พาราสาวะถี

วันนี้ ศาลรัฐธรรมนูญนัดพิจารณารับหรือไม่รับเรื่องที่ชงมาโดยกกต.กรณีการถือหุ้นสื่อของ ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ที่มีกระแสสังคมตั้งคำถามว่าในบรรดาคนที่ถูกร้องกรณีเดียวกันกว่า 60 คน ทำไมถึงมีแค่หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่รายเดียว ที่องค์กรอิสระซึ่งดูแลการเลือกตั้งรีบดำเนินการ อีกไม่กี่อึดใจก็ได้รู้หมู่หรือจ่าหัวหรือก้อย กับกระแสข่าวลอยลม “ไม่ให้ธนาธรเข้าสภา” จะเป็นจริงหรือแค่ข่าวลือ แต่ถ้าดูจากปมที่ถาโถมเข้าใส่ ทุกเม็ดทุกดอกก็เจตนาสกัดดาวรุ่งอย่างแท้จริง


อรชุน

วันนี้ ศาลรัฐธรรมนูญนัดพิจารณารับหรือไม่รับเรื่องที่ชงมาโดยกกต.กรณีการถือหุ้นสื่อของ ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ที่มีกระแสสังคมตั้งคำถามว่าในบรรดาคนที่ถูกร้องกรณีเดียวกันกว่า 60 คน ทำไมถึงมีแค่หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่รายเดียว ที่องค์กรอิสระซึ่งดูแลการเลือกตั้งรีบดำเนินการ อีกไม่กี่อึดใจก็ได้รู้หมู่หรือจ่าหัวหรือก้อย กับกระแสข่าวลอยลม “ไม่ให้ธนาธรเข้าสภา” จะเป็นจริงหรือแค่ข่าวลือ แต่ถ้าดูจากปมที่ถาโถมเข้าใส่ ทุกเม็ดทุกดอกก็เจตนาสกัดดาวรุ่งอย่างแท้จริง

แม้เจ้าตัวไม่อินังขังขอบ โดยเชื่อมั่นในความบริสุทธิ์ใจ แต่การเมืองไม่ใช่สูตรสำเร็จเหมือนการทำธุรกิจหรืออื่น ๆ ที่เมื่อเดินตามตรอกออกตามประตูแล้วผลลัพธ์มันจะต้องตรงตามนั้น เหตุการณ์การเมืองหลายครั้งไม่มีใครคาดคิด ยิ่งในยุคอย่างหนาอะไรก็เกิดขึ้นได้ อย่างไรก็ดี ใครก็ตามที่พุ่งเป้าจะเล่นงานธนาธรก็อย่าลืมว่าเจ้าตัวเคยประกาศไว้ถึงไม่ได้เป็นส.ส.ก็ยังจะขอลุยงานการเมืองต่อ ไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง ยิ่งหากถูกกระทำจนกลายเป็นความแค้นฝังหุ่น คงมีเรื่องที่ทำให้ต้องลุ้นกันอีกหลายยก

ความพยายาม(อย่างเอาจริงเอาจัง)ในการเตะตัดขาธนาธรและพรรคอนาคตใหม่นั้น พอจะเข้าใจได้ เป้าหมายไม่ใช่การสั่งสอนพวกออกมาท้าทายอำนาจเผด็จการเท่านั้น หากแต่งานนี้ถ้าทำสำเร็จไปถึงขั้นยุบพรรคน้องใหม่ไฟแรงได้ มันหมายถึงตัวเลขส.ส. 80 ที่นั่ง ที่จะกลายเป็นผึ้งแตกรัง โดยเฉพาะการเป็นส.ส.หน้าใหม่ โอกาสที่จะเกิดงูเห่าจึงเป็นไปได้โดยง่าย อย่างที่บอกยุคอย่างหนาอย่าไปคิดว่ามันจะทำกันได้ถึงเพียงนั้นหรือ คือถ้าไม่สามานย์จริงคงไม่มีใครเขาทำกัน

ส่วนการจับขั้วตั้งรัฐบาล การปรากฎภาพ อนุทิน ชาญวีรกูล ไปนั่งรับประทานอาหารกับ เฉลิมชัย ศรีอ่อน เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ กับ มนตรี ปาน้อยนนท์ ส.ส.ประจวบคีรีขันธ์ พรรคเก่าแก่นั้น มองกันได้ใน 3 ทิศทาง อย่างแรกเลย ง่าย ๆ สั้น ๆ กระชับความสัมพันธ์เพื่อเพิ่มพลังต่อรองแล้วก็พากันไปสังฆกรรมกับพรรคสืบทอดอำนาจ ซึ่งมีแนวโน้มเป็นไปได้สูง หากฟังจากสิ่งที่ กอบศักดิ์ ภูตระกูล กระบอกเสียงพลังประชารัฐส่งสัญญาณสว่างวาบมาแต่ไกล

สิ่งที่โฆษกพรรคสืบทอดอำนาจส่งเสียงมาคือ จะมีข่าวดีเร็วๆ นี้และพรรคพร้อมเปิดโต๊ะเจรจาต่อรองกับสองพรรคตัวแปรสำคัญอย่างเต็มที่ ก็หมายความว่าจากที่แทงกั๊กขอกระทรวงหลักกอดไว้แน่น อาจจะยอมคลายโดยพ่วงเงื่อนไขอีกสารพัดที่ยากจะปฏิเสธ โดยการเซย์เยสในแนวทางนี้คงจะมีความชัดเจนภายในวันนี้นี่แหละ ก่อนจะมีรัฐพิธีเปิดประชุมรัฐสภาในวันพรุ่งนี้ เพื่อที่จะขยับในขั้นต่อไปคือ การประชุมสภาผู้แทนราษฎรเพื่อเลือกประธานและรองประธานสภา ฯ

ถ้าเป็นไปตามแนวทางนี้ ก็หมายความว่าสิ่งที่คุยกัน จะเป็นบทสรุปเพื่อนำไปสู่วาทกรรมที่จะร่วมกันสร้างหรือแยกกันชี้แจงแถลงไข ทำไมถึงไปร่วมมือกับพรรคสืบทอดอำนาจ ถ้าเป็นภูมิใจไทยง่ายนิดเดียว นโยบายกัญชาเสรีได้รับการตอบสนองแบบสุดติ่ง ส่วนพรรคเก่าแก่ไม่ต้องไปคาดเดาอะไร หนีไม่พ้นเพื่อให้ประเทศเดินหน้าและลดความขัดแย้งทางการเมือง อาจจะพ่วงเหตุผลไม่มีทางที่จะไปจับมือกับระบอบทักษิณได้

หากอาหารมือนั้นไม่ใช่แนวทางจับมือต่อรองเข้าคอกสืบทอดอำนาจ ตามที่มีรายงานข่าวว่าจะเปิดทางเลือกด้วยข้อเสนอขั้วที่ 3 มีความเป็นไปได้แต่น้อยกว่าทิศทางแรกแน่  ด้วยเหตุเพราะการรวบรวมเสียงนั้น หากจะมีใครคนใดคนหนึ่งจากสองพรรคก้าวไปถึงเก้าอี้นายกรัฐมนตรี จะต้องไปดึงเอาเสียงของพรรคเล็กที่ไปสวามิภักดิ์กับพลังประชารัฐไว้แล้วกลับมา เพื่อชนะการโหวตโดยไม่ต้องพึ่งพิงส.ว.ลากตั้ง หรือเด็ดกว่านั้นคือดึงส.ว.ลากตั้งมาร่วมโหวตโดยยึดเสียงของประชาชนเป็นที่ตั้ง

อย่างหลังนี้ไม่มีทางเป็นไปได้ เพราะมีการออกตัวไว้ล่วงหน้าแล้วว่า หากสังคมไม่เห็นด้วยสองพรรคก็แยกย้ายไปตามแนวทางของตัวเองเปิดรับการร่วมรัฐบาลหรือต้องเป็นฝ่ายค้าน ส่วนสุดท้ายคือ การกินข้าวมือนั้นไม่มีอะไรมากไปกว่าการแสดงความยินดีต่อเลขา ฯ พรรคเก่าแก่ที่ได้รับตำแหน่งใหม่ และในฐานะคนที่สนิทชิดเชื้อกัน แต่หากพิจารณาย้อนกลับไปยังมติของสองพรรคตัวแปรสำคัญแล้ว จะเห็นได้ชัดเจนว่าพรรคหนึ่งให้หัวหน้าพรรคเป็นผู้ตัดสินใจเด็ดขาด อีกพรรคก็มอบให้เลขา ฯ พรรคเป็นผู้ประสาน

ถ้าได้พิจารณาสายสัมพันธ์ของหนึ่งในสองคนที่ร่วมโต๊ะอาหารกันแล้ว ก็จะพบความโน้มเอียงไปในทางสังฆกรรมกับขบวนการสืบทอดอำนาจอย่างเด่นชัด ตามข่าวที่ปรากฏก่อนหน้านี้ว่ามีทั้งการยกหูคุยและดอดเข้าไปพบมือประสานประจำคณะเผด็จการ แม้จะได้รับคำตอบอันเป็นสิ่งที่คุ้นหูของผู้คนว่า “ไม่มี ไม่ทราบ” ก็ตาม แต่การที่คนเหล่านี้พูดให้ยึดถือทฤษฎีตรงข้ามเข้าไว้ เปล่งวาจาอะไรออกมาภาษานักพนันบอกว่าให้แทงสวน รับรองเข้าเป้าทุกดอก

เมื่อทุกอย่างถูกออกแบบไว้ “เพื่อพวกเรา แล้วจะมีใครโง่ปล่อยชิ้นปลามันไปให้คนอื่นรับประทาน หากจับอาการของคนที่อยากไปต่อเต็มที ก็จะเห็นทิศทางหลังการเปิดประชุมสภาอย่างเต็มรูปแบบที่ชัดเจน การออกอาการเหนียมต่อตำแหน่งที่คนเหล่านั้นได้จับจองไว้ ก็เป็นตัวบ่งบอกอีกประการว่า งานนี้เรามาแน่ แค่ขอเวลาในการจัดสรรผลประโยชน์ให้ลงตัวก่อนเท่านั้น ขณะที่พวกปากมันก็ดี๊ด๊ากันเต็มที่ มีการจับจองเก้าอี้ในคณะกรรมการธิการชุดต่าง ๆ กันไว้เรียบร้อย

ขณะเดียวกัน ที่มีหัวหน้าพรรคจิ๋วบางรายประกาศขอเก้าอี้รัฐมนตรีที่กระทรวงศึกษาธิการ ถ้าผู้นำเผด็จการได้กลับมาเป็นผู้นำอีกกระทอกนั้น ก็เป็นภาพสะท้อนของพวกปากมันที่ไม่เก็บอาการกันเลยทีเดียว เพราะอย่างที่รู้ว่าคนดังกล่าวนั้นทำมาหากินอะไร เกี่ยวข้องกับตำรับตำราโดยตรง นี่แค่หนังตัวอย่างที่อยากจะสะกิดว่าที่ท่านผู้นำ(สืบทอดอำนาจ)แต่เนิ่น ๆ ว่า ถ้ายังจะรักษาภาพไม่โกงเหมือนตลอด 5 ปีที่ผ่านมา ก็พึงระวังคนเหล่านี้ไว้ให้ดี อย่าลืมว่า ไม่มีอำนาจวิเศษที่จะปิดปากคนวิจารณ์และการตรวจสอบได้อีกแล้ว

ทั้งหลายทั้งปวง คงอย่างที่ ชูวิทย์ กมลวิศิษฏ์ กระตุกแรง ๆ เมื่อวันก่อน หม่อมราชวงคึกฤทธิ์ ปราโมช เคยว่าไว้ “กูไม่กลัวมึง” อย่ามาอ้าง “ขั้วที่สาม” ให้เสียเวลา ขู่ไปกูก็ไม่กลัว หากไม่ต้านก็เดินตบเท้าเข้าแถวอย่าให้กูต้องตบโต๊ะ ประชาชนเขาอุตส่าห์ออกไปเลือกตั้ง พอตอนนี้พวกนักการเมืองดันเอาคะแนนที่เขาเลือกไปต่อรอง เดี๋ยวตอนจัดตั้งรัฐบาลใหม่จะได้เห็น “นักการเมืองพายเรือให้โจรนั่ง” มันก็เป็นเช่นนี้แลการเมืองน้ำเน่าแบบไทย ๆ

Back to top button