ส่งออกไร้แรงหนุน หลังส่งคืนอาวุธฝึก “คอบร้าโกลด์” ครบ! “กวง” รับสภาพพาณิชย์หั่นเป้าอ่วม

ส่งออกไร้แรงหนุน หลังส่งคืนอาวุธฝึก “คอบร้าโกลด์” ครบ! “กวง” รับสภาพพาณิชย์หั่นเป้าอ่วม


วันนี้(31พ.ค.62) นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี รับทราบว่ากระทรวงพาณิชย์ได้ปรับลดเป้าหมายการส่งออกในปีนี้เหลือเติบโตเพียง 3% จากเดิมตั้งเป้าไว้ที่ 8% เนื่องจากครึ่งปีแรกมีแนวโน้มติดลบ และพร้อมให้กำลังใจในการผลักดันการส่งออกในช่วงที่เหลือของปีนี้ให้เป็นไปตามเป้าหมาย

“เขาตั้งเป้าของเขา.. เป็นสิ่งที่เขาประเมินแล้วก็ต้องให้กำลังใจเต็มที่”นายสมคิด กล่าวในการแถลงข่าวการประชุมมอบนโยบายการปฏิบัติงานให้แก่ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ

น.ส.บรรจงจิตต์ อังศุสิงห์ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ นำเสนอข้อมูลในการประชุมว่า กระทรวงพาณิชย์ตั้งเป้าการส่งออกในช่วง 8 เดือนที่เหลือของปีนี้โตเฉลี่ยเดือนละ 5% เพื่อผลักดันให้การส่งออกทั้งปีโตได้ 3% หลังในช่วง 4 เดือนแรกของปี (ม.ค.-เม.ย.) ส่งออกไทยติดลบไปแล้ว 1.9%

อย่างไรก็ตาม หากพิจารณาเป็นรายเดือนก็ไม่ได้หดตัวตลอด เพราะมีส่วนที่เพิ่มบ้าง และมองว่าจากนี้ไปค่อนข้างจะไม่เลวร้ายเหมือน 4 เดือนแรก เนื่องจากตลาดหลักยังเป็นบวก โดยผลกระทบของสงครามการค้ากลับทำให้ไทยส่งออกไปสหรัฐฯได้มากขึ้น ขณะที่ตลาดรองอย่าง CLMV ยังดีอยู่ ส่วนตลาดใหม่ไม่ว่าจะเป็นออสเตรเลีย ตะวันออกกลาง รัสเซียอาจจะยังไม่ดีในช่วงนี้

เมื่อมองมาที่ตัวสินค้า พบว่าในกลุ่มเกษตรและอุตสาหกรรมเกษตรเป็นบวกอยู่ ขณะที่สินค้าอุตสาหกรรมโดยรวมเป็นลบก็จริง แต่บางตัวก็ยังเป็นบวก เช่น เครื่องใช้ไฟฟ้ากับผลิตภัณฑ์ยางเมื่อได้คุยกับผู้ประกอบการทั้ง 2 กลุ่มซึ่งมั่นใจว่าใน 8 เดือนหลังจะทำได้ดีกว่านี้อีก

“จากสิ่งที่ประมวลมาข้างต้นและ 8 เดือนสุดท้ายเราจะใส่ความพยายามให้มากที่สุดเพื่อให้นำไปสู่เป้าหมายการส่งออกในช่วง 8  เดือนสุดท้ายโตเฉลี่ย 5% ซึ่งจะส่งผลให้ทั้งปีโต 3%”น.ส.บรรจงจิตต์ กล่าว

อนึ่งก่อนหน้านี้ กระทรวงพาณิชย์ได้ตั้งเป้าหมายการส่งออกปีนี้ไว้ที่ 8% อีกทั้งได้เปิดเผยตัวเลขการส่งออกของไทยในเดือนกุมภาพันธ์ 2562 ว่า ขยายตัวเป็นบวก 5.90% (จากเดือนมกราคม ติดลบ 5.6%) โดยมีมูลค่าส่งออก 21,553 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ซึ่งหากหักอาวุธและทองคำออกจะติดลบ 4.9% ท่ามกลางความไม่แน่นอนทางการค้ายังคงกดดันให้การค้าโลกชะลอตัว และอุปสงค์ของประเทศคู่ค้าอ่อนแอ อีกทั้งราคาสินค้าโภคภัณฑ์ที่มีแนวโน้มลดลง ส่งผลกระทบต่อการส่งออกของประเทศเกิดใหม่รวมถึงไทยและประเทศอื่น ๆ ในภูมิภาคด้วย

Back to top button