SET รีบาวด์! ปิดเช้าพุ่ง 11.53 จุด รับ Fund Flow ไหลเข้า-คาดเฟดปรับลดดอกเบี้ย

SET รีบาวด์! ปิดเช้าพุ่ง 11.53 จุด รับ Fund Flow ไหลเข้า-คาดเฟดปรับลดดอกเบี้ย โดยดัชนีปิดตลาดเช้านี้ที่ระดับ 1,631.75 จุด เพิ่มขึ้น 11.53 จุด หรือ 0.71 จุด มูลค่าการซื้อขาย 3.18 หมื่นล้านบาท 


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ดัชนีปิดตลาดเช้านี้ที่ระดับ 1,631.75 จุด เพิ่มขึ้น 11.53 จุด หรือ 0.71 จุด มูลค่าการซื้อขาย 3.18 หมื่นล้านบาท 

10 หุ้นดันดัชนีเช้านี้

ด้าน นายกิติชาญ ศิริสุขอาชา ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์รายย่อย บล.ซีจีเอส-ซีไอเอ็มบี (ประเทศไทย) เปิดเผยว่า ตลาดหุ้นไทยฟื้นตัวขึ้นมา จาก 2-3 ปัจจัย โดยเฉพาะการกลับเข้าซื้อสุทธิต่อเนื่องของนักลงทุนต่างชาติที่ในสัปดาห์ที่แล้วมียอดซื้อสุทธิราว 17,000 ล้านบาท โดยนักลงทุนต่างชาติเข้ามาซื้อในตลาดหุ้นภูมิภาคอาเซียน หลังเริ่มมองว่าอาเซียนจะไม่ได้รับผลกระทบจากสงครามการค้ามากนักเหมือนในสหรัฐ ,จีน และภูมิภาคเอเชียเหนือที่เป็น Supply Chain ทำให้เริ่มเห็นมีเม็ดเงินกลับเข้ามา

นอกจากนี้การประชุมธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในวันที่ 18-19 มิ.ย.นี้ ก็คาดหวังว่าเฟดอาจจะส่งสัญญาณปรับลดดอกเบี้ย หลังจากตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐออกมาไม่ดี ขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตร (Bond Yield) ของสหรัฐ อายุ 10 ปี ลดลงมาเหลือ 2.07% จากระดับ 2.72% เมื่อต้นปี ซึ่งนับว่าเป็นระดับต่ำกว่าอัตราดอกเบี้ยนโยบายของเฟดที่อยู่ในช่วง 2.25-2.5% ทำให้คาดหวังว่าอัตราดอกเบี้ยจะลดลงได้ และหากดอกเบี้ยลดลงก็จะส่งผลให้ค่าเงินดอลลาร์อ่อนค่า และมีเงินไหลกลับเข้ามาในตลาดหุ้นเกิดใหม่ (Emerging Market) ที่ก่อนหน้านี้ไม่ได้ปรับขึ้นมาก ทำให้อาจมีเม็ดเงินไหลเข้ามาก่อนในช่วงนี้

สำหรับปัจจัยในประเทศ ที่ในวันพรุ่งนี้ (5 มิ.ย.) จะมีการเลือกนายกรัฐมนตรี หลังจากนั้นก็จะมีการจัดตั้งรัฐบาล แม้อาจจะไม่ได้เป็นรัฐบาลที่มีเสถียรภาพมากนัก และส่วนใหญ่ตลาดก็ตอบรับไปบ้างแล้ว อย่างไรก็ตามตลาดคาดหวังว่าจะมีนโยบายออกมาเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจในอนาคต รวมถึงอาจจะทำให้มีแรงซื้อเข้ามาจากความคาดหวังว่าจะมีกองทุนที่กลับมาลงทุนได้ในประเทศที่มีรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง ส่งผลให้มีเม็ดเงินเข้ามาในตลาดหุ้นไทยในช่วงนี้

ส่วนแนวโน้มการซื้อขายช่วงบ่าย คาดว่าดัชนีจะยังยืนทรงตัวในแดนบวก หากไม่มีปัจจัยลบเข้ามาเพิ่มเติม โดยมีแนวรับที่ 1,623 จุด และแนวต้านที่ 1,640 จุด โดยตลาดยังต้องจับตาแรงซื้อของต่างชาติว่าจะมีความต่อเนื่องหรือไม่ ซึ่งคงต้องรอดูทิศทางที่ชัดเจนภายหลังการประชุมเฟดในช่วงกลางเดือนนี้ด้วย

 

ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ ได้แก่

CPALL  มูลค่าการซื้อขาย 3,076.64 ล้านบาท ปิดที่   82.50 บาท เพิ่มขึ้น  2.75 บาท

AOT    มูลค่าการซื้อขาย 2,157.57 ล้านบาท ปิดที่   64.75 บาท เพิ่มขึ้น  1.00 บาท

PTTEP  มูลค่าการซื้อขาย 1,594.82 ล้านบาท ปิดที่  123.00 บาท ลดลง   2.50 บาท

PTT    มูลค่าการซื้อขาย 1,544.57 ล้านบาท ปิดที่   46.25 บาท ราคาไม่เปลี่ยนแปลง

ADVANC มูลค่าการซื้อขาย   761.48 ล้านบาท ปิดที่  195.50 บาท เพิ่มขึ้น  2.50 บาท

Back to top button