พาราสาวะถี

มีปัญหาไม่จบสิ้นกับรัฐบาลผสม 19 พรรค ทั้งเรื่องภายในพรรคสืบทอดอำนาจและคุณสมบัติของว่าที่รัฐมนตรีต่างพรรค คงโทษใครไม่ได้เพราะทั้งหมดเกิดจาก พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา คนยึดอำนาจแล้วต้องการบริหารต่อ ที่วางกฎ กติกา มารยาทไว้อย่างเคร่งครัด ทำทางให้ตัวเองเดินได้คนเดียว แต่พวกที่จะมาร่วมมีอันติดขัดกันเป็นแถว ดูอย่าง 8 รายชื่อว่าที่รัฐมนตรีที่เจ้าตัวตีกลับนั่นปะไร ล้วนแล้วแต่เกิดจากปัจจัยที่องคาพยพและท่านผู้นำตั้งกำแพงไว้ทั้งหมด


อรชุน

มีปัญหาไม่จบสิ้นกับรัฐบาลผสม 19 พรรค ทั้งเรื่องภายในพรรคสืบทอดอำนาจและคุณสมบัติของว่าที่รัฐมนตรีต่างพรรค คงโทษใครไม่ได้เพราะทั้งหมดเกิดจาก พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา คนยึดอำนาจแล้วต้องการบริหารต่อ ที่วางกฎ กติกา มารยาทไว้อย่างเคร่งครัด ทำทางให้ตัวเองเดินได้คนเดียว แต่พวกที่จะมาร่วมมีอันติดขัดกันเป็นแถว ดูอย่าง 8 รายชื่อว่าที่รัฐมนตรีที่เจ้าตัวตีกลับนั่นปะไร ล้วนแล้วแต่เกิดจากปัจจัยที่องคาพยพและท่านผู้นำตั้งกำแพงไว้ทั้งหมด

ไล่ตั้งแต่คนกันเองในระดับนำอย่าง ณัฏฐพล ทีปสุวรรณ ว่าที่รัฐมนตรีศึกษาธิการ ที่ติดบ่วงเรื่องการถูกร้องถือครองหุ้นสื่อ วันนี้เรื่องคาอยู่ที่ศาลรัฐธรรมนูญ ถ้ายึดตามประเพณีปฏิบัติหรือความเหมาะความควร ผู้ที่ยังมีปัญหา ก็ไม่สมควรที่จะนำรายชื่อขึ้นทูลเกล้าฯ เพื่อทรงมีพระบรมราชวินิฉัย อันจะถือเป็นการระคายเคืองเบื้องพระยุคลบาท งานนี้ถือเป็นคราวเคราะห์ของแกนนำกปปส.ผู้ไม่หวังตำแหน่งแต่ได้รับการปูนบำเหน็จเสียใหญ่โตจริง ๆ

เหตุที่บอกว่าเป็นกรรม เนื่องจากกติกาเรื่องการถือครองหุ้นสื่อนั้นก็ถูกร่างโดยเนติบริกรของคณะเผด็จการคสช.นั่นแหละ ซึ่งมีปัญหาในประเด็นความไม่ชัดเจนว่าระดับไหนถึงจะทำให้ขาดคุณสมบัติ แต่คำพิพากษาของศาลฎีกาแผนกคดีเลือกตั้งกรณีผู้สมัครส.ส.เขต 1 สกลนคร พรรคอนาคตใหม่ มาจนถึงรายของ ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคเดียวกันที่ศาลรัฐธรรมนูญได้ดำเนินการไป ดังนั้น ไม่ว่าใครเจอกรณีนี้จึงเป็นเรื่องที่ทำให้ปวดขมับกันทุกคน

ไม่เพียงเท่านั้น กรณีหุ้นสื่อยังมีว่าที่รัฐมนตรีต่างพรรคกับณัฏฐพลอีก 3 รายที่ถูกร้องด้วยคือ สาธิต ปิตุเตชะ ว่าที่รมช.สาธารณสุขจากประชาธิปัตย์ หม่อมราชวงศ์จัตุมงคล โสณกุล ว่าที่รมว.ต่างประเทศของรวมพลังประชาชาติไทย และ เทวัญ ลิปตพัลลภ ว่าที่รมช.อุตสาหกรรมหัวหน้าพรรคชาติพัฒนา ขณะที่รัฐมนตรีอีก 4 รายก็มีปัญหาที่ต่างกันไป

ไล่ตั้งแต่ นิพนธ์ บุญญามณี ว่าที่รัฐมนตรีช่วยมหาดไทยจากค่ายเก่าแก่ ที่ยอมสละเก้าอี้นายกอบจ.สงขลาเพื่อมาเป็นเสนาบดี แต่ทำท่าจะไปไม่ถึงฝันเมื่อพบว่ามีเรื่องถูกร้องเรียนเกี่ยวกับการทุจริตที่ค้างคาอยู่ในชั้นป.ป.ช.ถึง 5 เรื่อง ส่วนอีก 3 รายนั้นมาจากพรรคภูมิใจไทยล้วน ๆ แล้วก็เป็นปัญหาที่ท่านผู้นำคงไม่อยากให้เกิดนั่นก็คือ ภาพลักษณ์ส่วนตัว

โดย “เสี่ยโอ๋” ศักดิ์สยาม ชิดชอบ เลขาธิการพรรคว่าที่รมว.คมนาคม น้องชายของ เนวิน ชิดชอบ ถูกมองเรื่องภาพลักษณ์ในความใกล้ชิดกับกลุ่มทุนการเมืองรายใหญ่ ซึ่งจะว่าไปก็รู้กันอยู่แล้วนั่นก็คือบริษัทที่ทำธุรกิจกับสินค้าปลอดภาษีนั่นเอง อีกรายคือ “เสี่ยแป้งมัน” วีระศักดิ์ หวังศุภกิจโกศล คนนี้อาจจะพิเศษหน่อยตรงที่เป็นคู่กรณีโดยตรงกับ “แรมโบ้อีสาน” สุภรณ์ อัตถาวงศ์ จากค่ายสืบทอดอำนาจ ที่ยังมีคดีคาราคาซังกันอยู่เกี่ยวกับการลอบสังหาร

ส่วนรายสุดท้ายไม่ได้อยู่เหนือความคาดหมาย ชาดา ไทยเศรษฐ์ ว่าที่รมช.เกษตรและสหกรณ์ ผู้กว้างขวางแห่งอุทัยธานี ภาพของผู้มีอิทธิพลและแน่นอนว่าต้องเป็นหนึ่งในลิสต์ของฝ่ายความมั่นคงอยู่แล้ว แต่กรณีนี้ไม่มีปัญหาเพราะเจ้าตัววางทางถอยไว้แล้ว โดยจะให้น้องสาวอย่าง มนัญญา ไทยเศรษฐ์ นายกเทศมนตรีเมืองอุทัยธานีมานั่งเก้าอี้รัฐมนตรีแทน ซึ่งก็ได้รับไฟเขียวจาก อนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

แต่คำขอของท่านผู้นำในรายของเลขาธิการพรรคภูมิใจไทยคงได้รับการปฏิเสธจากเสี่ยหนูแน่นอน เพราะถ้าเสี่ยโอ๋ไม่ได้เป็นรัฐมนตรี นี่เท่ากับเสถียรภาพภายในพรรคสั่นคลอนทันที ขณะเดียวกันเหตุผลเรื่องภาพลักษณ์คงไม่น่าจะมีน้ำหนักพอที่ทำให้ฝั่งเสนอยอมถอยได้ ยิ่งมองย้อนกลับไปยังบุคลากรภายในพรรค หากหลุดจากตรงนี้ไปคงจะหาใครที่มีบารมีมานั่งกุมบังเหียนที่กระทรวงหูกวางได้ยาก ดังนั้น กรณีนี้คงต้องยืนกระต่ายขาเดียว อยู่ที่ว่าท่านผู้นำจะแก้เกมอย่างไร

จะว่าไปแล้วปัญหาสารพัดที่เกิดขึ้นไม่ได้อยู่นอกเหนือความคาดหมายของบุคคลทั่วไป เพราะรัฐบาลผสมหลายพรรคประกอบกับผู้มีอำนาจก็ไม่ยอมปล่อยวางเก้าอี้เพื่อคนของตัวเอง เมื่อยังคงมีทั้งที่กินรวบและกินแบ่งให้พวกบ้างเพื่อให้ตัวเองได้ไปต่อ มันย่อมเกิดสถานการณ์ความไม่ลงตัวเหมือนการเมืองปกติอย่างแน่นอน ประกอบกับวิธีการที่ใช้มีปัญหาตั้งแต่ก่อน ระหว่างและหลังเลือกตั้งอันสะท้อนถึงภาพความไม่สุจริต โปร่งใส เมื่อได้ไปต่อมันย่อมเต็มไปด้วยข้อกังขา

ไม่เพียงเท่านั้น ส.ว.ลากตั้งที่ถูกเลือกมาเพื่อยกมือโหวตผู้นำเผด็จการโดยเฉพาะ เอาแค่ประเด็นกรรมการสรรหาผลประโยชน์ทับซ้อนขนาดไหน ไม่ต้องใช้ข้ออ้างทางกฎหมายใด ๆ ใช้เพียงสามัญสำนึก สำเหนียกแห่งความเป็นคนดีล้วน ๆ ตรึกตรองดูว่าสมควร เหมาะสมหรือไม่ เพราะ 10 คนที่เป็นกรรมการ 6 รายได้รับการเลือกหรือเลือกตัวเอง (หรือเปล่า) ไปเป็นส.ว.เพื่อเลือกท่านผู้นำกลับมาเป็นนายกฯ อีกกระทอก ส่วนอีก 4 รายก็ได้รับเลือกจากท่านผู้นำกลับมาเป็นรัฐมนตรีครบทุกคน

จะอ้างอย่างไรก็สุดแท้แต่ เพราะเวลานี้ทั้งสีข้างก็ถลอกปอกเปิกไปหมดแล้ว ไม่ต้องพูดถึงสันหลังว่ามันเหวอะหวะขนาดไหน ในบริบทที่ยังคงใช้ผีทักษิณเที่ยวหลอกหลอนชาวบ้าน ในจังหวะที่ยังคงสร้างความขัดแย้งเพื่อหล่อเลี้ยงให้อำนาจสืบทอดได้ใช้เป็นข้ออ้างในการทำบ้านเมืองให้สงบ คงต้องปล่อยให้เดินกันไปให้สุดทาง การเมืองไทยเชื่อได้อย่างหนึ่งว่าสุดท้ายมันจะหนีไม่พ้นกงเกวียนกำเกวียน เพียงแต่ว่าจะช้าหรือเร็วเท่านั้นเอง

การตื่นตัวของประชาชนจนทำให้ผู้มีอำนาจหวั่นไหว สะท้อนผ่านได้จากพานไหว้ครูของเด็กมัธยมหลายจังหวัด จนมาถึงพาเหรดกีฬาสีล่าสุดที่จังหวัดตรัง การแสดงออกของคนหนุ่มสาวในวัยขาสั้นคอซองโดยที่ปราศจากการชี้นำของผู้ใหญ่นั้น เป็นภาพชี้ให้เห็นอย่างหนึ่งว่า สังคมข่าวสารวันนี้มันทะลุทะลวงไปถึงไหนต่อไหนแล้ว อยู่แค่ว่ามันจะมีพื้นที่ให้ได้แสดงออกหรือไม่ สิ่งที่เห็นเป็นเครื่องพิสูจน์ว่าแรงแห่งการกดทับที่มีมาตลอดกว่า 5 ปีนั้น กำลังรอวันที่จะระเบิดได้ตลอดเวลา

Back to top button