ปัญหากรีซกดดันต่อเนื่องSET บ่ายแกว่งตัวแดนลบ

SET ช่วงเช้าปรับลงตามตลาดภูมิภาค หลังได้รับผลกระทบปัญหาหนี้กรีซที่ยืดเยื้อ อีกทั้งยังได้รับแรงกดดันจากหุ้นขนาดใหญ่ ช่วงบ่ายคาดดัชนีทรงตัวในแดนลบ พร้อมให้กรอบแกว่ง 1,470-1485 จุด


ข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์รายงาน ตลาดหุ้นไทยดัชนี SET ช่วงเช้า (8 ก.ค.) ปรับตัวลงตามตลาดหุ้นภูมิภาค โดยตลาดบ้านเราเจอแรงกดดันจากหุ้นกลุ่มพลังงานหลังราคาน้ำมันผันผวน รวมถึงหุ้นกลุ่มแบงก์ที่เจอปัญหา Flow ไหลออก และเงินบาทอ่อนค่าต่อเนื่อง ขณะที่ การแก้ไขปัญหากรีซยังยืดเยื้อออกไปเป็นวันอาทิตย์นี้ และหากยังหาข้อสรุปไม่ได้กรีซอาจจะต้องออกจากกลุ่มยูโรโซน

นักวิเคราะห์คาดช่วงบ่าย ดัชนีหุ้นไทยทรงในแดนลบ โดยประเมินว่าตลาดหุ้นยุโรปอาจจะเปิดลบเช่นกัน พร้อมให้กรอบการแกว่งที่ 1,470-1485 จุด ขณะที่ แนะนำซื้อ INTUCH-ADVANC และ SVOA

 

นายณัฐชาต เมฆมาสิน ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ทรีนีตี้ เปิดเผยถึงดัชนีหุ้นไทยเช้านี้ปรับตัวลงตามตลาดหุ้นภูมิภาค ซึ่งรับผลจากการแก้ไขปัญหาหนี้กรีซยืดเยื้อ ภายหลังการเจรจากับสหภาพยุโรป (EU) วานนี้กรีซไม่ได้เตรียมแผนปฏิรูปมาเสนอตามที่กล่าวไว้ ส่งผลให้การเจรจาต้องเลื่อนออกไปเป็นวันอาทิตย์นี้ ขณะที่เจ้าหนี้เริ่มจะเข้มงวดกรีซมากขึ้นและพยายามให้จบภายในสัปดาห์นี้ ดังนั้นหากการเจรจาไม่สำเร็จก็มีโอกาสที่กรีซจะต้องออกจากยูโรโซน

นอกจากนี้ การเคลื่อนไหวของราคาน้ำมันยังมีความเปราะบางกดดันหุ้นในกลุ่มพลังงาน ส่วนกลุ่มแบงก์ต้องเผชิญกับ Flow ไหลออก ส่งผลให้ดัชนีเจอกดดันจากหุ้นขนาดใหญ่ รวมทั้งเงินบาทอ่อนค่าลงต่อเนื่องทำให้ต่างชาติมีการนำเงินออกไปอีก

แนวโน้มการลงทุนบ่ายนี้ ตลาดหุ้นไทยคงทรงตัวในแดนลบ และคาดว่าตลาดในยุโรปเปิดเทรดในภาคบ่ายอาจทรงตัวในแดนลบเช่นกัน พร้อมให้กรอบการแกว่งไว้ที่ 1,470-1,485 จุด

 

บล.ธนชาต ระบุในบทวิเคราะห์ (8 ก.ค.) จากการที่รัฐบาลจีนปรับลดดอกเบี้ยเงินฝาก และเงินกู้ลง 0.25% รวมไปถึงลด RRR ลงตั้งแต่ปลายเดือนก่อน ยังไม่สามารถเพิ่มความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุนได้ โดยตลาดหุ้นจีนปรับลดลงต่อเนื่องตั้งแต่ต้นเดือน มิ.ย.ที่ผ่านมา ขณะที่เช้านี้ปรับลดลงเกือบ 4% ส่งผลกระทบต่อตลาดหุ้นโลก และ SET โดยมีแนวรับที่ 1,476/1,470 จุด

ทั้งนี้ ในภาวะตลาดหุ้นผันผวนจากปัญหากรีซ รวมถึงเศรษฐกิจฟื้นตัวช้า และราคาน้ำมันผันผวนตามค่าเงินดอลลาร์ ฝ่ายวิจัยแนะซื้อหุ้นในกลุ่มที่คาดการณ์ว่าจะ Outperform ตลาด โดยเฉพาะกลุ่มสื่อสาร INTUCH และ ADVANC ที่นอกจากมีปัจจัยบวกต่อปันผลกลางปี 2.8% แล้วยังมีประเด็นบวกจากการประมูล 4G ในเดือน พ.ย.รออยู่ โดยประเมินเป้าหมายระยะสั้น INTUCH ที่ 80.5 และถัดไปที่ 81.5 บาท

ขณะที่หุ้นทางเทคนิคที่น่าสนใจทางเทคนิคได้แก่ SVOA ด้วยเป้าหมายระยะสั้นที่ 1.75 บาท และถัดไปที่ 1.84 บาท ที่มีประเด็นเก็งกำไร ตามบริษัทลูกอย่าง LIT (ถือหุ้น 47%) หลังปรับราคาหุ้นปรับขึ้นแรง โดย SVOA มี Market Cap ราว 1.17 พันล้านบาท ซึ่งใกล้เคียงกับ NAV ที่ถือหุ้น LIT+IT รวมกันราว 1.14 พันล้านบาท

 

บล.เอเอสแอล ระบุในบทวิเคราะห์ (8 ก.ค.) ว่า SET เช้านี้เคลื่อนไหวแดนลบ ตามตลาดหุ้นเอเชีย เนื่องจากนักลงทุนเริ่มชะลอการซื้อขายหลังการประชุมปัญหาหนี้กรีซของยูโรกรุ๊ปเมื่อคืนสิ้นสุดลงโดยไม่ได้ข้อสรุปใดๆ ซึ่งนัดประชุมกันอีกครั้งในวันที่ 12 ก.ค.นี้ และการเจรจายกเลิกมาตรการคว่ำบาตรอิหร่าน ยังไม่สามารถหาข้อตกลงกันได้ โดยเลื่อนเส้นตายใหม่วันที่ 10 ก.ค.

ทั้งนี้ จากราคาน้ำมันดิบเบรนท์ปรับตัวสูงขึ้นเล็กน้อยจากความคาดหวังว่า ปริมาณน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐที่จะประกาศในวันนี้ โดย EIA จะลดลงมากกว่าที่คาดการณ์

ขณะที่ วานนี้ตลาดหุ้นจีนร่วงอย่างมาก ส่งผลให้ทางการจีนต้องออกมาตรการฉุกเฉินเพื่อป้องกันตลาดหุ้นดิ่งลง แต่ไม่สามารถสกัดการร่วงลงของตลาดได้ จึงระงับการซื้อขายหุ้นของบริษัทอย่างน้อย 1,249 รายในตลาดหุ้นจีน หรือ 43% ของหุ้นทั้งหมดในตลาด

แนวโน้มการลงทุนเชิงเทคนิค ดัชนีหุ้นไทยกลับตัวลงมาอยู่ในกรอบสามเหลี่ยม Falling Wedges อีกครั้ง และยังคงอยู่ในเขต Oversold คาดจะแกว่งตัวในกรอบ 1,470-1,479

 

สรุป 5 หลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุดภาคเช้า

PTT มูลค่าการซื้อขาย 1,221.74 ล้านบาท ปิดที่ 342.00 บาท ลดลง 7.00 บาท

KBANK มูลค่าการซื้อขาย 807.53 ล้านบาท ปิดที่ 180.00 บาท ลดลง 2.00 บาท

ADVANC มูลค่าการซื้อขาย 650.03 ล้านบาท ปิดที่ 243.00 บาท ไม่เปลี่ยนแปลง

SCB มูลค่าการซื้อขาย 603.19 ล้านบาท ปิดที่ 148.50 บาท ลดลง 3.00 บาท

PTTGC มูลค่าการซื้อขาย 514.34 ล้านบาท ปิดที่ 67.25 บาท เพิ่มขึ้น 0.50 บาท

 

ที่มา: สำนักข่าวอินโฟเควสท์

Back to top button