SET บ่ายคาดแกว่ง Sidewayแนะช้อนหุ้นมีปัจจัยบวกช่วงสั้น

SET ปิดเช้าปรับตัวขึ้นหลังร่วงแรงวานนี้ ได้แรงหนุนจากหุ้น ICT และกลุ่มแบงก์รีบาวด์ ปัจจัยที่ต้องจับตาคือผลจากการประชุม รมต.คลัง EU คืนนี้ ช่วงบ่ายคาดตลาดหุ้นไทยแกว่ง Sideway โดยมีแนวรับ 1,470 จุด ส่วนแนวต้าน 1,480-1,490 จุด แนะนำซื้อหุ้นกลุ่มหลักและได้รับปัจจัยบวกช่วงนี้


ข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์รายงาน ตลาดหุ้นไทยดัชนี SET ช่วงเช้า (7 ก.ค.) ปรับตัวขึ้นหลังร่วงแรงวานนี้(6 ก.ค.) โดยมีแรงหนุนจากหุ้นในกลุ่ม ICT และหุ้นกลุ่มแบงก์ที่รีบาวด์ ซึ่งปัจจัยที่ต้องจับตาคือการรอความชัดเจนจากการประชุม รมต.คลัง EU คืนนี้ อีกทั้งช่วงสัปดาห์หน้าจะเริ่มทยอยประกาศผลประกอบการงวดไตรมาส 2/58 

นักวิเคราะห์คาดช่วงบ่าย ดัชนีแกว่ง Sideway โดยมีแนวรับ 1,470 จุด ส่วนแนวต้าน 1,480-1,490 จุด ขณะที่แนะนำซื้อหุ้นที่ได้รับประโยชน์จากราคาน้ำมันปรับลง BA-AAV รวมถึงหุ้นที่ได้รับปัจจัยเชิงบวกจากโครงการภาครัฐ หุ้นปันผลเด่น และหุ้นที่ได้รับประโยชน์การประมูลคลื่น 4G เช่น INTUCH-ADVANCCK-STEC-SEAFCO และ AOT

 

น.ส.ธีรดา ชาญยิ่งยงค์ ผู้ช่วยผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ฟิลลิป (ประเทศไทย) เปิดเผยถึง ตลาดหุ้นไทยช่วงเช้าปรับตัวขึ้นหลังจากย่อตัวลงวานนี้ ซึ่งดูดีดว่าตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาค แต่ Upside มีจำกัด เนื่องจากยังต้องเฝ้าจับตาปัญหาในกรีซ และยังไม่มีปัจจัยบวกที่เข้ามาช่วยหนุนตลาดในช่วงนี้

นอกจากนี้ ในช่วงสัปดาห์หน้าเริ่มจะทยอยประกาศผลประกอบการงวดไตรมาส 2/58 โดยเริ่มที่กลุ่มแบงก์ซึ่งคาดการณ์ไว้ว่าจะออกมาไม่ดีมากนัก แต่วันนี้กลุ่มแบงก์มีการรีบาวด์ขึ้นหลังตอบรับข่าวเชิงลบไปแล้ว แต่การขยับขึ้นไม่ได้มีผลต่อดัชนีหุ้นไทยมากนัก ทั้งนี้ ดัชนีได้รับแรงหนุนจากหุ้นในกลุ่ม ICT และกลุ่มพลังงานที่ไม่ปรับตัวลงแรงเท่ากับวานนี้ แม้ราคาน้ำมันร่วงแรง

แนวโน้มการลงทุนบ่ายนี้ คาดดัชนีหุ้นไทยคงจะแกว่งไซด์เวย์ พร้อมให้แนวรับ 1,470 จุด ส่วนแนวต้าน 1,480-1,490 จุด

 

บล.ธนชาต ระบุในบทวิเคราะห์ (7 ก.ค.) ว่า ภาพรวมช่วงเช้าการฟื้นตัวของ SET เป็นไปอย่างจำกัด เนื่องจากแรงขายหุ้นกลุ่มพลังงาน หลังราคาน้ำมันปรับลดลง และรอความชัดเจนจากการประชุม รมต.คลัง EU คืนนี้ หลังกรีซ Vote “NO” ไม่รับแผนรัดเข็มขัดของเจ้าหนี้ โดยประเมินกรอบเคลื่อนไหวของ SET ที่ 1,470-1,485 จุด

ทั้งนี้ ในภาวะตลาดยังผันผวน ฝ่ายวิจัยแนะนำซื้อกลุ่มหุ้นที่คาดการณ์ว่าจะ Outperform ตลาด โดยเฉพาะกลุ่มสื่อสารอย่าง INTUCH และ ADVANC ที่นอกจากมีปัจจัยบวกต่อปันผลกลางปี 3% แล้วยังมีประเด็นบวกจากการประมูล 4G ในเดือน พ.ย.รออยู่ โดยล่าสุด กทค.มีมติเห็นชอบราคาประมูลใบอนุญาตขั้นต่ำที่ 11,600 ล้านบาทต่อ 12.5MHz ต่ำกว่าที่คาดการณ์ไว้เดิม รวมไปถึง CK-STEC-SEAFCO และ AOT

ขณะที่ มองว่าการปรับลดลงของราคาน้ำมันเป็นจังหวะเก็งกำไร กลุ่มสายการบินอย่าง BA-AAV รวมไปถึง TASCO และ TIPCO โดยเฉพาะ TIPCO ที่ราคาปัจจุบันต่ำกว่า NAV ที่ถือหุ้น TASCO ถึง 37% ขณะที่ทางเทคนิคทะลุแนวต้านระยะสั้นที่ 13.80 บาท มีจังหวะปรับสูงขึ้นต่อไปที่ 14.5/15.0 บาท

 

บล.เอเอสแอล ระบุในบทวิเคราะห์ (7 ก.ค.) ว่า SET เช้านี้ปิดบวกในทิศทางเดียวกับตลาดภูมิภาคยกเว้นจีน โดยนักลงทุนซื้อเก็งกำไรหลังจากดัชนีร่วงลงแรง แม้มีแรงกดดันจากหนี้กรีซเข้ามา รวมทั้งนักลงทุนต่างชาติขายหุ้นสุทธิที่ออกมามากติดต่อกัน 3 วันรวมมูลค่า 7,249 ล้านบาท ขณะเดียวกันยังต้องติดตามการประชุมสุดยอดสหภาพยุโรป EU ในวันนี้ ซึ่งอาจมีข้อเสนอใหม่ของรัฐบาลกรีซ

ทั้งนี้ ผู้ว่าแบงค์ชาติเผยว่าจากการประเมินผลกระทบปัญหาหนี้ของกรีซนั้น มั่นใจไม่กระทบต่อเศรษฐกิจไทยโดยตรง เนื่องจากไทยเกี่ยวโยงกับกรีซค่อนข้างต่ำ มีการค้าโดยตรงน้อยมาก โดยไทยส่งออกไปกรีซเพียง 0.06% ของการส่งออกสินค้ารวม และคาดมีผลกระทบตลาดเงิน-ทุนให้ผันผวนระยะสั้นเท่านั้น

แนวโน้มภาคบ่ายเชิงเทคนิค คาดดัชนีจะกลับตัวขึ้นไปทดสอบ 1,481 จุดอีกครั้ง หลังจากเช้าขึ้นทดสอบแล้วไม่สามารถผ่านได้ เนื่องจาก RSI เข้าเขต Oversold อย่างมาก หากไม่สามารถทะลุต้านนี้ได้อีกครั้ง มีแนวโน้มที่ดัชนีจะปรับตัวลงมาทดสอบกรอบล่างที่ 1,470 จุด

 

สรุป 5 หลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุดภาคเช้า

KBANK มูลค่าการซื้อขาย 1,156.28 ล้านบาท ปิดที่ 181.50 บาท เพิ่มขึ้น 2.50 บาท

PTT มูลค่าการซื้อขาย 1,044.50 ล้านบาท ปิดที่ 344.00 บาท ลดลง 3.00 บาท

ADVANC มูลค่าการซื้อขาย 1,016.53 ล้านบาท ปิดที่ 243.00 บาท เพิ่มขึ้น 4.00 บาท

TASCO มูลค่าการซื้อขาย 979.25 ล้านบาท ปิดที่ 24.00 บาท เพิ่มขึ้น 0.20 บาท

PTTGC มูลค่าการซื้อขาย 675.46 ล้านบาท ปิดที่ 66.50 บาท ลดลง 1.50 บาท

 

ที่มา: สำนักข่าวอินโฟเควสท์

Back to top button