“ประพันธ์” คงเป้าปี 62 บจ.จดทะเบียนตลาด “เอ็มเอไอ” 15 บริษัท มาร์เก็ตแคปราว 2 หมื่นลบ.

“ประพันธ์” คงเป้าปี 62 บจ.จดทะเบียนตลาด “เอ็มเอไอ” 15 บริษัท มาร์เก็ตแคปราว 2 หมื่นลบ.


นายประพันธ์ เจริญประวัติ ผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) ยังคงเป้าหมายบริษัทจดทะเบียน (บจ.) ใหม่ในตลาด mai ปีนี้จำนวน 15 บริษัท ขนาดมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาดรวม (มาร์เก็ตแคป) ราว 1.5-2 หมื่นล้านบาท โดยปัจจุบันมีกลุ่มธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SME) กว่า 200 บริษัทที่อยู่ในการดูแลของ mai เพื่อเตรียมตัวเข้าจดทะเบียน โดยคาดว่าจะมีบริษัทที่มีศักยภาพเพียงพอเข้าจดทะเบียนเกินครึ่งที่จะทยอยเสนอขายหุ้นต่อประชาชนทั่วไปครั้งแรก (IPO) ในช่วง 5-7 ปีข้างหน้า

ส่วนภาวะหุ้น IPO เข้าเทรดแล้วต่ำกว่าราคาจองซื้อนั้น นายประพันธ์ มองว่า จะไม่กระทบต่อการตัดสินใจเข้าจดทะเบียนของผู้ประกอบการ เนื่องจากภาวะตลาดมีนัยสำคัญต่อธุรกิจน้อยกว่าการระดมทุนเพื่อสร้างการเติบโตในระยะยาว

นายประพันธ์ ยังกล่าวอีกว่า ตลาด mai ร่วมกับสมาคมบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (maiA) เตรียมจัดงาน “mai FORUM 2019″ในวันที่ 13 ก.ค.นี้ ภายใต้ธีม”20 ปี mai เติบโตด้วยกัน สร้างสรรค์ ยั่งยืน” เพื่อนำเสนอบทบาทการเป็นแหล่งระดมทุนสร้างธุรกิจให้เติบโตอย่างมืออาชีพสู่ความยั่งยืน โดยล่าสุดมี บจ.ตอบรับเข้าร่วมงานแล้ว 105 บริษัท สูงสุดตั้งแต่เคยจัดงานนี้มา โดยปีนี้จัดเป็นครั้งที่ 6

สำหรับงาน mai FORUM ถือเป็นเวทีสำคัญที่ผู้ลงทุนจะได้รับฟังข้อมูลที่น่าสนใจของธุรกิจ ได้พบปะพูดคุยกับผู้บริหารระดับสูงของบริษัทจดทะเบียนอย่างใกล้ชิด นอกจากนี้ ยังได้พบกับธุรกิจเพื่อสังคม (social enterprise: SE) ที่ผ่านการโค้ชจากทีมผู้บริหารของ บจ. ของ mai ในงานอีกด้วย รวมถึงยังมีบริการให้คำปรึกษาสำหรับผู้ประกอบการที่กำลังมองหาแหล่งเงินทุนเพื่อการเติบโตระยะยาว และมีนักวิเคราะห์-กูรูชั้นนำที่จะมาแลกเปลี่ยนมุมมองแนวโน้มการลงทุนครึ่งปีหลัง พร้อมเทคนิควิเคราะห์ธุรกิจอย่างมีคุณภาพ

“ตลาด mai จะครบรอบ 20 ปี ในวันที่ 21 มิ.ย.นี้ ซึ่งที่ผ่านมา mai มีบทบาทในการเป็นแหล่งระดมทุนเพื่อขยายโอกาสการเติบโตอย่างมีคุณภาพให้ธุรกิจขนาดกลางและขนาดเล็ก ซึ่งปัจจุบันมี บจ.ใน mai 161 บริษัท มีการระดมทุนผ่านไอพีโอ 56,168 ล้านบาท รวมทั้งการระดมทุนและใช้เครื่องมือทางการเงินอีก 74,204 ล้านบาท นอกจากนี้ ยังมี 29 บริษัทที่เติบโตจาก mai และย้ายไปจดทะเบียนใน SET” นายประพันธ์ กล่าว

Back to top button