรัพย์ที่ปลอดภัย

ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับเงินเยน ที่ระดับ 110.14 เยน จากระดับ 110.26 เยน และอ่อนค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์แคนาดา ที่ระดับ 1.3474 ดอลลาร์แคนาดา จากระดับ 1.3480 ดอลลาร์แคนาดา แต่ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ 1.0200 ฟรังก์ จากระดับ 1.0195 ฟรังก์

ยูโรแข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.1192 ดอลลาร์ จากระดับ 1.1183 ดอลลาร์ ขณะที่เงินปอนด์อ่อนค่าลงแตะที่ระดับ 1.3005 ดอลลาร์ จากระดับ 1.3063 ดอลลาร์ ส่วนดอลลาร์ออสเตรเลียอ่อนค่าลงสู่ระดับ 0.6989 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.7004 ดอลลาร์สหรัฐ

Back to top button