บอร์ด EEC จ่อชงครม.เคาะร่างสัญญา “รถไฟเชื่อม 3 สนามบิน” พรุ่งนี้! ลุ้นลงนาม มิ.ย.

บอร์ด EEC จ่อชงครม.เคาะร่างสัญญา "รถไฟเชื่อม 3 สนามบิน" พรุ่งนี้! ลุ้นลงนาม มิ.ย.


นายคณิศ แสงสุพรรณ เลขาธิการ คณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (กพอ.) เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการฯ (บอร์ด EEC) ที่มี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธานวันนี้ ได้รับทราบความคืบหน้าของโครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน ว่า การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) และ สำนักงานคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก(สกพอ.) ในฐานะหน่วยงานหลักร่วมกันรับผิดชอบโครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน ได้ดำเนินการส่งร่างสัญญาทั้งหมด พร้อมเอกสารแนบท้ายวาระครบถ้วน ให้กับ กพอ. พิจารณาร่วมกันอีกครั้งก่อนให้ รฟท. ลงนามสัญญากับเอกชนที่ได้รับคัดเลือก

โดย สกพอ. ได้มีหนังสือขอความเห็นจาก กพอ. เมื่อวันที่ 22 พ.ค. 62 และในวันที่ 24 พ.ค. 62 กพอ. ได้ตอบกลับโดยไม่ได้มีการเปลี่ยนแปลงในสาระสำคัญของร่างสัญญาดังกล่าว ซึ่งขั้นตอนต่อไปจะเสนอให้คณะรัฐมนตรี (ครม.)พิจารณาให้ความเห็นชอบการร่วมลงทุนในวันพรุ่งนี้ (28 พ.ค.) โดยคาดว่า รฟท.จะสามารถลงนามและได้เอกชนร่วมทุน ประมาณเดือน มิถุนายน 2562

นอกจากนี้ กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ได้จัดตั้งสถาบันส่งเสริมการวิเคราะห์และบริหารข้อมูลขนาดใหญ่ภาครัฐ หรือ Government Big Data Institute (GBDi) โดยอาศัยกลไกการวิเคราะห์ สังเคราะห์ที่เรียกว่า Big Data Analytics ซึ่งจะสร้างให้เกิดประโยชน์ข้อมูลอย่างเป็นรูปธรรม เพิ่มศักยภาพการจัดเก็บ เชื่อมโยงและแลกเปลี่ยนอย่างเป็นระบบและใช้ในเชิงวิเคราะห์ โดยทีมงานสถาบันฯ ได้เริ่มพัฒนากรอบแนวทางด้านข้อมูล เพื่อการจัดสรรทรัพยากรด้านบริการสุขภาพให้เหมาะสมตรงกับความต้องการ การวิเคราะห์ข้อมูลเพื่อตอบโจทย์ให้ตรงจุด เพื่อยกระดับการบริการสาธารณสุขในเขตพื้นที่ EEC

โดยกรอบดำเนินการระยะสั้น จะเน้นเรื่องการนำข้อมูลสุขภาพที่มีอยู่แล้ว เช่น ข้อมูลการเบิกจ่ายประกันสุขภาพจาก สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) สำนักงานการสารสนเทศบริการสุขภาพ (สกส.) และกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ข้อมูลประวัติผู้ป่วย ของสถานบริการที่มีความพร้อม และข้อมูลประชากร ตำแหน่งที่ตั้งโรงงานจากสำนักงานสถิติแห่งชาติมาวิเคราะห์และจัดทำระบบนำร่อง เพื่อใช้ประโยชน์ข้อมูลเบื้องต้น โดยเน้นปัญหาการจัดสรรทรัพยากรสุขภาพ และความเสี่ยงการเป็นโรค เป็นต้น และเพื่อให้เกิดรูปธรรมในการดำเนินงาน คาดว่าในช่วงเดือนมิถุนายนนี้

ทางสถาบันฯ จะนำผลวิเคราะห์การกระจายตัวของข้อมูล ปรึกษากับกระทรวงสาธารณสุข และ สปสช.เพื่อพัฒนาโมเดลคณิตศาสตร์เชิงทำนายต่อไป และเพื่อให้ความยั่งยืนในการใช้ข้อมูลเชิงวิเคราะห์ และขยายไปยังพื้นที่อื่นๆ สถาบันฯ ได้เริ่มจัด รายการข้อมูลทางด้านสาธารณสุขสำคัญๆทั้งข้อมูลที่มีอยู่และข้อมูลที่ยังไม่มีการจัดเก็บเพื่อเตรียมสำหรับเชื่อมโยงข้อมูลการวิเคราะห์ในระยะยาวต่อไป

Back to top button