SET บ่ายผันผวนต่อเนื่องแนวรับสำคัญ 1,470 จุด

SET ช่วงเช้าปรับลงตามตลาดหุ้นภูมิภาคที่ส่วนใหญ่อยู่ในแดนลบ จากปัจจัยการลงประชามติของกรีซที่ส่วนใหญ่เลือก “NO” ส่วนปัจจัยในประเทศให้ติดตามผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนใน Q2/58 และการลงทุนของภาครัฐ คาดช่วงบ่ายตลาดหุ้นไทยยังผันผวนในแดนลบต่อ โดยมีแนวรับ 1,460-1,470 จุด ส่วนแนวต้าน 1480-1,485 จุด


ข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์รายงาน ตลาดหุ้นไทยดัชนี SET ช่วงเช้า (6 ก.ค.) ปรับตัวลง เป็นไปตามทิศทางเดียวกับตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคที่ส่วนใหญ่อยู่ในแดนลบ จากปัจจัยการลงประชามติของกรีซที่ส่วนใหญ่เลือก “NO” ส่งผลให้อนาคตของกรีซในกลุ่มยูโรโซนตกอยู่ในความไม่แน่นอน ส่วนปัจจัยภายในประเทศต้องติดตามการประกาศผลประกอบการไตรมาส 2/58 ของบริษัทจดทะเบียนที่จะเริ่มออกมาในช่วงนี้ และการลงทุนของภาครัฐ

นักวิเคราะห์คาดช่วงบ่าย ดัชนีหุ้นไทยยังผันผวนในแดนลบต่อ โดยมีแนวรับ 1,460-1,470 จุด ส่วนแนวต้าน 1480-1,485 จุด ขณะที่แนะนำเล่นกลุ่มหุ้นที่ได้รับผลดีจากการลงทุนภาครัฐที่เร่งตัวขึ้น, อุตสาหกรรมท่องเที่ยวที่เติบโตสวนทางเศรษฐกิจโดยรวม และหุ้นปันผลสูง อย่าง CK-STEC-SEAFCOAOTINTUCH-ADVANC และ TRUEIF

 

น.ส.ธีรดา ชาญยิ่งยงค์ ผู้ช่วยผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ฟิลลิป (ประเทศไทย) เปิดเผยถึงตลาดหุ้นไทยเช้านี้ปรับตัวลง เป็นไปตามทิศทางเดียวกันกับตลาดหุ้นภูมิภาคที่ส่วนใหญ่อยู่ในแดนลบ จากปัจจัยการลงประชามติของกรีซที่โหวต No เพื่อแสดงออกถึงการคัดค้านมาตรการรัดเข็มขัด โดยผลการลงประชามติดังกล่าวจะส่งผลให้อนาคตของกรีซในกลุ่มยูโรโซนตกอยู่ในความไม่แน่นอน หรืออาจจะทำให้กรีซต้องออกจากการเป็นสมาชิกยูโรโซน ซึ่งยังต้องติดตามการเจรจาระหว่างกรีซและเจ้าหนี้ต่อไป

ส่วนปัจจัยภายในประเทศยังต้องติดตามการประกาศผลประกอบการไตรมาส 2/58 ของบริษัทจดทะเบียนที่ทยอยออกมาในช่วงนี้ และการลงทุนต่างๆของภาครัฐ ส่วนแนวโน้มการลงทุนบ่ายนี้ คาดว่าตลาดหุ้นไทยยังคงผันผวนในแดนลบต่อ โดยให้แนวรับ 1,460-1,470 จุด ส่วนแนวต้าน 1,480-1,485 จุด

 

บล.ธนชาต ระบุในบทวิเคราะห์ (6 ก.ค.) SET ปรับลดลงแรงจากปัญหาหนี้กรีซยังกดดันตลาดหุ้นทั่วโลก รวมถึงราคาน้ำมันดิบ ขณะที่ ความกังวลต่อเศรษฐกิจที่ฟื้นตัวช้ากว่าที่คาดทำให้ NPLs ปรับตัวขึ้น และคาดการณ์ผลการดำเนินงานธนาคารพาณิชย์ในไตรมาส 2/58 มีแนวโน้มหดตัวลงจากช่วงเดียวกันปีก่อน และไตรมาสก่อนหน้า ส่งผลให้ 

ขณะที่ถ้าพิจารณาในทางเทคนิค SET ทำรูปแบบลิ่ม โดยมีแนวรับสำคัญที่ 1,470 จุด หากหลุด 1,476 จุดไปแล้ว ซึ่งในกรณีที่ปรับลดลงต่ำกว่า 1,470 จุด จะทำให้ Downside Risk ระยะสั้น เปิดกว้างมากขึ้นโดยมีแนวรับที่ 1,460/1,420 จุด ตามลำดับ

ขณะเดียวกันในเชิงกลยุทธ์ เน้นกลุ่มหุ้นที่ได้รับผลดีจากการลงทุนภาครัฐที่เร่งตัวขึ้น รวมถึงอุตสาหกรรมท่องเที่ยวที่เติบโตสวนทางเศรษฐกิจโดยรวม และหุ้นปันผลสูง อย่าง CK-STEC-SEAFCO-AOT-INTUCH-ADVANC และ TRUEIF

 

สรุป 5 หลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุดภาคเช้า

TASCO มูลค่าการซื้อขาย 1,462.25 ล้านบาท ปิดที่ 23.50 บาท ลดลง 0.20 บาท

KBANK มูลค่าการซื้อขาย 1,003.85 ล้านบาท ปิดที่ 178.50 บาท ลดลง 2.00 บาท

IRPC มูลค่าการซื้อขาย 884.47 ล้านบาท ปิดที่ 4.16 บาท ลดลง 0.22 บาท

PTT มูลค่าการซื้อขาย 791.82 ล้านบาท ปิดที่ 346.00 บาท ลดลง 8.00 บาท

KTB มูลค่าการซื้อขาย 569.04 ล้านบาท ปิดที่ 16.80 บาท ลดลง 0.40 บาท

 

ที่มา: สำนักข่าวอินโฟเควสท์

Back to top button