สรุปภาวะตลาดต่างประเทศ ประจำวันที่ 15 พ.ค. 2562

สรุปภาวะตลาดต่างประเทศ ประจำวันที่ 15 พ.ค. 2562


ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (15 พ.ค.) ขานรับรายงานข่าวที่ว่า รัฐบาลของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์มีแผนที่จะชะลอการเรียกเก็บภาษีรถยนต์นำเข้าจากยุโรปออกไปอีก 6 เดือน ซึ่งข่าวดังกล่าวทำให้นักลงทุนคลายความวิตกกังวลเกี่ยวกับข้อพิพาทการค้า และยังช่วยสกัดปัจจัยลบจากข้อมูลเศรษฐกิจที่ซบเซาของจีนและสหรัฐ

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 25,648.02 จุด เพิ่มขึ้น 115.97 จุด หรือ +0.45% ขณะที่ดัชนี S&P500 ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 2,850.96 จุด เพิ่มขึ้น 16.55 จุด หรือ +0.58% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 7,822.15 จุด เพิ่มขึ้น 87.65 จุด หรือ +1.13%

 

ตลาดหุ้นยุโรปปิดปรับตัวขึ้นเมื่อคืนนี้ (15 พ.ค.) โดยหุ้นกลุ่มรถยนต์ทะยานขึ้นขานรับข่าวที่ว่า รัฐบาลของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ มีแผนที่จะชะลอการเรียกเก็บภาษีนำเข้ารถยนต์จากยุโรปออกไปอีก 6 เดือน

ดัชนี Stoxx Europe 600 บวก 0.46% ปิดที่ 378.06 จุด

ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 5,374.26 จุด เพิ่มขึ้น 32.92 จุด หรือ +0.62% และ ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 12,099.57 จุด เพิ่มขึ้น 107.95 จุด หรือ +0.90% ส่วนดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,296.95 จุด เพิ่มขึ้น 55.35 จุด หรือ +0.76%

ตลาดหุ้นลอนดอนปิดปรับตัวขึ้นเมื่อคืนนี้ (15 พ.ค.) โดยได้แรงหนุนจากความหวังที่ว่า ความตึงเครียดด้านการค้าระหว่างสหรัฐกับจีนและยุโรป จะคลี่คลายลง และการที่เงินปอนด์อ่อนค่าลง ได้ช่วยหนุนหุ้นกลุ่มส่งออกด้วย

ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่  7,296.95 จุด เพิ่มขึ้น 55.35 จุด หรือ +0.76%

 

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (15 พ.ค.) โดยได้แรงหนุนจากการคาดการณ์ที่ว่า อุปทานน้ำมันในตลาดโลกอาจได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ตึงเครียดในตะวันออกกลาง โดยล่าสุดกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐออกแถลงการณ์สั่งการให้เจ้าหน้าที่บางส่วนของสหรัฐเดินทางออกจากอิรัก เนื่องจากกังวลต่อภัยคุกคามจากกองกำลังของอิหร่าน

สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนมิ.ย. เพิ่มขึ้น 24 เซนต์ หรือ 0.4% ปิดที่ 62.02 ดอลลาร์/บาร์เรล ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 8 พ.ค.ปีนี้

สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนก.ค. เพิ่มขึ้น 53 เซนต์ หรือ 0.7% ปิดที่ 71.77 ดอลลาร์/บาร์เรล ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 1 พ.ค.ปีนี้

 

สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้  (15 พ.ค.) เนื่องจากนักลงทุนเข้าซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ที่ปลอดภัย หลังจากสหรัฐและจีนเปิดเผข้อมูลเศรษฐกิจที่อ่อนแอ ซึ่งรวมถึงยอดค้าปลีกและการผลิตภาคอุตสาหกรรมของจีนที่ขยายตัวน้อยกว่าคาดการณ์ในเดือนเม.ย.

สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนมิ.ย. เพิ่มขึ้น 1.5 ดอลลาร์ หรือ 0.12% ปิดที่ 1,297.8 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนก.ค.ปิดทรงตัวที่ระดับ 14.812 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนก.ค. ลดลง 11.4 ดอลลาร์ หรือ 1.33% ปิดที่ 847.7 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนมิ.ย. ขยับลงเพียง 10 เซนต์ ปิดที่ระดับ 1,332.90 ดอลลาร์/ออนซ์

 

ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินเยนและฟรังก์สวิส ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (15 พ.ค.) เนื่องจากนักลงทุนเข้าซื้อสกุลเงินในกลุ่มสินทรัพย์ปลอดภัย เช่น เงินเยนและฟรังก์ หลังจากทางการจีนและสหรัฐเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่อ่อนแอเกินคาด ขณะที่เงินปอนด์อ่อนค่าลงเนื่องจากความกังวลเกี่ยวกับกระบวนการที่อังกฤษแยกตัวออกจากสหภาพยุโรป (Brexit)

ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับเงินเยน ที่ระดับ 109.55 เยน จากระดับ 109.63 เยน และอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ 1.0092 ฟรังก์ จากระดับ 1.0094 ฟรังก์ นอกจากนี้ ดอลลาร์สหรัฐยังอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์แคนาดา ที่ระดับ 1.3438 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.3466 ดอลลาร์สหรัฐ

ยูโรอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.1203 ดอลลาร์ จากระดับ 1.1207 ดอลลาร์ ขณะที่เงินปอนด์อ่อนค่าลงแตะที่ระดับ 1.2843 ดอลลาร์ จากระดับ 1.2904 ดอลลาร์ และดอลลาร์ออสเตรเลียอ่อนค่าลงแตะที่ระดับ 0.6927 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.6944 ดอลลาร์สหรัฐ

Back to top button