SET สัปดาห์นี้ฟื้นตัวรับ MSCI Rebalance-การเมืองเดินหน้า ชู ROBINS, DTAC, TASCO หุ้นเด่น

SET สัปดาห์นี้ฟื้นตัวรับ MSCI Rebalance - การเมืองเดินหน้า ชู ROBINS, DTAC, TASCO หุ้นเด่น


Weekly outlook: “UP” ต้าน 1640/1654 จุด รับ 1,594/1,685 จุด

บล.โนมูระ พัฒนสิน ระบุในบทวิเคราะห์สัปดาห์นี้ (27-31 พ.ค.62) ว่า ตลาดสินทรัพย์เสี่ยงโลกยังคงเป็น Risk off จากประเด็นการค้าระหว่างหสรัฐฯ-จีน หลังความสัมพันธ์ของทั้งสองเริ่มสั่นคลอน บ่งชี้ถึงการบรรลุข้อตกลงทางการค้าที่เป็นไปได้ลำบากขึ้น โดย Nomura ได้ทำการประเมินผลกระทบต่อตลาด โดยให้โอกาส 65% ที่สหรัฐฯจะเก็บภาษีสินค้าจีน 25% วงเงิน 3 แสนล้านเหรียญ ในไตรมาส 3/62 ซึ่งกรณีจะกระทบ GDP สหรัฐฯราว 0.3%

ดังนั้น ส่งผลให้ Nomura ปรับประมาณการ GDP 2020 ของ US ลง 0.1 pp สู่ 1.6% ขณะที่มองว่าหากเศรษฐกิจแย่ลงมาก Fed อาจจะพิจารณาปรับลดดอกเบี้ย ลงได้ ส่วนผลกระทบต่อจีนนั้นคาดจะกระทบต่อ GDP จีน -0.4% ในช่วง1 ปีหลังขึ้นภาษี ซึ่งกรณีนีน่าจะทำให้จีนปล่อยมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่องโดยรวมถือว่าการปรับขึ้นภาษีดังกล่าว จะทำให้ประมาณการตลาดมี Downside

เนื่องจากนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่ไม่ได้รวมไว้ในประมาณการ ทำให้ตลาดค่อนข้างผันผวนแต่ถือว่าน่าจะได้เห็นการใช้มาตรการในการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติมจากทั้งสองฝ่ายเพื่อเป็นตัวช่วยเศรษฐกิจ หนุนสภาพคล่องในตลาดเพิ่มขึ้น ได้ ส่วนทิศทางในประเทศผ่านพ้นการเปิดรัฐสภาในวันที 24 พ.ค. น่าจะทำให้ภาพการเมืองไทยชัดเจนมากขึ้นหนุนความเชื่อมั่นนักลงทุนฟื้นกลับมาอีกครั้งผสานแรงหนุนสำคัญจาก MSCI Rebalance ที่จะมีผลราคาปิด 28 พ.ค.นี้

ซึ่งรอบนี้ MSCI ปรับเพิ่มน้ำหนักของไทยใน MSCI EM เพิ่มขึ้นสู่ 2.9% จาก 2.4% Nomura คาดเม็ดเงิน Inflows ราว1,023 ล้านเหรียญ vs MSCI คาด  2,400 ล้านเหรียญฯ โดยมีหุ้นเข้า/ออกดังนี้

MSCI Thailand เข้า -INTUCH, RATCH, DTAC ออก – DELTA (แนะระมัดระวัง CENTEL ที่ไม่ได้เข้าคำนวณสวนคาด) และเพิ่มน้ำหนัก SCC, BDMS, CPN, BBL-F, LH, EGCO, CPALL,TU และลดน้ำหนัก SCB ส่วน MSCI Global Small Cap เข้า – AEONTS, AAV, BLA,EASTW, PSH, TASCO ออก – MC, PRINC, THCOM, TFG, VGI, VIBHA

ส่วนในเชิง Valuation พบว่า SET ย่อสู่กรอบซื้อเชิงพื้นฐาน PER 19F 14.8-14.3X กรอบ 1610-1560 จุด เป็น Zone ซื้อเชิงพื้นฐาน และเป็นกรอบที่ค่า Equity Risk Premium 1 ปี เริ่มสูงกว่าค่าเฉลี่ย 3.56% สู่กรอบ 3.6-3.8% น่าจะหนุนการฟื้นตัวของ SET ได้ ส่วนปัจจัยอื่นๆที่น่าติดตาม คือ รายงานสภาวะเศรษฐกิจสหรัฐฯ (FED Beige Book) 29 พ.ค.นี้จับตามุมมองต่อเศรษฐกิจ ซึ่งจะบ่งชี้ทิศทางดอกเบี้ยและมาตรการเศรษฐกิจในช่วงถัดไปได้

 

กลยุทธ์การลงทุน: ฟื้นตัวรับ MSCI Rebalance และการเมืองเดินหน้า โดย SET 1620-1550จุด ยังเป็นกรอบซื้อเชิงพื้น ฐาน ค่า Equity Risk Premium 1 ปี สูงกว่าค่าเฉลี่ย3.6-3.8% ซึ่งเป็นกรอบที่ SET มักฟื้นในเชิงพื้นฐาน

  1. หุ้นที่เป็นเป้า Fund Flow จาก MSCI (RATCH DTAC, INTUCH, SCC, CPALL, BDMS, TASCO, AAV)
  2. หุ้นโรงไฟฟ้าที่ได้ประโยชน์ PDP 2018( BGRIM, GUNKUL) และหุ้นได้ประโยชน์จากการจัดตั้งรัฐบาDomestic (CPALL, ROBINS, BJC,STEC, CK, AMATA, WHA CPF)

 

หุ้นเด่นสัปดาห์นี้ : แนะนำ ROBINS, DTAC, TASCO ส่วนสัปดาห์ก่อน CK, STEC, TASCO ให้ผลตอบแทนเฉลี่ย 2.38 % ดีกว่าดัชนีฯที่ให้ผลตอบแทน 0.37%

  1. ROBINS (TP 75) : คาดการบริโภคฟื้นตัว หลังการเมืองเดินหน้าฟื้นความเชื่อมั่นหนุน
  2. TASCO (Trad 21) : หุ้นใน Theme Turnaround ที่ Consensus เริ่ม Upgarde
  3. DTAC (TP 60) : MSCI เพิ่มน้ำ หนัก

Back to top button